จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ผนึกพลัง 3 จุดแข็ง สื่อครบวงจร สื่อหลากหลาย เจาะทุกไลฟ์สไตล์

ข่าวทั่วไป Tuesday February 13, 2007 17:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--จีเอ็มเอ็ม มีเดีย
จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ผนึกพลัง 3 จุดแข็ง สื่อครบวงจร สื่อหลากหลาย เจาะทุกไลฟ์สไตล์ และผู้บริหารที่เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้ารายได้ 2,900 ล้านบาท
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัทจีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) แถลงถึงทิศทางธุรกิจของจีเอ็มเอ็ม มีเดียว่า ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ประมาณ 2,900 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2006 ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจ 4 สื่อคือ 1.สื่อทีวี 39% ประมาณ 1,140 ล้านบาท 2.สื่อวิทยุ 23% ประมาณ 680 ล้านบาท 3.สื่อประเภทอีเวนต์หรือสื่อกิจกรรมทางการตลาด 24% ประมาณ 700 ล้านบาท และ 4.สื่อสิ่งพิมพ์ 9% ประมาณ 260 ล้านบาท
รวมพลังสื่อครบวงจร วิทยุ ทีวี สิ่งพิมพ์ อีเวนต์ ตอบโจทย์สปอนเซอร์ได้ทั้ง Above & Below the Line
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า จีเอ็มเอ็ม มีเดียจะผนึกพลังของจุดแข็งให้เกิดประโยชน์สูงสุด ความแข็งแกร่งแรกคือ ความเป็นบริษัทสื่อครบวงจรทั้ง 2 ระดับคือ ระดับมวลชนหรือ Mass Media เช่น ทีวี วิทยุ นิตยสาร และระดับเฉพาะกลุ่มหรือ Specific Media เช่น กิจกรรมทางการตลาดหรืออีเวนต์ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มสื่อ ซึ่งพิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วด้วยการทำกำไรทุกกลุ่ม และอยู่ในตำแหน่งระดับต้นๆ ของวงการ
“กลุ่มแรกคือวิทยุ ซึ่งจีเอ็มเอ็มเป็นผู้นำมาเกือบ 20 ปีแล้ว ปัจจุบันมีถึง 4 คลื่น กลุ่มที่ 2 คือทีวี เราก็เป็นผู้นำโดยเฉพาะซิตคอมและละครเวที ปีนี้มีละครและซิตคอมถึง 15 เรื่อง ละครเวทีอีก 4 เรื่อง มีวาไรตี้โชว์ รายการ Non Music และ Music อีกประมาณ 15 รายการ ซึ่งแข็งแกร่งอยู่ในตลาดเช่นกัน กลุ่มที่ 3 คือสิ่งพิมพ์ มีนิตยสารทั้งหัวนอกและใน 5 หัวซี่งทำกำไรทั้งหมด และยังมีคลังของพ็อกเก็ตบุ๊กที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดอีกกว่า 200 ปก (Title) ส่วนกลุ่มที่ 4 คืออีเวนต์ หรือกิจกรรมทางการตลาดนั้นจัดอยู่ในท็อปทรีของเมืองไทย ซึ่งปีนี้สามารถให้บริการครบวงจร เพราะมีบริษัท Direct Marketing และบริษัทพีอาร์ในเครือด้วย โดยนอกจากนี้ Mass Media อย่างวิทยุ ทีวี หรือกระทั่งสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็น Above the Line ก็ยังจัดกิจกรรมทางการตลาด หรือ Below the Line เพื่อตอบสนองลูกค้า” นายไพบูลย์เสริม
เข้าถึงผู้บริโภคหลากหลายไลฟ์สไตล์ด้วยกลยุทธ์ Customer Centric
“ความแข็งแกร่งที่สองคือ การเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ด้วยรูปแบบและเนื้อหาที่หลากหลาย เราจะโฟกัสเนื้อหาและรูปแบบให้โดนใจผู้บริโภคอย่างแม่นยำขึ้น และใช้ความถนัดของเราให้เกิดประโยชน์ ตามกลยุทธ์ไลฟ์ สไตล์มาร์เก็ตติ้งที่เน้น Customer Centric หรือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งบริษัทได้ทำ CRM หรือ Customer Relationship Management เพื่อรองรับไว้แล้ว
“ทีวีเราโฟกัสด้วยการเพิ่มละครซิตคอมซึ่งเป็นความถนัดของคุณถกลเกียรติ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ชมและสปอนเซอร์ดีมาก เพิ่มรายการสำหรับวัยรุ่นที่เป็นความถนัดของคุณสถาพร และได้ใช้ทาเลนต์กับคอนเทนต์ของแกรมมี่เต็มที่ ก็ประสบความสำเร็จทันที และเมื่อกระแสข่าวบันเทิงและดารามาแรง เราก็มี EFM และนิตยสาร in ซึ่งก็ติดตลาดเช่นกัน หรือการทำขนาด Traveler Size ของ IMAGE ก็เป็นการตอบโจทย์ไลฟ์ สไตล์สมัยใหม่” นายไพบูลย์กล่าวและลำดับรายการสื่อในกลุ่มดังต่อไปนี้
บริหารด้วยตัวจริงของวงการที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มานานกว่า 20 ปี
ความแข็งแกร่งที่สามของจีเอ็มเอ็ม มีเดียคือ บุคลากรหรือผู้บริหารซึ่งเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจสื่อมานานกว่า 20 ปี นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า “คุณสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยาก็เป็นเบอร์หนึ่งของวิทยุ คุณถกลเกียรติ วีรวรรณบุกเบิกซิตคอมและเชี่ยวชาญละครเวที คุณสัญญา คุณากร ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่าโดดเด่นด้านวาไรตี้มีสาระ คุณสถาพร พานิชรักษาพงศ์จับงานด้านเพลงกับวัยรุ่นมานานกว่า 20 ปีแล้ว คุณคำรณ ปราโมช ณ อยุธยาก็สร้าง IMAGE เป็นท็อปไฟว์แฟชั่นแม็กกาซีน คุณลายคราม เลิศวิทยาประสิทธิ์เชี่ยวชาญด้านการตลาดนิตยสาร คุณลัดดาวัลย์ รัตนดิลกชัยก็บุกเบิกตลาดนิยายแปลสมัยใหม่และนิตยสารบันเทิงพรีเมียมจนสำเร็จ และคุณเกรียงไกรกับเกรียงกานต์ กาญจนะโภคินก็เป็นผู้สร้างอินเด็กซ์ให้เป็นท็อปทรีของวงการอีเวนต์ มืออาชีพเหล่านี้ไม่เพียงบริหารบริษัทของตนให้แข็งแกร่ง แต่ยังสามารถนำประสบการณ์ ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละท่านมาแชร์ร่วมกันให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มสื่อทั้งหมดด้วย”
‘Your Complete Lifestyle Channel’ เข้าถึงผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์ และให้บริการสปอนเซอร์ครบถ้วนทุกความต้องการ
“ด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดนี้ คือความครบวงจรของสื่อ ความหลากหลายสามารถเจาะถึงทุกกลุ่มไลฟ์ สไตล์ และความแข็งแกร่งของผู้บริหารที่เป็นตัวจริงของวงการ เราจะ Synergy กันให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อทำให้จีเอ็มเอ็ม มีเดียปี 2007 เป็น Your Complete Lifestyle Channel คือตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกความต้องการ เป็น Strategic Partner กับลูกค้า ทำงานร่วมกันอย่างลึกซึ้งตั้งแต่ระดับวางแผนกลยุทธ์ จนถึงการวางแผนสื่อและการใช้สื่อที่ครอบคลุมทั้ง Above & Below the Line การทำ IMC หรือ In การทำ CRM ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของลูกค้าโฆษณาในปัจจุบัน อีกทั้งทำให้ผู้บริโภคสื่อได้มีทางเลือกมากมายมหาศาล เลือกบริโภคได้ตามไลฟ์ สไตล์ของตนเอง เพราะเรามีมีเดียที่หลากหลายทั้งรูปแบบและเนื้อหานั่นเอง”
‘เอกซ์คลูซีฟ แกรมมี่’ เสริมความแกร่งทั้งคอนเทนต์และการตลาด
นอกจากนั้นนายไพบูลย์ยังเพิ่มเติมอีกว่า จีเอ็มเอ็ม มีเดีย ยังมีข้อได้เปรียบอีกประการ คือการอยู่ในกลุ่มของแกรมมี่ ซึ่งมีคอนเทนต์และทาเลนต์ทั้ง Music และ Non Music มากมาย และยังสามารถใช้การทำมิวสิก มาร์เก็ตติ้งมาเสริมช่องทางรายได้ได้อีกด้วย
“เรามีศิลปินและเพลงดังมากมาย ซึ่งสามารถเอกซ์คลูซีฟให้กับจีเอ็มเอ็ม มีเดีย เพื่อตอบสนองทั้งผู้บริโภคและลูกค้าโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ศิลปินในกิจกรรม Below the Line ในนิตยสาร ในวาไรตี้ และละครทีวี ในรายการวิทยุ ฯลฯ และเมื่อฝั่งแกรมมี่มีลูกค้าเข้ามาทำมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ใช้เพลงหรือศิลปินเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราก็สามารถเสนอให้เป็นแพ็กเกจกับมีเดียของเราได้ ซึ่งจะเท่ากับ One Stop Shopping สำหรับลูกค้าด้วย”
เอ-ไทม์ชูกลยุทธ์ More Than Radio
ส่วนนางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการบริษัทจีเอ็มเอ็ม มีเดีย ได้กล่าวถึงแผนงานในส่วนของธุรกิจวิทยุปีนี้ว่า เน้นการเตรียมแผนงานล่วงหน้า ซึ่งบริษัทได้ Launch แผนงานปี 2007 มาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางแผนงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นปี
ส่วนของทั้ง 4 คลื่นนั้นเน้นการตอกย้ำความเป็นผู้นำของธุรกิจวิทยุ ด้วยกลยุทธ์ Customer Centric ศึกษาพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค และนำมาปรับปรุงทุกจุดของรายการ อาทิ การเปิดตัว ดีเจใหม่ ที่มีทั้ง รูปลักษณ์และความสามารถ การจัดกิจกรรมทั้งในและนอกรายการ
อีกทั้งบริษัทยังต่อยอดธุรกิจโดยการจัดทำโชว์บิซ และกิจกรรมอื่นๆ ทำ IMC ร่วมกับมีเดียของบริษัทในเครือ โดยยึดหลักว่าลูกค้าทุกรายคือ Business Partner ที่เราจะเป็น Media Solution ที่ดีที่สุด
กลุ่มทีวีเน้นทำสิ่งที่ถนัดและแม่นยำในกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับกลุ่มทีวีในจีเอ็มเอ็มมีเดียมีอยู่ 3 ส่วนใหญ่ตามสายงานของผู้บริหาร ด้านคุณถกลเกียรติ วีรวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กแซ็กท์ และบริษัท ซีเนริโอ กล่าวว่าจะเน้นความเป็น Dramatic Journey ซึ่งเป็นความถนัดและได้พิสูจน์มาแล้วว่าประสบความสำเร็จ หรือการเป็นผู้ผลิตซิตคอม ละครทีวี และละครเวที ปัจจุบันได้รับการต้อนรับดีทั้งผู้ชมและสปอนเซอร์ อย่างไรก็ตามกลยุทธ์การตลาดจะมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าโฆษณาโดยจัดแพ็กเกจและทำการขายล่วงหน้าเพื่อให้ลูกค้าวางแผนได้สะดวกขึ้น
ส่วนนายสถาพร พานิชรักษาพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท แกรมมี่ เทเลวิชั่น ได้เปิดเผยถึงแผนงานปีนี้ว่า คอนเซปต์คือ Teen Focus Strategy เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในการผลิตโทรทัศน์เพื่อกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ด้วยการเป็นผู้ผลิตรายการวัยรุ่นรายใหญ่ที่สุดของตลาด สร้าง Teen Contact Point ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ซึ่งเริ่มกลยุทธ์นี้มาตั้งแต่ปี 2549 แล้วและได้รับผลตอบรับดี
นายสถาพรย้ำว่าจะเปลี่ยนแนวคิดสร้างรายการเพลงให้เป็นรายการโทรทัศน์สำหรับวัยรุ่น โดยมีเพลงเป็นเนื้อหาหลัก และนำเสนอด้วยไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของวัยรุ่น ซึ่งก็อาศัยความแข็งแกร่งของแกรมมี่ที่สร้างเพลงฮิตและศิลปินดังจำนวนมากมาเป็นเอกซ์คลูซีฟคอนเทนต์และทาเลนต์ และในปีนี้จะเพิ่มนำมาใช้มากขึ้นเพื่อต่อยอดรายการโทรทัศน์ สร้างกิจกรรมการตลาดกับลูกค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายร่วมกันได้อย่างตรงจุดที่สุด เช่น ในรูปแบบคอนเสิร์ตในรายการ OIC กิจกรรมการตลาดนอกสถานที่ของรายการ Five Live และWake Club เป็นต้น
นิตยสารชูการตอบสนองทุกด้านของไลฟ์สไตล์ Every Aspect of Life เป็นจุดขาย
นายคำรณ ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมเมจ พับลิชชิ่ง กล่าวถึงกลยุทธ์ปีนี้ว่าจะสร้างความรู้สึก Freedom of choice ให้กับผู้อ่าน ซึ่งได้เริ่มด้วยการออก IMAGE ฉบับ Traveler Size มาแล้ว เพื่อให้ผู้บริโภคพกพาสะดวกสอดคล้องกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มยอดขายเพื่อรักษาระดับความเป็นผู้นำในกลุ่มนิตยสารด้วย
ทางด้านน.ส.ลายคราม เลิศวิทยาประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม อินเตอร์ พับลิชชิ่ง และ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ไทมส์ จำกัด ผู้ผลิตนิตยสาร Madame Figaro, Her World และ MAXIM กล่าวว่า
นิตยสาร MAXIM ขณะนี้นับได้ว่าครองตำแหน่งนิตยสาร Lifestyle สำหรับผู้ชายที่ขายดีที่สุดในโลกโดยไร้คู่ต่อสู้ เนื่องจากนิตยสารสำหรับผู้ชายหัวใหญ่ฉบับอเมริกาได้ปิดตัวไป ขณะเดียวกัน MAXIM ทั่วโลกซึ่งขณะนี้มีถึง 42 ประเทศได้ร่วมมือกันใช้กลยุทธ์ในการพัฒนาเนื้อหา ปรับโฉมการดีไซน์ให้มีสาระ ความสนุก และเซ็กซี่อย่างมี Style ตามแบบฉบับของ MAXIM เพื่อตอบสนอง Positioning ของ MAXIM ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ชายรุ่นใหม่ที่ฉลาดกับการใช้ชีวิต และมีการทำ Cross Platform Expansion โดยทำคอนเทนต์ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตเว็บไซต์ www.maximthailand.com ให้ผู้อ่านดาวน์โหลดทางโทรศัพท์มือถือ และยังมีโครงการต่อเนื่อง Miss MAXIM ปี 2007, MAXIM Deck Divas
ส่วน Madame Figaro ได้ปรับรูปโฉมการ Design และ Font ครั้งใหญ่ตั้งแต่ปลายปี 2006 เพื่อให้การเรียงลำดับเนื้อหาสวยงามตลอดทั้งเล่ม และให้เกิดความราบรื่นในการพลิกอ่านตลอดฉบับ โดยใช้ความได้เปรียบจากการที่ Madame Figaro ของฝรั่งเศสที่เป็นเลิศในเรื่องแฟชั่น ความงาม ศิลปะ และไลฟ์สไตล์ที่มีรสนิยม ผสานกับความเป็นไทยให้ใกล้ชิดกับกลุ่มผู้อ่านและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น ตลอดจนยังจะนำเสนอคอนเทนต์ผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตและดาวน์โหลด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อ่านเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
เช่นกัน Her World มีการปรับปรุงเนื้อหาสาระและการ Lay-out ให้สวยสดใส ตรงใจกลุ่มเป้าหมายที่กำลังเข้าสู่วัยทำงานและ Young Executive ได้มีความรู้ความบันเทิง ตลอดจนเน้นการทำกิจกรรม Below the Line สู่กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เช่นการประกวด Her World Model Search การทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย และตาม Office Building เพื่อขยายฐานผู้อ่าน และมีการวางแผนงานร่วมกับ Her World ใน Regional เพื่อทำกิจกรรมการตลาดในภูมิภาคให้มากขึ้น เช่น การจัด Her World Golf Challenge Asian Series 2007 เป็นต้น
สำหรับน.ส.ลัดดาวัลย์ รัตนดิลกชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส พับลิชชิ่ง และอิน พับลิชชิ่ง กล่าวว่า ในส่วนของพ็อกเก็ตบุ๊กยังคงเน้นการทำ CRM ซึ่งได้ทำมาตลอด 4 ปีนี้ ทำให้ไม่ถูกกระทบโดยความผันผวนทางเศรษฐกิจมากนัก นอกจากนั้นยังคงยึดกลยุทธ์ Fragmentation โดยรักษาความเป็นผู้นำในตลาดของตนไว้ ส่วนนิตยสาร in จะต่อยอดจากความแข็งแรงของแบรนด์และความสัมพันธ์ที่ดีกับดารา จัดทำฉบับพิเศษ และกิจกรรมพิเศษร่วมกับลูกค้าโฆษณาเพื่อเพิ่มช่องทางรายได้
Index ขอเป็น The Target Activator
Index Group โดยนายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานกรรมการบริหารร่วม บมจ. อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ กล่าวถึงกลยุทธ์ปี 2007 ว่าอินเด็กซ์มุ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำการตลาดโดยโฟกัสกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ไม่ว่าจะผ่านกิจกรรมทางการตลาดหรืออีเวนต์ และการทำไดเรกต์ มาร์เก็ตติ้ง และ Public Relation หรือการเป็น Full Service Below the Line
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์ข้อมูลธุรกิจและการลงทุนของ GMM Grammy และ GMM Media
คุณวิพาพร (วิ) 02-669 9964, คุณดวงกมล (กบ) 02-669 9952 และ
คุณอาภาพร (หน่อง) 02-669 9734
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ