กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
“International Technology Conference on Process Power & Marine Industry : ‘P2C2’ ”
นีออน อินโฟเทค ชูจุดแข็งหนึ่งเดียวในไทย ผู้นำสร้างระบบซอฟแวร์วิศวะกรรมเฉพาะทาง รองรับการบริหารจัดการกลุ่มงานอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมด้านปิโตรเคมีและพลังงานครบวงจร ชี้อนาคตเตรียมกรุยทางสร้างหลักสูตรอบรมเพื่อพัฒนาบุคคลากรระดับประเทศ ต่อยอดความต้องด้านตลาดให้กับมหาวิทยาลัยดังในเมืองไทย ป้องกันปัญหาสมองไหล ล่าสุดจัดสัมมนาทิศทางการพัฒนา ซอฟแวร์สำหรับอุตสาหกรรม และวิศวกรรมปิโตรเคมี ด้านแก๊สธรรมชาติระดับเอเชีย “International Technology Conference on Process Power & Marine Industry : P2C2 13-14 ก.ค.นี้ ณ. โรงแรมอมารีออร์คิดรีสอร์ท พัทยา
นายฮัช แวดแฮน เศรษฐี ประธานบริษัท นีออน อินโฟเทค เซาท์อีสท์ เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท นีออน อินโฟเทค เซาท์อีสท์ เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ร่วมทุนและเป็นตัวแทนของบริษัทอินเตอร์กราฟ (สหรัฐอเมริกา) จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการด้านซอฟแวร์โซลูชั่นด้านวิศวกรรม ที่เน้นตลาดภาคอุตสาหกรรมให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และพลังงาน เล็งเห็นความสำคัญด้านการพัฒนาความรู้และความชำนาญให้กับภาคธุรกิจดังกล่าว จึงได้จัดงานสัมมนาทิศทางการพัฒนา ซอฟแวร์สำหรับอุตสาหกรรม และวิศวกรรมปิโตรเคมี ด้านแก๊สธรรมชาติระดับเอเชีย “International Technology Conference on Process Power & Marine Industry : ‘P2C2’ ” โดยในการประชุมที่จะจัดขึ้นในครั้งนี้จะมุ่งเน้นถึงระบบวิศวกรรมสำหรับแวดวงอุตสาหกรรมหนักประเภทน้ำมัน แก๊ซธรรมชาติ (ทั้งชายฝั่งและบนบก) ปิโตรเคมี พลังงาน โลหะและเหมืองแร่ รวมทั้งบริษัทวิศวกรรมรับเหมาก่อสร้างในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในวันพุธที่ 13 — 14 ก.ค. 2554 ณ. โรงแรมอมารีออร์คิดรีสอร์ท พัทยา ซึ่งกิจกรรมการสัมมนานี้เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
นานฮัช กล่าวเสริมว่า การพัฒนาซอฟแวร์ของบริษัทฯ มีความแตกต่างจากการพัฒนาซอฟแวร์ของบริษัทอื่นๆ เพราะระบบวิศวกรรมด้านปิโตรเคมีและพลังงานนั้น มีความละเอียดมาก สามารถคลอบคลุมในทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจเรียกว่าคลอบคลุมในทุกจุด ทุกส่วนงาน ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงระบบการควบคุมโรงงาน ซึ่งการสร้างซอฟแวร์ที่สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนการทำงาน ทำให้เกิดความสะดวก และง่ายต่อการเรียกใช้งาน เพราะมีการวางระบบในการจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่ต้น ซึ่งแตกต่างจากระบบซอฟแวร์อื่นๆ ที่ให้บริการเพียงจุดใด จุดหนึ่งเท่านั้น จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้ระบบซอฟ์แวร์เพียงจุดใดจุดหนึ่งนั้น ช่วงแรกอาจจะลงทุนระบบไม่มาก แต่ต่อมาภายหลังอาจจะเกิดปัญหาเรื่องการเรียกดูระบบข้อมูลย้อนหลังได้ และการพัฒนาระบบซอฟแวร์ในลักษณะการแก้ไขหรือติดตามงาน หลังจากดำเนินการไปแล้ว อาจจะต้องลงทุนกับงบประมาณที่ค่อนข้างสูงได้ ดังนั้นอุตสาหกรรมต่างๆ ควรมีการวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น หรือการจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ตั้งแต่แรกนั่นเอง
“ปัญหาจากการใช้ระบบซอฟแวร์เฉพาะจุดนั้น อาจทำให้ลูกค้าต้องลงทุนกับการพัฒนาระบบซอฟแวร์การจัดการภายในอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯจึงได้สร้างระบบซอฟแวร์ที่ตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต ที่เริ่มจากการสอบถามถึงความต้องการด้านข้อมูลแบบไหน ที่ลูกค้าต้องการ หรือวัตถุนั้น ๆ ที่จะนำไปใช้เพื่ออะไร โดยทางบริษัท นีออน ก็จะแน่นำให้ใช้ระบบซอฟแวร์ที่เหมาะสมกับความต้องการนั้น ๆ อีกทั้งยังแนะนำว่าต้องการเพิ่มระบบในส่วนไหนบ้าง เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้สอยในการจัดเก็บข้อมูล หรือสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการขององค์กรได้ง่ายมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเวลาอีกด้วย” นายฮัช กล่าว
นอกจากนี้ ในอนาคตทางบริษัท นีออน ได้วางโครงการที่จะสร้างและพัฒนาหลักสูตร ซอฟแวร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และด้านวิศวกรรมนี้ เพื่อการเรียนการสอนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการสอนหลักสูตรซอฟแวร์ประเภทนี้เลย เบื้องต้นทางบริษัท ได้ร่วมกับภาคการศึกษาที่ยินดี และสนใจในการนำซอฟแวร์ไปใช้ในการฝึกอบรมบุคคลากรบ้างแล้ว ซึ่งบริษัท นีออนเล่งเห็นว่า หลักสูตรตัวนี้ที่มีปะโยชน์ต่อนิสิต นักศึกษา ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ หรือบุคคลากรที่เกี่ยวข้องในสายงานอุตสาหกรรม สามารถตอบโจทย์ และสามารถแก้ไขปัญหาภายในองค์กร ที่บุคลากรไม่เข้าใจในเรื่องของการออกแบบซอฟแวร์ ที่ลงลึกกับระบบวิศวกรรมเลย โดยคนที่เหมาะจะเรียนมองว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่คนที่มีพื้นฐานวิศวกรรมมาก่อน และสามารถต่อยอดความรู้แขนงนี้ เพื่อรองรับความต้องการในตลาดอุตสหกรรมในอนาคต
นายฮัช กล่าวเพิ่มอีกว่า สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท นีออน อินโฟเทค เซาท์อีสท์ เอชีย ยอดขายในปี 2553 ที่ผ่านมาทางบริษัทมียอดขายอยู่ที่ 2.5-3 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้นอีก 30% เนื่องจากยังไม่มีบริษัทซอฟแวร์ใดมาเป็นคู่แข่ง ที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มองค์กรอุตสาหกรรมได้ครบวงจรทั้งองค์กรเท่ากับระบบซอฟแวร์ของทางบริษัท