กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--กทม.
กรุงเทพมหานคร หวังลดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนจากอุบัติเหตุจราจร จัดกิจกรรม “ง่วงเมา เราไม่ขับ นอนหลับให้พอเพียง” รณรงค์ร่วมกับมูลนิธิรามาธิบดีในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อลดอุบัติเหตุจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์วินัยจราจร “ง่วงเมา เราไม่ขับ นอนหลับให้พอเพียง” โดยมีนายจิม พันธุมโกมล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานทุนง่วงอย่าขับ มูลนิธิรามาธิบดีในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และผู้เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรมรณรงค์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ร่วมกับมูลนิธิรามาธิบดีฯ และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมรณรงค์วินัยจราจร “ง่วงเมา เราไม่ขับ นอนหลับให้พอเพียง” เพื่อมุ่งหวังลดอุบัติเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยเฉพาะช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยจะติดสติ๊กเกอร์รณรงค์ “ง่วงเมา เราไม่ขับ นอนหลับให้พอเพียง” ด้านข้างรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. เพื่อประชาสัมพันธ์กระตุ้นเตือนประชาชนอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครมีนโยบายดูแลด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งอุบัติเหตุจราจรเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินประการหนึ่ง จึงได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง รณรงค์สร้างเสริมวินัยจราจรให้ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิธีการหลายรูปแบบ เช่น การรณรงค์ทางสื่อวิทยุโทรทัศน์ แผ่นพับ โปสเตอร์ ป้ายประชาสัมพันธ์ของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งการจัดกิจกรรมสวนจราจรเคลื่อนที่ และการจัดกิจกรรมรณรงค์วินัยจราจรในเทศกาลต่างๆ ทั้งนี้ได้กำหนดเป้าหมายในการรณรงค์วินัยจราจร 4 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ กลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล กลุ่มผู้ขับขี่รถสาธารณะและบรรทุกขนาดใหญ่ และกลุ่มประชาชนคนเดินเท้า
สำหรับอุบัติเหตุจราจรเป็นหนึ่งในสาเหตุของการบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิตในลำดับต้นของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะทำให้สูญเสียทรัพย์สิน บาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตแล้ว ยังมีผลกระทบต่อการเกิดปัญหาจราจร รวมทั้งเกิดความสูญเสียทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ด้วย โดยการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความประมาทของผู้ใช้รถ ใช้ถนน ไม่มีวินัยจราจร ไม่มีน้ำใจ ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ขาดจิตสำนึกในด้านความปลอดภัย เช่น เมาแล้วขับ ความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เนื่องจากการทำงานและพักผ่อนไม่พอเพียง เป็นต้น