กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--สกว.
พัฒนา “โลชั่นน้ำมันกานพลู” สำหรับใช้เป็นยาสลบสัตว์น้ำ ทดแทนยาสลบที่เป็นสารเคมีราคาแพงและก่อพิษ ชี้ต้นทุนต่ำ ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค พร้อมพัฒนาสู่อุตสาหกรรมสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ชี้เข้าร่วมชมงานนี้ได้ใน งานนิทรรศการ “สมุนไพร สุขภาพสัตว์ คุณภาพชีวิต” ระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2550 ตั้งแต่เวลา 09.00 น.-17.00 น. ณ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต
ปัจจุบันมีสารเคมีหลายชนิดที่ใช้เป็นยาสลบสัตว์น้ำ แต่การใช้สารเคมีเหล่านี้ยังมีราคาสูงและทำให้เกิดการสะสมพิษ สร้างปัญหาในอุตสาหกรรมส่งออกสัตว์น้ำจำพวกอาหารทะเล และอาจกลายเป็นสาเหตุหนึ่งในข้ออ้างการกีดกั้นทางการค้าของสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ด้านองค์การอาหารและยาในสหรัฐอเมริกายังออกประกาศเตือนชาวประมงและผู้เกี่ยวข้องให้ระมัดระวังพิษที่สะสมในสัตว์น้ำเหล่านี้ ซึ่งจะมีผลต่อผู้บริโภคในแง่ของการเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
ความพยายามในการพัฒนาสมุนไพรไทยมาใช้ทดแทนสารเคมีก่อพิษเหล่านี้จึงเกิดขึ้นในโครงการ การพัฒนาโลชั่นน้ำมันกานพลูสำหรับใช้เป็นยาสลบสัตว์น้ำ โดยผศ.ดร. ดวงดาว ฉันทศาสตร์ ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
ประโยชน์ของกานพลูนั้นเป็นสมุนไพรที่ดอกตูมแห้งสามารถใช้แก้ท้องเสีย ขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ ใช้ผสมในยาอมบ้วนปาก ดับกลิ่นปาก นอกจากนี้คนไทยนิยมนำน้ำมันกานพลูซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยมาผสมอาหารต่าง ๆ เพื่อแต่งกลิ่นและใช้ปรุงยา เช่น ยาระงับกลิ่นปาก ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดท้อง หรือใช้ปรุงเป็นน้ำหอมกลิ่นดอกคาร์เนชั่นหรือกลิ่นวานิลลา
ผศ.ดร.ดวงดาว กล่าวว่า สรรพคุณอีกประการหนึ่งของน้ำมันกานพลู คือการออกฤทธิ์เป็นยาสลบสัตว์น้ำ แต่ปัญหาสำคัญที่พบในการนำไปใช้คือ น้ำมันกานพลูไม่สามารถผสมเข้ากับน้ำได้ งานวิจัยนี้จึงสนใจพัฒนาตำรับโลชั่นน้ำมันกานพลูให้มีลักษณะเป็นสารละลาย เพื่อความสะดวกต่อการนำไปผสมกับน้ำ และใช้เป็นยาสลบสัตว์น้ำในอุตสาหกรรมการประมง เกษตรกรรมสัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมการส่งออกสัตว์น้ำของประเทศต่อไป
ตำรับโลชั่นน้ำมันกานพลูที่พัฒนาได้ มีลักษณะใส สีเหลืองอ่อน ค่าความเป็นกรดด่างเท่ากับ 3-4 มีความคงตัวดีทางเคมีและกายภาพ ณ อุณหภูมิตู้เย็น (8ฐC) และอุณหภูมิห้อง (30 ฐC) เป็นเวลา 6 เดือน และ ผสมน้ำด้วยสัดส่วนของโลชั่น 1 มิลลิลิตรในน้ำ 1-2.5 ลิตรจะได้สารละลายใส ให้ความเข้มข้นของน้ำมันกานพลูที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นยาสลบสัตว์น้ำ
ผศ.ดร.ดวงดาว กล่าวอีกว่า คุณสมบัติเด่นของโลชั่นน้ำมันกานพลู คือ สามารถระเหยไปตามธรรมชาติ ไม่เกิดการตกค้าง ลดการทำลายสภาวะแวดล้อม อีกทั้งยังมีต้นทุนในการผลิตที่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับสารเคมีราคาแพงที่ใช้กันโดยทั่วไป ในงานวิจัยขั้นต่อไป คือ การประเมินประสิทธิผลของตำรับโลชั่นน้ำมันกานพลูที่ได้พัฒนาได้ในปู ซึ่งจะมีผลการศึกษาแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
แนวทางการนำน้ำมันกานพลูมาพัฒนาเป็นตำรับโลชั่นสำหรับใช้เป็นยาสลบสัตว์น้ำนี้ จึงเป็นทางเลือกใหม่เพื่ออุตสาหกรรมสัตว์น้ำเศรษฐกิจ โดยช่วยลดความเครียดและการบาดเจ็บในระหว่างการเคลื่อนย้ายสัตว์น้ำอีกด้วย เนื่องจากน้ำมันกานพลูเป็นน้ำมันจากธรรมชาติ ปริมาณที่ใช้เป็นยาสลบมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคสัตว์น้ำ นอกจากนี้ยังเป็นน้ำมันที่มีแหล่งวัตถุดิบในประเทศไทย ขณะนี้กำลังเปิดรับสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจนำงานวิจัยนี้ไปใช้ต่อยอดในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำอีกด้วย
งานวิจัยดังกล่าวยังได้ร่วมแสดงผลงานใน งานนิทรรศการ “สมุนไพร สุขภาพสัตว์ คุณภาพชีวิต” ระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2550 ตั้งแต่เวลา 09.00 น.-17.00 น. ณ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั่วไปสามารถเข้าร่วมงานฟรี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)
โทร.0-2270-1350-4 ต่อ 104 E-mail:pr@pr-trf.net