กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ปีสร้าง 2005
ประเทศ ญี่ปุ่น
ประเภท ตลก / ดรามา
กำกับ ทาเกชิ คิตาโน
แสดง ทาเกชิ คิตาโน, สุสุมุ เทราจิมะ, โคโตมิ เคียวโนะ
ฉาย 11 มกราคม 2007
official site www.office-kitano.co.jp/takeshis/
SYNOPSIS
หลายคนบอกว่า บีต ทาเกชิ (ทาเกชิ คิตาโน) กับ คิตาโน (ทาเกชิ คิตาโน) หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะแต่คนที่รู้จักทั้งคู่ดีจะทราบดีว่า แท้จริงแล้วชีวิตของสองคนนี้ แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
‘บีต ทาเกชิ’ นั้นเป็นนักแสดงใหญ่ ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางแสงสี มีผู้คนมากหน้าหลายตา รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง รุมล้อมมาโดยตลอด
ส่วน ‘คิตาโน’ กลับเป็น ‘ลูสเซอร์’ ขนานแท้ผู้มีโอกาสโด่งดังก็แต่เพียงในฝัน คิตาโนมีความฝันบรรเจิดว่าอยากเป็นดาราดังให้ได้เหมือนอย่าง ‘บีต ทาเกชิ’ นักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ในดวงใจ เขาเพียรพยายามไปเข้าออดิชันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่โชคก็ไม่เคยเข้าข้าง บางครั้งบางหนซวยหนัก ถึงขั้นไม่ทันได้แสดงความสามารถอะไรก็ถูกไล่กลับบ้านแล้ว...อย่างนั้นก็มี
ชีวิตประจำวันของคิตาโน นอกจากจะสาละวนกับการเทียวไล้เทียวขื่อเที่ยวออดิชันไปทั่วแล้ว ยังต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบทำงานหาเงินประทังชีพสารพัดอย่าง เป็นแคชเชียร์ในร้านสะดวกซื้อบ้าง หรือบางทีก็ต้องไปขับรถแท็กซี (แล้วก็มักซวย เจอผู้โดยสารบ้าๆ บอๆ เสมอ) นอกจากนั้นยังต้องใช้ความอดทนสูงสุดในการต่อสู้กับคำดูถูกถากถางของผัวเมียกวนตีนเพื่อนบ้านอีกด้วย
วันหนึ่ง พรหมลิขิตบันดาลชักพา นำ ‘บีต ทาเกชิ’ กับ ‘คิตาโน’ มาพบปะเจอะเจอกันทั้งที่มิได้นัดหมาย งานนี้นอกจากจะทำให้คิตาโนตื่นเต้นดีใจ(แบบหน้าตาย)ตามสไตล์แล้ว ยังทำให้ความฝันของเขาในอันที่จะเป็นนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ ยิ่งประทุบลุกโชนรุนแรงเกินห้ามใจอีกด้วย
FAST FACTS
- อย่างที่ทราบกัน งานนี้ ทาเกชิ คิตาโน ฮึกเหิมจัด นอกจากจะเขียนบทและกำกับเองแล้ว ยังแสดงควบ 2 บทเองอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเกรงว่าจะสับสนงุนงงไม่รู้ว่าใครเป็น ‘บีต ทาเกชิ’ ใครเป็น ‘คิตาโน’ เพราะหนังใช้มีจุดสังเกตให้ผู้ชมจำแนกแยกแยะได้แบบง่ายๆ นั่นก็คือ บีต ทาเกชิซึ่งเป็นดารานั้นจะ ‘หัวดำ’ ส่วนคิตาโนผู้ต่ำต้อยจะ ‘หัวทอง’
- Takeshis’ ถือได้ว่าเป็นโปรเจกต์สุดที่รักของทาเกชิ คิตาโนโดยแท้ เขาบอกว่า อยากจะทำหนังเรื่องนี้มาเป็นสิบปีแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีนายทุนคนไหนใจถึงพอที่จะให้เงินเขาทำเลย
จากปากคำของคิตาโน เดิมทีเดียวเขาตั้งชื่อโปรเจกต์นี้ว่า Fractals และพล็อตก็จะสับสนมึนงงกว่านี้เยอะ กล่าวคือ เขาตั้งใจจะให้มันเล่าถึงชายคนหนึ่งซึ่งเห็นตัวตนอีกด้านหนึ่งของตนเองหลุดเข้าไปอยู่ในโลกจินตนาการ และตัวตนที่หลุดเข้าไปอยู่ในโลกจินตนาการของชายผู้นั้น ก็จะเห็นอีกตัวตนหนึ่งของตนหลุดไปอยู่ในโลกจินตนาการอีกที เท่านี้ไม่พอ คิตาโนยังกะให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ (หมายความว่า มีตัวตนของอีตาผู้ชายคนนี้คนแล้วคนเล่าหลุดสู่โลกจินตนาการซ้ำแล้วซ้ำเล่า) แบบไม่มีจุดสิ้นสุดกันเลยทีเดียว (เข้าใจแล้วใช่ไหมว่า ทำไมถึงไม่มีใครที่ไหนยอมเปิดไฟเขียวให้ Fractals)
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดเมื่อคิตาโนยอมอ่อนข้อ เปลี่ยนพล็อตเสียใหม่ให้ซับซ้อนน้อยลงกว่าเดิม เปลี่ยนชื่อหนังเสียใหม่ หนำซ้ำยังยืนกรานหนักแน่นว่าเขาจะรับบทนำด้วยตนเอง โปรเจกต์นี้จึงผ่านฉลุย และกลายมาเป็นหนังสุดทะเยอทะยานอย่าง Takeshis’ ดังที่เห็น
- ทาเกชิ คิตาโนเริ่มประเดิมโหมโรงโปรโมต Takeshis’ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2005 ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ โดยใช้แบนเนอร์สีดำขนาดยักษ์พิมพ์ตัวหนังสือแดงสดว่า Takeshis’ พร้อมกันนั้นก็มีคำโปรยขายของว่า 500% Kitano โดยไม่มีข้อมูลอื่นใดแม้แต่เนื้อเรื่องย่อของหนังปรากฏอยู่เลย
ผลปรากฏว่า แบนเนอร์ดังกล่าวดึงดูดความสนใจของผู้ชมอย่างยิ่งยวด จนหลายคนถึงกับหงุดหงิดหัวเสีย เพราะอยากรู้ใจจะขาดอยู่แล้วว่า นี่มันหนังอะไรกันแน่วะ?!
- ความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมในข้อที่แล้ว บรรเทาเบาบางลงไปในอีก 2 เดือนต่อมา เมื่อมีการปล่อยทีเซอร์โปรโมตหนังตามโรงภาพยนตร์ต่างๆ ทั่วโตเกียว และไม่ถึง 2 เดือนถัดจากนั้น คิตาโนก็นำภาพยนตร์ Takeshis’ ฉบับสมบูรณ์ ไปเปิดตัวที่เทศกาลหนังเวนิซ ประเทศอิตาลี โดยได้รับเลือกให้เข้าฉายในสายประกวดเพื่อชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net