เครือข่ายการขนส่งทางบกสายแรกของเอเชียเปิดเส้นทางใหม่สู่เวียดนาม

ข่าวทั่วไป Thursday July 5, 2007 14:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
ด้วยงบประมาณการลงทุนที่เพิ่มขึ้นกว่า 6 ล้านยูโร ทำให้ทีเอ็นทีเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนรายแรกที่เปิดประตูเศรษฐกิจเชื่อมกลุ่มประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง หรือ East-West Economic Corridor (EWEC) ได้สำเร็จ
ทีเอ็นที ผู้นำธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนชั้นนำระดับโลก เปิดตัวเครือข่ายการขนส่งทางบกสายเอเชีย (Asia Road Network) ที่ขยายเส้นทางการขนส่งเข้าสู่ประเทศเวียดนามด้วยเม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นกว่า 6 ล้านยูโร (หรือประมาณ 280,680ล้านบาท) ซึ่งเป็นการลงทุนเพิ่มเติมจาก 2 ล้านยูโร (หรือประมาณ 93,560 ล้านบาท) ทำให้ขณะนี้มียอดรวมการลงทุนที่มากกว่า 8 ล้านยูโร (หรือประมาณ 374,240 ล้านบาท) ทีเอ็นทีวางแผนที่จะเปิดเส้นทางใหม่นี้เพื่อขยายการบริการต่อไปยังประเทศจีน โดยผ่านทางชายแดนฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนามภายในสิ้นปี 2550 และเมื่อโครงการเสร็จสิ้นลง เครือข่ายการขนส่งทางบกสายเอเชียนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเชื่อมต่อเมืองสำคัญกว่า 120 เมือง ตลอดเส้นทาง 4,000 กิโลเมตร
ภายหลังจากการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปลายปี 2548 เครือข่ายการขนส่งทางบกสายเอเชีย ของทีเอ็นทีได้เชื่อมโยงเส้นทางขนส่งจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์และไทยเข้าด้วยกัน ด้วยการทำงานของอุปกรณ์ติดตามตำแหน่งผ่านระบบดาวเทียมแบบเรียล-ไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง (Real-Time Global Positioning Satellite) ซึ่งถูกติดตั้งในรถบรรทุกทุกคัน ทำให้ผู้ใช้บริการไว้วางใจในมาตรฐานการบริการของทีเอ็นที และส่งผลให้ทีเอ็นทีมียอดการให้บริการขนส่งเพิ่มขึ้นเป็นอัตราตัวเลขสองหลักในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการขนส่งด่วนจากลูกค้าที่ต้องการจัดส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูง อาทิเช่น สินค้าอีเลคทรอนิค อะไหล่รถยนต์ หรืออุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งการขนส่งทางบกนั้นเร็วกว่าทางเรือ 2 -3 เท่า และสามารถช่วยลดต้นทุนในการขนส่งได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับการขนส่งทางอากาศ ด้วยบริการเครือข่ายการขนส่งทางบกสายเอเชียของทีเอ็นที ลูกค้าสามารถมั่นใจกับบริการที่ส่งตรงถึงมือผู้รับอย่างรวดเร็วตามเวลาที่กำหนด พร้อมด้วยความสามารถในการติดตามตำแหน่งของสินค้าได้ตลอดระยะเวลาขนส่ง
“เนื่องจากทีเอ็นทีได้มองเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเวียดนาม ทีเอ็นที จึงได้ขยายเส้นทางการขนส่งไปยังพื้นที่นี้ ซึ่งการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายทางอากาศและทางภาคพื้นดินเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เห็นถึงความแตกต่างของผู้ให้บริการการขนส่ง ในปัจจุบัน ทีเอ็นทีเป็นผู้นำด้านการขนส่งที่เชื่อมต่อประเทศในยุโรป และกำลังขยายขีดความสามารถนี้ในทวีปเอเชีย พร้อมการเชื่อมต่อจากเอเชียไปยังยุโรปอีกด้วย ทีเอ็นทียังคงเดินหน้าขยายการลงทุนต่อไปเพื่อพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อให้เครือข่ายการขนส่งทางบกสายเอเชียสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มประเทศนี้ได้มากที่สุด” ม.ร เดวิด เรคคอร์ด กรรมการผู้จัดการ บริษัททีเอ็นที เอ็กซเพรส (ประเทศไทย) กล่าว
ความมุ่งมั่นสู่เอเชีย
การขยายเครือข่ายการขนส่งเส้นทางใหม่ของทีเอ็นทีเข้าสู่ประเทศเวียดนาม คือหนึ่งในแผนงานสำคัญของทีเอ็นทีเพื่อขยายเครือข่ายและการให้บริการในทวีปเอเชีย และเมื่อไม่นานมานี้ ทีเอ็นทีได้ควบรวมกิจการกับบริษัท Hoau ของประเทศจีน และบริษัท Speedage ของประเทศอินเดีย พร้อมสร้างศูนย์ปฏิบัติการเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าชีวภาพ อาทิเช่นการจัดส่งตัวอย่างเลือดหรือเนื้อเยื่อในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่จะช่วยผลักดันให้บริษัท ทีเอ็นที เอ็กซเพรส มีรายได้รวมทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นประมาณ 10 — 15 เปอร์เซ็นต์
ภายในสิ้นปีนี้
ผู้ให้บริการด้านการขนส่งพัสดุด่วนรายแรกที่เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างประเทศในเขตลุ่มแม่น้ำโขง (EWEC)*
ด้วยการขยายเครือข่ายการขนส่งทางบกสายเอเชียสู่ประเทศเวียดนาม ทีเอ็นทีถือเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนรายแรกที่เปิดประตูเศรษฐกิจเชื่อมกลุ่มประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขง (ยกเว้นประเทศสหภาพพม่า) ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตด้านการค้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับเมืองใหญ่ตลอดเครือข่ายนี้
สืบเนื่องจากการที่ประเทศเวียดนามได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์กรการค้าโลก ทำให้เวียดนามมีการลงทุนจากต่างชาติที่สูงขึ้นเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ หรือ 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 353,838 พันล้านบาท) ในปี 2549 และประเทศเวียดนามเองก็คาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2550 ถึง 2551 นี้เช่นกัน
ข้อมูลสำหรับบรรณาธิการ
1. ทีเอ็นที เอ็กซเพรส หนึ่งในผู้ให้บริการด้านการจัดส่งไปรษณีย์และพัสดุด่วนให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจชั้นนำระดับโลก โดยให้บริการส่ง เอกสารธุรกิจ พัสดุภัณฑ์ และสินค้า รวมกันประมาณ 4.1 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ ไปยังจุดหมายกว่า 200 ประเทศ ผ่านเครือข่ายคลังพัสดุ ศูนย์กระจายสินค้า และศูนย์คัดแยกสินค้ากว่า 1,200 แห่ง มียานพาหนะใช้ในการ ขนส่ง 23,400 คัน และเครื่องบิน 44 ลำ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ให้บริการที่มีความพร้อมด้านระบบสาธารณุปโภคพื้นฐานในการให้บริการขนส่งด่วนทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นดินมากที่สุดในยุโรป
2. ทีเอ็นที เป็นผู้ให้บริการด้านการจัดส่งไปรษณีย์และพัสดุด่วนให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าทั่วไปชั้นนำระดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ ทีเอ็นทียังมีเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพในยุโรป และเอเชีย และกำลังขยายการปฏิบัติงานไปยังทั่วโลกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายต่างๆ ทีเอ็นที เปิดให้บริการอยู่ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 139,000 คนปฏิบัติงานอยู่ทั่วโลก ในปี 2549 ทีเอ็นที รายงานยอดรายรับที่ 10.1 พันล้านยูโร และเงินรายรับจากปฏิบัติการที่ 1,276 ล้านยูโร ทีเอ็นที จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอัมสเตอร์ดัมส์ และนิวยอร์ค นอกจากนั้น ทีเอ็นทียังเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับโครงการเพื่อสังคมต่างๆ โดยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการอาหารโลก และโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านความหิวโหยของผู้ยากไร้และมลพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก
3. ศูนย์ควบคุมความปลอดภัยและบังคับการแห่งเอเชีย หรือ TNT’s Asia Security Control and Command Centre (ASCCC) ตั้งอยู่ในเมืองพีทาลิง จาย่า ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ในการจัดส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูง
ต้องการข้อมูลหรือรูปภาพประกอบเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ปริตตา สงเคราะห์ราษฎร์ หรือ ศิโรตม์ สันติพัฒนาชัย หรือ นัดดา สุทธิโก
บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร. 02 653-2717-9
แฟกซ์ 02 653-2720
อีเมล์ parritta@spark.co.th / sirote@spark.co.th / natda@spark.co.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ