กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันฯ ประสานจังหวัดอบรมเพิ่มจำนวนสมาชิก อปพร. ให้ได้ร้อยละ 50 จัดซ้อมแผนหนีภัยในพื้นที่เสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำป้ายแจ้งเตือนภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และติดตั้งระบบเตือนภัย บริเวณน้ำตกหรือลำธารในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อป้องกันเหตุโศกนาฎกรรมน้ำป่าไหลหลาก
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากฉับพลันที่บริเวณน้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกไพรสวรรค์ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2550 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 38 คน บาดเจ็บ 23 คน ทางจังหวัดตรังได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 3 จุด ได้แก่ ที่น้ำตกสายรุ้ง หมู่ที่ 4 ตำบลนาชุมเห็ด น้ำตกไพรสวรรค์ หมู่ที่ 4 ตำบลโพรงจระเข้ และบริเวณสถานีตำรวจภูธรอำเภอย่านตาขาว สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก กรมป้องกันฯ ได้ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ.2546 เพื่อเป็นค่าจัดการศพ ค่ารักษาพยาบาลแก่ครอบครัวผู้ประสบภัย โดยผู้เสียชีวิตที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ให้การช่วยเหลือรายละ 40,000 บาท ส่วนศพที่มิใช่หัวหน้าครอบครัวช่วยเหลือรายละ 15,000 บาท ผู้บาดเจ็บ ให้การช่วยเหลือรายละ 2,000 บาท โดยได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง รับผิดชอบเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 800,000 บาท ซึ่งจะสามารถมอบเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยและญาติผู้เสียชีวิตได้ในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายบัญญัติ จันทน์เสนะ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ให้จังหวัดประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่เสี่ยงภัย จัดฝึกอบรมสมาชิก อปพร. เพิ่มเติมให้ได้ร้อยละ 50 ของจำนวนประชากร เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวัง จุดเสี่ยงภัย จัดทำแผนป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดและอำเภอ พร้อมพิจารณาจัดซ้อมแผนหนีภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และให้จังหวัดดำเนินการช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัยในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในพื้นที่เข้าไปดูแลปลอบขวัญญาติของผู้เสียชีวิตด้วย ตลอดจนประสานให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตั้งไซเรน แจ้งเตือนภัยในพื้นที่จุดเสี่ยงภัยบริเวณน้ำตกทั่วประเทศ สำหรับมาตรการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว กรมป้องกันฯ ได้แจ้งให้อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีน้ำตกหรือลำธาร จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำป่าไหลหลากฉับพลัน โดยให้พักผ่อนบนตลิ่งหรือลงเล่นน้ำในจุดที่ปลอดภัย ใกล้กับตลิ่งเท่านั้น และไม่ลงเล่นน้ำในจุดที่เป็นโขดหิน บริเวณที่เป็นน้ำตกกระแสน้ำไหลเชี่ยว หรือกลางลำน้ำที่เป็นจุดอันตราย รวมทั้งให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติฯ จัดเจ้าหน้าที่เวรเฝ้าระวัง แจ้งเตือนภัยในบริเวณดังกล่าวอย่างทั่วถึง หากมีสิ่งบอกเหตุ เช่น มีฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำ ระดับน้ำในลำห้วยมีระดับสูงขี้นอย่างรวดเร็ว สีน้ำเริ่มขุ่นเป็นสีน้ำตาล หรือมีเสียงดังจากพื้นที่ต้นน้ำดังผิดปกติ ให้แจ้งประชาชนมิให้ลงเล่นน้ำ หรือขึ้นจากน้ำในทันที และให้ติดตั้งระบบเตือนภัย เช่น ไซเรนมือหมุน หอสัญญาณเตือนภัย และธงสัญลักษณ์บอกเหตุ เพื่อสามารถแจ้งเตือนภัยได้ทันต่อเหตุการณ์ ทั้งนี้ หากประชาชนประสบ สาธารณภัย ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป