กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554 เวลา 13.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายชวน ศิรินันทพร ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ พร้อมนิมนต์คณะสงฆ์ โดยมีเจ้าคณะจังหวัดเป็นประธานในการประชุม หารือแนวทางการทำงานจังหวัดนำร่องงดเหล้าเข้าพรรษา ทำความดีถวายในหลวง 84 ปี2554ร่วมฉลองครบรอบ 2,600 ปีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จังหวัดแพร่ ณ ห้องประชุมเจ้าคณะจังหวัด วัดพระบาทมิ่งเมืองวรมหาวิหาร โดยมีข้อสรุปดังนี้
1.มีการแต่งตั้งคณะกรรมการรณรงค์และจัดทำแผนการขับเคลื่อนงานโครงการ (มีแผนงานทุกเดือน) โดย มีสสจ.จังหวัดแพร่รับผิดชอบให้เกิดคณะกรรมการระดับจังหวัดและอำเภอ ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ก.ค. 54เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่
2.มีการตั้งเป้าผู้ร่วมลงนามปฏิญาณตนทั้งจังหวัดจำนวน 84,000 คน มีการทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและทุกวัดในชุมชน คณะสงฆ์รับมอบสื่อรณรงค์พร้อมให้วัดเป็นศูนย์กลาง ในการชักชวนให้คนเลิกเหล้ารักษาศีล 5 รองเจ้าคณะอำเภอสูงเม่นกำหนดให้ผู้นำชุมชน กำนัน/ผู้ใหญ่บ้านเขตอำเภอสูงเม่นบวชในช่วงเข้าพรรษารวมทั้งปฏิญาณตนลดละเลิกเหล้าตลอดเข้าพรรษา
หลังจากนี้ผู้ว่าฯชวน ได้มีแนวทางให้นายอำเภอทุกอำเภอร่วมกิจกรรมบวชพระในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา รวมทั้งปฏิญาณตนงดเหล้าตลอด 3 เดือน
3.จัดทำสกู๊ปวีซีดี 840 ชีวิตเลิกเหล้าโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์รับผิดชอบด้านการผลิตและเผยแพร่ ตามช่องเคเบิ้ลทีวีจังหวัด รวมทั้งส่งเรื่องราวที่น่าสนใจต่าง ๆ เผยแพร่ตามหนังสือสิ่งพิมพ์วารสาร ทำสปอตวิทยุในมุมมองและวิถีชีวิตคนแพร่กระจายไปยังทุกสถานี จัดทำป้ายคัทเอาท์ใหญ่รรรงค์ ชู "งดเหล้าเข้าพรรษา ทำความดีถวายในหลวง ครบ 84 พรรษา-2,600ปี พุทธชยันตีเฉลิมราช" (ภาพปรากฎบนคัทเอาท์ ภาพในหลวงออกผนวช)
4.มีการจัดทำสำรวจความคิดเห็นและรวบรวมสถิติผลกระทบที่เกิดจากการเลิกเหล้า ตลอดระยะเวลาสามเดือนเปรียบเทียบ
ด้านเครือข่ายภาคประชาชน โดยมีคุณเชิดพงษ์ แก้วเอ้ย เป็นผู้ประสานงานประชาคมงดเหล้าจังหวัดแพร่ กล่าวว่า "โดยรวมการทำงานงดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้ บรรยากาศคึกคัก ในจังหวัดแพร่มีการทำงานรณรงค์ทางสังคมอย่างต่อเนื่องจากเข้าพรรษาปีที่แล้ว มาถึงงานกาชาด ซึ่งนับเป็นเป็นครั้งแรกที่งานกาชาดจังหวัดแพร่ปลอดเหล้าและไม่มีผู้เสียชีวิตเลย-มาจนถึงการรณรงค์ช่วงเทศกาลลอยกระทงและสงกรานต์ จัดพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยสนุกได้ไร้แอลกอฮอล์ แม้ว่าในพื้นที่มีความยากลำบากในการสื่อสารเชิญชวนเพราะเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายสุราชุมชน ทั้งยังมีคนดื่มจำนวนมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ แต่หากได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายต่าง ๆ รวมทั้งนโยบายจากจังหวัดโดยท่านผู้ว่าฯ ก็อาจจะสามารถลดการดื่มลงได้ในอนาคต"