สถานทูตอิตาลี จับมือ ห้างเซ็นทรัล ร่วมเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาเตรียมจัดโชว์ตระการตาแฟชั่นชั้นสูงอิตาลี 84 ชุด

ข่าวทั่วไป Friday July 1, 2011 12:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--สรรพสินค้าเซ็นทรัล สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี ประจำประเทศไทย และ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ร่วมด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) แถลงเตรียมจัดนิทรรศการ “Glamour, 60 Years of Italian Fashion” เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา ชวนชมศิลปะการออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นชั้นสูงของประเทศสาธารณรัฐอิตาลี ที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 60 ปี ผ่านผลงาน 24 ดีไชเนอร์ชั้นนำของโลกชาวอิตาเลี่ยน จำนวน 84 ชุด สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกในเมืองไทย ที่มีการรวบรวมผลงานจากแฟชั่นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงของโลกชาวอิตาเลี่ยนมาให้ชมมากที่สุด และมีมูลค่ารวมสูงที่สุด โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14 ถึง 31 ก.ค. 54 ณ ดิ อีเว้นท์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ฯพณฯ นายมิเกลันเจโล ปิปัน (H.E. Mr. Michelangelo Pipan) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี ประจำประเทศไทย กล่าวภายในงานเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งจัดขึ้น ณ บริเวณล็อบบี้เลาจน์ ชั้น 1 ห้างเซ็นทรัลชิดลมว่า นิทรรศการครั้งนี้เป็นเสมือนสื่อกลางในการถ่ายทอดความเป็นมาของแฟชั่นอิตาลี นำเสนอการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และการผลิตแฟชั่นชั้นสูงของอิตาลีตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2494-2554) นิทรรศการจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย หากขาดคอลเลคชั่นที่น่าชม ผมขอขอบคุณ Mr.Giorgio Forni, President of the Foundation ที่ให้ความร่วมมือกับสถานทูตฯ และห้างเซ็นทรัลฯ โดยส่งคอลเลคชั่นที่หาชมได้ยากมาจัดแสดง “ผู้เข้าชมนิทรรศการ จะสัมผัสได้ถึงความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ ดังคำที่ว่า ‘Made in Italy’ และกระบวนการคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นที่กล่าวถึงของอิตาลี นอกจากนี้ การจัดนิทรรศการนี้ ยังเป็นเสมือนการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีงาม ระหว่างประเทศไทยและประเทศอิตาลีอีกด้วย” คุณปิยวรรณ ลีละสมภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ได้มีการจัดเตรียมนิทรรศการครั้งนี้ โดยปรึกษาหารือกับทางสถานทูตอิตาลีต่อเนื่องมาหลายปีจนได้ข้อสรุปและลงตัวในปีนี้ “ในฐานะที่ห้างเซ็นทรัลเป็นผู้นำแฟชั่น เราได้เล็งเห็นความน่าสนใจของศิลปะการออกแบบแฟชั่นชั้นสูงของประเทศอิตาลี ที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 60 ปี ซึ่งในแวดวงแฟชั่นของโลกต่างทราบดีว่า แฟชั่นชั้นสูงของอิตาลีมีความโดดเด่น มีชื่อเสียงด้านการออกแบบ และมีความประณีตในการตัดเย็บ มักถูกเลือกใช้จากราชวงศ์ต่างๆ และบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วโลกเสมอ จึงทำให้เรามีความสนใจอยากจะเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะคนไทยได้มีโอกาสรับชม และยังนับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของเมืองไทย ที่มีการรวบรวมแฟชั่นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงของโลกชาวอิตาเลี่ยนมาให้ชมมากที่สุด และมีมูลค่ารวมสูงที่สุดอีกด้วย” “ที่สำคัญยังเป็นโอกาสมหามงคลที่ปีนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา เราจึงจัดนิทรรศการครั้งนี้ขึ้น เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ โดยคัดสรรมา 84 ชุด ซึ่งล้วนแต่หาชมได้ยาก บางชุดมีเพียงชุดเดียวในโลก และบางชุดยังไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน ซึ่งจะทำให้ได้เห็นถึงวิวัฒนาการของแฟชั่นอิตาลีว่ามีความเป็นมาอย่างไร” ด้าน คุณสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้ความสนับสนุนหลัก เปิดเผยว่าที่ผ่านมาธนาคารให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะของไทยหรือต่างชาติ ล้วนแต่น่าสนใจเรียนรู้ ทำให้ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ “ธนาคารจึงมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมสนับสนุนในการนำงานศิลปะการออกแบบแฟชั่นอันทรงคุณค่า และหาชมได้ยากนี้ มาจัดแสดงให้ประชาชนทั่วไป ตลอดจนนักเรียน นักศึกษาได้ชม ซึ่งเชื่อว่านิทรรศการในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ในการให้ความรู้ถึงความเป็นมาของแฟชั่นชั้นสูงของอิตาลี ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ชวนให้ศึกษาเพื่อเป็นความรู้ รวมไปถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สนใจแฟชั่น และนักออกแบบแฟชั่นคนไทย ที่จะพัฒนาตนเองเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น ก้าวสู่เวทีแฟชั่นระดับโลกต่อไป” ขณะที่ คุณกุลวิทย์ เลาสุขศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นของเมืองไทย และเคยจับงานการจัดนิทรรศการระดับประเทศมามาก ซึ่งเป็นกำลังหลักในการจัดนิทรรศการนี้ ได้เล่าให้ฟังถึงวิธีการทำงานว่า เริ่มต้นจากการมองหาลักษณะเด่นของแฟชั่นอิตาลี ซึ่งได้ข้อสรุปว่า คือ GLAMOUR หรือ ความโก้ตระการตา ที่แสดงออกมาในงานออกแบบอิตาเลี่ยนได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นลักษณะทางวัฒนธรรมที่เห็นได้ชัดมาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ นิทรรศการครั้งนี้ จึงได้นำลักษณะเด่นนี้มาเป็นแนวคิดเสนอออกมาในโซนต่างๆ อย่างครบรส และไม่หนักจนเกินไป “และเนื่องในโอกาส ครบ 60 ปี แฟชั่นอิตาลี เราจึงอยากนำเสนอให้เห็นถึงวิวัฒนาการของแฟชั่นแต่ละช่วง เช่น 1960-1970 แฟชั่นเป็นอย่างไร ความจริงแล้วอิตาเลี่ยนดีไซเนอร์มีหลายคนมากที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ แต่คนไทยอาจจะไม่คุ้นชื่อ เช่น คาปุชชี่ แต่มีชื่อเสียงมากในยุคนั้น จึงหาชมยากมาก ซึ่งงานนี้ก็จะนำมาจัดแสดง โดยโชว์นี้ได้รวบรวมเสื้อผ้าแฟชั่นสไตล์คลาสสิกตั้งแต่ยุค 1950 มาจนถึงยุค Modern ถือได้ว่าเป็นโชว์ Retrospective ของวงการแฟชั่นอิตาเลี่ยนเลยก็ว่าได้” คุณฟอร์ด-กุลวิทย์ เล่าต่อไปว่าในนิทรรศการครั้งนี้ จะจัดแสดงผลงานของ 24 ดีไชเนอร์ชั้นนำของโลกชาวอิตาเลี่ยน อาทิ Balestra, Emilio Pucci, Emporio Armani, Gianfranco Ferr?, Gucci, Moschino, Sorelle Fontana, Valentino, Versace ฯลฯ รวม 84 ชุด โดยแบ่งเป็น 5 โซน ดังนี้ 1.Flash Back: ภาพการแสดงแฟชั่นโชว์ในอดีต 2.Hall of Italian Designers: เรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบันของแฟชั่นดีไซเนอร์ อิตาลี และผลงานของท็อปแฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอิตาเลี่ยน (40 กว่าชุด) เช่น อาร์มานี่ (Armani), บา เลสตรา (Balestra), คาปุชชี่ (Capucci), กาเมริโน (Camerino), อัลแบร์ตา เฟอร์เรตตี้ (Alberta Feretti), จิอานฟรังโก้ เฟอร์เร่ (Gianfranco Ferr?), วาเลนติโน่ (Valentino) และ เวอร์ซาเช่ (Versace) เป็นต้น โดยจะเล่าถึงประวัติ พร้อมแสดงผลงานของแต่ละท่าน 3.Signature Print: จัดแสดงแฟชั่นดีไซเนอร์ผ้าพิมพ์ลาย (Print) ของแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดัง เช่น เอมิลิโอ ปุชชี่ (Emilio Pucci), เคน สก็อตต์ (Ken Scott) เป็นอาทิ 4.Red Gallery: จัดแสดงแฟชั่นดีไซเนอร์โดยเน้นสีแดง ตอกย้ำความเป็น Iconic Color ของแฟชั่นอิตาลี 5.Hall of Fame: จัดแสดงชุดหาชมได้ยาก ซึ่งเคยสวมใส่โดยสตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ ฉลองพระองค์ของ เจ้าหญิงไดอานา แห่งเวลส์ (Diana, Princess of Wales) และเจ้าหญิงเกรซ เคลลี แห่งโมนาโก (Princess Grace of Monaco) ชุดที่ จูเลีย โรเบิร์ต สวมขึ้นรับรางวัลออสการ์ ชุดของ แจ๊กเกอลีน เคนเนดี้ (Jacqueline Kennedy), นิคโคล คิดแมน, โซเฟีย ลอเรน ฯลฯ รวมถึงชุดมาสเตอร์พีซสะสมของเหล่าเซเลบริตี้เมืองไทย “ชุดที่ผมชอบที่สุดในโชว์นี้คือคาปุชชี่ ด้วยโครงสร้างซับซ้อน แต่ยังคง Modern รูปลักษณ์” คุณฟอร์ด-กุลวิทย์ ทิ้งท้าย ขณะเดียวกัน คุณวินัย ฉัยรักษ์พงศ์ Creative Director Bug Studio ได้เปิดเผยถึงการออกแบบสถานที่จัดนิทรรศการครั้งสำคัญนี้ว่า “แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรูปถ่ายงานแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของอิตาลี โดย Giovanni Battista เมื่อปี 1951 ผมว่ารูปนี้สื่อความหมายของคำว่า ‘กลามัวร์’ (Glamour) ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น องค์ประกอบต่างๆ ในรูปนี้จึงถูกถ่ายทอดผ่านการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น Space ที่ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Labyrinth Catwalk Space’ ที่สร้างรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจในการเดินชมเรื่องราวทั้งหมดของนิทรรศการนี้ โดย Space ทั้งหมด จะโอบล้อมด้วยวัสดุโปร่งแสง ที่ถูกออกแบบให้สะท้อนถึง Renaissance architecture เพื่อเป็นแบ็คกราวด์ที่จะช่วยสร้าง Illusion ให้ชุดทั้งหมดดูโดดเด่นเสมือน Art Object ที่มีคุณค่า โดยเฉพาะการจัดแสงที่ให้ออกมาในลักษณะ Active และ Passive เพื่อสร้างบรรยากาศในการชมนิทรรศการนี้ได้อย่างรื่นรมย์” สำหรับชุดตัวอย่างที่คณะผู้จัดงานเลือกนำมาแสดงให้ชมในการแถลงข่าว มีอาทิ ชุดของ คาปุชชี่ (Roberto Capucci) ซึ่งมีส่วนสำคัญมากในการปฏิวัติวงการแฟชั่นอิตาลี ในอดีตถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีความทันสมัยมาก มีความกล้าในการออกแบบที่ฉีกแนวจากแบรนด์อื่นๆ ในสมัยนั้น และมีชื่อเสียงสืบเนื่องมายาวนาน ชุดที่ 2.บาเลสตรา (Balestra) โดดเด่นที่มีความคลาสสิก ชุดของ ลา ดอลเช่ วิต้า (La Dolce Vita) ซึ่งเป็นไอคอนลุคขึ้นมา จากการที่นางเองหนังเรื่องนี้โด่งดังขึ้นมา และ 4.ชุดสีแดง เป็นตัวแทนของโซนชุดสีแดง รวมถึงตัวแทนชุดจากโซนเซเลบริตี้ เป็นต้น นิสิต นักศึกษา และผู้ที่สนใจงานออกแบบแฟชั่น ตลอดจนบุคคลทั่วไป สามารถเข้าชมนิทรรศการครั้งสำคัญนี้ได้ ณ ดิ เว้นท์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตั้งแต่วันที่ 14-31 กรกฎาคม 2554 เวลา 10:00 น. ถึง 22:00 น.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ