เอไอเอสเปิดวิสัยทัศน์ปี 2549 ด้วยแนวคิด Industry Convergence

ข่าวทั่วไป Thursday December 8, 2005 15:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--เอไอเอส
เอไอเอสเปิดวิสัยทัศน์ปี 2549 ด้วยแนวคิด Industry Convergence ผสมผสานความต้องการจากทุกอุตสาหกรรมมอบแก่ผู้ใช้บริการได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อคนไทย
เอไอเอสเผยวิสัยทัศน์ 2549 ด้วยแนวคิด “Industry Convergence” เชื่อมั่นความต้องการของผู้บริโภคจากนี้ไปจะเป็นตัวกำหนดให้รูปแบบของผลิตภัณฑ์และบริการจากทุกอุตสาหกรรมหลอมรวมเข้าด้วยกันในรูปแบบของ Multi Function ที่ตอบสนอง Multi Purpose ผ่านเครือข่ายสื่อสารไร้สาย โดยเอไอเอสยืนยันพร้อมรับปรากฏการณ์ดังกล่าวและพร้อมนำ Industry Convergence มาพัฒนาบริการที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อคนไทย
คณะผู้บริหารของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย คุณสมประสงค์ บุญยะชัย-ประธานกรรมการบริหาร, คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร — กรรมการผู้อำนวยการ, คุณอาภัททรา ศฤงคารินกุล — รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาโซลูชั่นส์, คุณสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ — ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานพัฒนาบริการสื่อสารไร้สาย และ คุณฐิติพงศ์ เขียวไพศาล — ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารการตลาด ร่วมถ่ายทอดแนวคิดและวิสัยทัศน์สำหรับ ปีพ.ศ. 2549 ทั้งในภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม และกลยุทธ์ด้านต่างๆของเอไอเอส
“เราคาดการณ์ว่าตลาดรวมของการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปีหน้าจะโตขึ้นประมาณ 6% และมี Penetration Rate อยู่ที่ราว 53% โดยการเติบโตดังกล่าวจะเป็นการขยายผ่าน Industry Convergence” นายสมประสงค์กล่าว พร้อมเพิ่มเติมว่า “Industry Convergence จะปรากฏให้เห็นอย่างสมบูรณ์แบบในปีหน้า หลังจากที่เริ่มส่งสัญญาณให้สัมผัสได้มาโดยตลอด ทั้งนี้เพราะในชีวิตประจำวันของคนเรา มีความต้องการบริโภคทั้งสินค้าและบริการจากทุกอุตสาหกรรม ดังนั้นความต้องการดังกล่าวจะเป็นตัวผลักดันให้สินค้าและบริการจากหลากหลายอุตสาหกรรมหลอมรวมเข้าหากัน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้ในคราวเดียวกัน (Multi Purpose) และแน่นอนย่อมนำมาซึ่งโอกาสในการสร้างธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ทั้งนี้การที่อุตสาหกรรมต่างๆจะสามารถหลอมรวมเข้าหากันได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องประกอบด้วย 3 ส่วนคือ 1. Device Convergence 2. Technology Convergence และ 3. Service / Application Convergence ที่จะกระตุ้นให้เกิด Multi Function Device ส่งผลให้มีการบริโภคอุปกรณ์สื่อสารใหม่ๆ, เกิด New Application ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในเวลาเดียวกัน และ 3G Service ซึ่งตอบสนองเรื่อง Mobility โดยเอไอเอสเองพร้อมที่จะนำบริการรูปแบบใหม่ๆอันเกิดจาก Industry Convergence มามอบแก่ลูกค้าของเราอย่างแน่นอน”
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เผยว่า “เพราะเชื่อมั่นว่า เครือข่ายสื่อสารไร้สายจะไม่เพียงตอบสนองการสื่อสารด้านเสียงเท่านั้น หากแต่สามารถรองรับบริการทุกรูปแบบ จากทุกอุตสาหกรรม ได้อย่างไร้ซึ่งข้อจำกัด ดังนั้นกลยุทธ์ของเอไอเอสในปี 2549 จึงอยู่ที่การสร้างสรรค์บริการหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบค่าบริการ (Tariff) , บริการหลังการขาย (Service Operation) , บริการใหม่ๆที่สอดคล้องกับความต้องการ (Service & Application) ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น ด้วยศักยภาพของ Industry Convergence อันจะนำมาซึ่งการมอบบริการที่สามารถอำนวยความสะดวกและมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเพื่อคนไทย”
“โดยในปี 2549 นั้น เอไอเอสจะให้ความสำคัญใน 4 ด้าน คือ
- การสร้างความสัมพันธ์ในเชิงลึกและมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศในการใช้งานแก่ผู้ใช้บริการแต่ละกลุ่ม รวมถึงมุ่งสร้างให้ Brand AIS ก้าวสู่การเป็นเครื่องหมายของคุณภาพแห่งงานบริการ (Customer Relationship & Experience)
- การสร้างตลาดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุ่งนำบริการถึงมือประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ห่างไกลรวมไปถึงกลุ่มที่ยังไม่เคยใช้บริการ (New Market Creation)
- บริการเสริมที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างยิ่งกว่า จากการร่วมมือกับพันธมิตร ผ่านทางเทคโนโลยี 3G ที่ทั้งง่ายและตอบสนองการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ (Value Added Service)
- โซลูชั่นส์ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อองค์กรในแต่ละสายธุรกิจ ที่ต้องสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ ตอบโจทย์ในเชิงการบริหารงานอย่างแท้จริง (Enterprise Solutions)
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่สุดในการทำให้เอไอเอสมอบบริการจาก Industry Convergence ได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องพร้อมรองรับทิศทางดังกล่าวด้วย โดยนางอาภัททรา ศฤงคารินกุล กล่าวว่า “15 ปีของการให้บริการ เราได้พัฒนาเครือข่ายอย่างไม่หยุดยั้ง นอกเหนือจากความครอบคลุม, ความสามารถรองรับการใช้งาน และคุณภาพแล้ว เทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขยายศักยภาพของเครือข่ายให้พร้อมต่อ Industry Convergence หลากหลายรูปแบบที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อาทิ การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่าง IT & Telecom เพื่อให้พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยแนวทางหลักในการสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานในปีหน้าก็คือ
- พัฒนาเครือข่ายให้พร้อมมอบบริการที่ไม่จำกัดเพียง Voice เท่านั้น แต่ต้องเป็น Multi Service Network ที่พร้อมรองรับการให้บริการแบบ Multi Media
- พร้อมต่อการบริหารจัดการ และการทำงานร่วมกับพันธมิตร เช่น Content Partner ด้วยเทคโนโลยีของ Digital Right Management
- พร้อมเปิดวิธีการเข้าถึงเพื่อใช้บริการแบบใหม่ๆในลักษณะของ Contactless Communication
- พร้อมรับ 3G ที่จะเข้ามาเป็นตัวเพิ่มขีดความสามารถในการใช้บริการในลักษณะของ High Speed Multimedia ที่เป็น Mobility
โดยเป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาเครือข่ายในลักษณะนี้เพื่อให้สามารถมอบบริการใหม่ๆได้อย่าง รวดเร็ว (Speed), หลากหลาย-ไร้ข้อจำกัด (Flexibility) และใช้งานง่าย (Simplicity) นั่นเอง”
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดในปีหน้านั้น นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล กล่าวว่า “สืบเนื่องจากการที่เอไอเอสได้มีการปรับมุมมองฐานผู้ใช้บริการกว่า 16 ล้านท่านในลักษณะของ Single Customer Base ที่แบ่งเป็น AIS Standard, AIS Classic, AIS Serenade โดยศึกษาจากรูปแบบการใช้ชีวิต,ความต้องการ และพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปีหน้าเมื่อนำแนวคิด Industry Convergence เข้ามาผสมผสาน จะทำให้เราสามารถเดินหน้ามอบบริการอย่างครบถ้วนทุกด้านของการใช้ชีวิตด้วยแนวคิด “คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ผ่านทางบริการต่างๆ ประกอบด้วย
- บริการพื้นฐานจากเครือข่ายคุณภาพ (Life Necessity) ที่มอบให้แก่ลูกค้าเอไอเอสทุกท่าน
- ไม่เพียงเฉพาะบริการพื้นฐานเท่านั้น หากแต่พัฒนาบริการที่มี Value เพิ่มขึ้นสำหรับแต่ละกลุ่ม เพื่อทำให้คุณภาพการใช้ชีวิตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกด้าน ผ่านทาง mobileLIFE และ Smart Solutions (Life Enhancement)
- สิทธิพิเศษที่มากยิ่งกว่า ซึ่งจะตอบสนอง Lifestyle ของแต่ละท่าน ผ่านทาง AIS Plus ไม่ว่าจะเป็นบริการพิเศษ, ส่วนลดสุดคุ้ม และกิจกรรมที่คัดสรรมาแล้วอย่างดีเพื่อคุณ (Life Reward)
ทั้งนี้รวมถึงการสร้างตลาดใหม่ ในลักษณะของ Total Solutions Approach และ Segmentation Approach ผ่านทางความครอบคลุมของเครือข่าย และ เครือข่ายงานบริการจากร้านเทเลวิซ อีกทั้งสร้างให้ AIS ก้าวสู่ความเป็นตราสัญลักษณ์แห่งคุณภาพในใจผู้ใช้บริการอีกด้วย”
นอกจากนี้ในส่วนของการพัฒนาบริการเสริมนั้น นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ กล่าวว่า “การพัฒนาบริการเสริมด้วยแนวคิดของ Industry Convergence นั้น จะก่อให้เกิดความหลากหลายของ Service และ Application ที่ตรงใจและแตกต่างได้มากยิ่งขึ้น อาทิ บริการที่ช่วยให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเดิมที่เป็นเพียงการสื่อสารด้วยเสียง หรือ ข้อความ อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่จากนี้ไปจะก้าวสู่การสื่อสารด้วย รูป, ภาพเคลื่อนไหว และเสียงแบบ Multi Media เช่น บริการ Video call, Video Conference, Online Game, Mobile Internet ที่เกิดจากความสามารถของเครือข่ายอันก่อให้เกิดคุณภาพเต็มรูปแบบ ด้วยคุณสมบัติของ Multimedia, Real-time ,Interactive และ Mobility ที่แท้จริง”
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวยืนยันในท้ายที่สุดว่า “ปณิธานของเอไอเอสก็คือ เราจะเป็นเสมือนหนึ่งเครื่องมือและช่องทางให้ผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม สร้างคุณภาพชีวิตในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร, การสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน, การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตลอดจนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะอยู่เคียงข้างในการที่จะสร้างรากฐานความแข็งแกร่งของครอบครัวไทยและช่วยเหลือสังคม ผ่านทางความสามารถ, มุมมอง, ประสบการณ์และความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยมจากเราในฐานะผู้ให้บริการคนไทย “เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อคนไทย”--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ