กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะวิธีใช้รถระบบเกียร์อัตโนมัติอย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยผู้ขับขี่ควรหมั่นนำรถที่มีอายุการใช้งานมายาวนานไปตรวจสอบระบบเกียร์อัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่รถมือใหม่ควรเรียนรู้ระบบการทำงานของเกียร์อัตโนมัติอย่างละเอียด เลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานและสภาพเส้นทาง สตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P ไม่สตาร์ทรถในขณะที่อยู่นอกตัวรถ เพราะหากระบบเกียร์ขัดข้อง และรถยนต์พุ่งไปข้างหน้าหรือถอยหลังอย่างรวดเร็วจะไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถยนต์ระบบเกียร์อัตโนมัติทำงานขัดข้อง เป็นเหตุให้นักเรียนโรงเรียนเต็มรักวิทยา หมู่ 8 ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีสาเหตุมาจากระบบเกียร์อัตโนมัติขัดข้อง ความประมาทและการใช้เกียร์อัตโนมัติอย่างไม่ถูกวิธี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการใช้รถยนต์ระบบเกียร์อัตโนมัติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีใช้รถยนต์ระบบเกียร์อัตโนมัติอย่างถูกต้องและปลอดภัย ดังนี้ ผู้ขับขี่ควรหมั่นนำรถไปตรวจสอบระบบเกียร์อัตโนมัติอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะรถที่มีอายุการใช้งานมายาวนาน ต้องตรวจสอบเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันคันเกียร์ค้างหรือเกียร์ทำงานบกพร่อง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ สำหรับผู้ขับขี่รถมือใหม่ ควรเรียนรู้ระบบการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ และการใช้งานของแต่ละตำแหน่งเกียร์อย่างถูกต้อง ดังนี้ P ใช้สำหรับจอดรถในตำแหน่งที่ไม่กีดขวางรถคันอื่นหรือจอดในบริเวณที่ลาดชัน R ใช้ในการถอยหลัง เป็นตำแหน่งที่อันตรายมากที่สุด ให้เหยียบเบรกทุกครั้งที่เข้าเกียร์ เพื่อให้รถถอยหลังอย่างช้าๆ N เป็นตำแหน่งเกียร์ว่าง ใช้ในการหยุดรถชั่วคราวหรือจอดรถในตำแหน่งที่กีดขวางเส้นทางจราจร D ใช้ในการขับขี่เพื่อเดินหน้ารถตามปกติ ที่สำคัญ ผู้ขับขี่ต้องเลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานและสภาพเส้นทาง ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ควรตรวจสอบให้เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P และสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P เท่านั้น เพราะหากคันเกียร์คร่อมอยู่ในตำแหน่ง P — R แรงสั่นสะเทือนจากการสตาร์ทเครื่องยนต์ อาจทำให้เกียร์ดีดไปเข้าเกียร์ R ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ สำหรับการเปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่งอื่น เช่น ตำแหน่ง N ไป D หรือ R ต้องทำในขณะที่รถยนต์จอดสนิท และควรเหยียบเบรกค้างไว้ เพื่อป้องกันรถเดินหน้าหรือถอยหลังอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ขับขี่ตกใจและเหยียบคันเร่ง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง กรณีที่ขับรถผ่านเส้นทางที่มีการจราจรติดขัดให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ห้ามยกเท้าออกจากแป้นเบรกในขณะที่เกียร์อยู่ในตำแหน่ง D อย่างเด็ดขาด เพราะรถจะเคลื่อนตัวไปพุ่งชนรถคันหน้า ทุกครั้งที่ถอนเท้าออกจากคันเร่ง ให้ยกเท้าไปไว้บริเวณใกล้ๆ กับแป้นเบรก เพราะหากจำเป็นต้องหยุดรถกะทันหัน จะได้เหยียบเบรก เพื่อชะลอความเร็วได้ทัน และป้องกันการเหยียบแป้นผิด กลายเป็นการเร่งความเร็ว ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากจอดรถในที่ลาดชันหรือลงจากรถชั่วคราวให้เลื่อนคันเกียร์ไปไว้ที่ตำแหน่ง P พร้อมดึงเบรกมือเพื่อป้องกันรถเลื่อนไหล แต่ห้ามใส่เกียร์ในตำแหน่ง D แล้วขึ้นเบรกมือไว้ เพราะเบรกมือไม่สามารถหยุดการเคลื่อนที่ของรถได้ ที่สำคัญ ผู้ขับขี่ควรเรียนรู้เทคนิคและวิธีการใช้เกียร์อัตโนมัติอย่างถูกต้องและปลอดภัย ศึกษาวิธีการแก้ไขปัญหากรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมทั้งใช้รถด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท ก่อนสตาร์ทรถควรตรวจสอบเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและปลอดภัย ไม่สตาร์ทรถในขณะที่ผู้ขับรถอยู่นอกตัวรถ เพราะหากระบบเกียร์ขัดข้อง และรถยนต์พุ่งไปข้างหน้าหรือถอยหลังอย่างรวดเร็ว จะไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ทำให้เกิดโศกนาฎกรรมสะเทือนขวัญที่สร้างความสูญเสียแก่ผู้อื่นดังเช่นเหตุการณ์ดังกล่าว
0-2243-0674 0-2243-2200
www.disaster.go.th