กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--กทช.
สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รับหน้าเสื่อเป็นแกนนำร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงอุตสาหกรรม และมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยมี “ยุทธศาสตร์” ในการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม
ดร.โกศล เพ็ชร์สุวรรณ์ ประธานกรรมการบริหารงาน สถาบันวิจัยและอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ทางสถาบัน ฯ ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ระหว่าง สถาบันฯ กับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยนายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการฯ และมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง โดยนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ประธานมูลนิธิฯ ขึ้นในวันนี้ โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนยันว่า ทั้ง 3 หน่วยงานดังกล่าวข้างต้น มีเจตจำนงที่จะร่วมมือกันในการศึกษาวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
“ความร่วมมือระหว่างกันนี้ จะคำนึงถึงศักยภาพของทรัพยากรที่แต่ละฝ่ายมีอยู่ และจะมีการหารือร่วมกัน โดยคำนึงถึงผลตอบแทนและผลประโยชน์ร่วมของทั้งสามฝ่าย ภายใต้ข้อตกลงและหลักการของความร่วมมือในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยมี “ยุทธศาสตร์” ในการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม และนำประเทศไปสู่เศรษฐกิจยุคใหม่” ดร.โกศล เผย
ดร.โกศล กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าว มีสาระสำคัญประกอบด้วย 4 ข้อหลัก ๆ คือ
ข้อ 1 สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ได้ทำความตกลงร่วมกันที่จะประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ในการส่งเสริมสนับสนุนงานศึกษาวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งมีหน้าที่ในการสนับสนุนการสร้างความรู้เพื่อการกำหนดนโยบายในการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ตกลงที่จะเป็นหน่วยงานนำในการสนับสนุนการวิจัยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งรวมถึงการวางแนวทางงานวิจัยเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม การร่วมมือในการทำวิจัย การให้ทุนวิจัย และการนำงานวิจัยไปสู่การปฏิบัติ
ข้อ 2 มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยเชิงนโยบายที่ไม่แสวงหากำไรตกลงที่จะเป็นหน่วยงานนำในด้านการศึกษาวิจัย ซึ่งรวมถึง การร่วมทำงานวิจัย การกำกับงานวิจัย และการจัดหานักวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้อง บรรลุวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการกิจการโทรคมานาคมแห่งชาติ รวมทั้งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการกำหนดนโยบายด้านโทรคมนาคมของประเทศ
ข้อ 3 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนตกลงที่จะให้ความร่วมมือสนับสนุนการวิจัย โดยเฉพาะในด้านการให้ข้อคิดเห็นเชิงนโยบาย การจัดหาข้อมูลรายชื่อของผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนและประสานงานกับผู้ประกอบการภายใจ้การกำกับดูแลของสำนักงานฯ เพื่อให้ข้อคิดเห็นเชิงนโยบายที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาวิจัย
ข้อ 4 ทั้งสามฝ่ายตกลงจะให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด ภายใต้หลักการความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจฉบับนี้
ดร.โกศล เผยว่า สำหรับหลักการความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจ มีใจความสำคัญอยู่ 2 ส่วน คือ ทั้งสามฝ่ายจะลงนามในบันทึกความเข้าใจ และเริ่มความร่วมมือระหว่างกันโดยใช้ประโยชน์ของทรัพยากรที่มีอยู่ในแต่ละฝ่ายอย่างเต็มประสิทธิภาพ และจะมีการติดตามประเมินผลความร่วมมือตามข้อตกลงในบันทึกฉบับนี้เป็นระยะ ๆ ทุกปี โดยบันทึกความเข้าใจนี้ จะมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ลงนามเป็นระยะเวลา 3 ปี เว้นแต่จะมีการต่ออายุ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการขอยกเลิกก่อนกำหนด จะต้องมีการแจ้งยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ทุกฝ่าย และการยกเลิกจะมีผลภายใน 60 วัน นับจากวันที่แจ้ง
โครงการศึกษาวิจัยนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะแรก เป็นช่วงของการสำรวจเบื้องต้นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์โทรคมนาคมไทย
ระยะที่สอง เป็นการนำเสนอผลการสำรวจจากโครงการระยะแรก มาขยายผล/ต่อยอดเพื่อจัดทำระบบฐานข้อมูลอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์โทรคมนาคม
ระยะที่สาม เป็นการศึกษาวิจัยเชิงลึกเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์โทรคมนาคมของไทย
“ความร่วมมือในครั้งนี้ ระหว่างหน่วยงานทั้ง 3 ฝ่าย จะนำไปสู่การวิจัยเทคโนโลยีและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยให้ก้าวทันโลก ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามรูปแบบ “เศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อให้กิจการสื่อสารของชาติมีโอกาสได้พัฒนาอย่างเต็มที่ และสามารถอำนวยประโยชน์แก่การสร้างเสริมเศรษฐกิจ สังคม และเสถียรภาพของบ้านเมืองได้อย่างสมบูรณ์แท้จริง ตามพระบรมชาโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม พ.ศ 2526” ดร.โกศลกล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
โทรศัพท์ : 0-2271-0151 ต่อ 314 โทรสาร : 0-2290-5240
โทรศัพท์มือถือ : 08-4751-1026