กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหมอกควันไฟป่าปกคลุมงดเว้นการเผาวัสดุและการประกอบกิจกรรมที่ทำให้เกิดหมอกควัน เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น สวมหน้ากากอนามัยและแว่นตาทุกครั้ง เพื่อลดปริมาณการสูดดมควันพิษจากฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์หมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ลอยเข้าปกคลุมพื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดสตูลที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟป่าดังกล่าว ทำให้มีสภาพหมอกควันในอากาศหนาแน่น แม้จากรายงานของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ค่าอากาศยังไม่สูงจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอแนะวิธีปฏิบัติตนอย่างถูกต้องและปลอดภัยแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีหมอกควันไฟป่าปกคลุม ดังนี้ งดเว้นการเผาวัสดุทุกชนิดและประกอบกิจกรรมใดๆ ที่ก่อให้เกิดหมอกควันขึ้นในพื้นที่ เช่น เผาขยะมูลฝอย เผาหญ้า เผาตอซังข้าว เป็นต้น เพราะจะส่งผลให้สถานการณ์หมอกควันไฟป่ารุนแรงมากขึ้น เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ไม่ขับรถเร็ว เปิดไฟหน้ารถหรือไฟตัดหมอก จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ
ไม่แซงหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน หากทัศนวิสัยแย่มากจนมองไม่เห็นเส้นทางให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หมั่นติดตามสถานการณ์และประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด หากสภาพอากาศเลวร้ายจนส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นและการสัญจรทางน้ำ ให้ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด และงดเว้นการเดินเรือในช่วงดังกล่าว ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะมีภูมิต้านทานต่ำ ควรปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อป้องกันไม่ให้หมอกควันลอยเข้าสู่บ้าน หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดจมูกและปาก เพื่อลดปริมาณการสูดดมควันพิษจากฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ระบบทางเดินหายใจขัดข้อง หากมีอาการผิดปกติหลังจากสูดดมฝุ่นละอองหมอกควันให้รีบไปพบแพทย์ทันที และในช่วงที่มีสถานการณ์หมอกควัน ควรงดการรองรับน้ำฝนมาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค ชั่วคราว แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้ควรปล่อยให้ฝนตกลงมานานมากกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะรองรับน้ำฝนได้ เพราะอาจมีสารพิษจากหมอกควันปนเปื้อนในน้ำ ทำให้เกิดอันตรายได้ หากประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์หมอกควันสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th