แสนสิริออกหุ้นกู้ 5 ปี มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท เริ่มจำหน่าย กรกฎาคมนี้ ผ่านสาขาของ SCB

ข่าวอสังหา Tuesday July 12, 2011 16:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--แสนสิริ กลุ่มบริษัทแสนสิริเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว อายุ 5 ปี มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท โดยแต่งตั้งให้ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย เริ่มเปิดจองซื้อ 18 — 20 กรกฎาคมนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ “SIRI” เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินการออกหุ้นกู้ระยะยาว อายุ 5 ปี จำนวนรวม 1,000,000 หน่วย (หนึ่งล้านหน่วย) มูลค่าหุ้นกู้รวม 1,000 บาท (หนึ่งพันล้านบาท) สำหรับผลตอบแทนของหุ้นกู้ดังกล่าว คือ อัตราดอกเบี้ยในปีที่ 1-3 เท่ากับ 5.40 % ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยในปีที่ 4-5 เท่ากับ 6.00 % ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนและกำหนดวงเงินจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท โดยคาดว่าจะเสนอขายในวันที่ 18-20 กรกฎาคม 2552 นี้ “บริษัทฯ ตัดสินใจให้มีการออกหุ้นกู้เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจที่เติบโตขึ้นจากการที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์แสนสิริที่แข็งแกร่งขึ้นเป็นลำดับตามแนวทางธุรกิจที่วางไว้ โดยเงินทุนที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้ครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการขยายธุรกิจให้ครบวงจรและครอบคลุมที่อยู่อาศัยทุกเซกเมนท์มากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการพึ่งพาวงเงินกู้จากธนาคาร ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งให้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ของบริษัทฯ เพื่อเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป ผ่านเครือข่ายสาขาของธนาคารทั่วประเทศ หรือโทร 02 777 7777” นายเศรษฐา กล่าว ทั้งนี้ ทริสเรตติ้ง ได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้นี้ที่ระดับ BBB โดยในปัจจุบัน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ “SIRI” เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ณ เดือนกรกฎาคม 2554 บริษัทมีจำนวนโครงการที่เปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนาทั้งสิ้น 49 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 65,174 ล้านบาท รวมทั้งมียอดขายรวมทั้งสิ้น 46,179 ล้านบาท หรือคิดเป็นยอดขายร้อยละ 71 ของมูลค่าโครงการ นอกจากนี้บริษัทยังมีความได้เปรียบในการแข่งขันจากการมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและการมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่งเป็นสำคัญ รวมทั้งยังคงมียอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างน่าพอใจรวมถึงยอดขายที่รอการส่งมอบอีกในปริมาณมาก บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2553 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 18,755 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,898 ล้านบาท และ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2554 บริษัทมีรายได้รวม 3,639 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 216 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ