กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--เพนเน็ตเทรท
? ดันแบ็คล็อคเพิ่มเป็นกว่า 12,000 ล้านบท คาดรับรู้งานใหม่รายได้ใน 1 ปี
? ผู้บริหาร มั่นใจ ทั้งปีเติบโต 40% ตามเป้า
โตโย-ไทย (TTCL) เซ็นสัญญาคว้างานใหญ่ รับเหมาครบวงจรมูลค่า 6,000 ล้านบาท รับงานก่อสร้างโรงงานสินแร่หายาก Rare Earths ขนาดใหญ่ที่มาเลเซีย ดันแบ็คล็อคเพิ่ม 1 เท่าตัวเป็นกว่า 12,000 ล้านบาท
คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสฝ่ายขาย ของ TTCL หรือ บริษัทโตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านรับเหมาก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แบบครบวงจร (EPC) หรือ (Engineering, Procurement and Construction) รายเดียวของไทย เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างทั้งโครงการที่เมืองกวนตัน รัฐปาหัง ประเทศมาเลเชีย ให้กับบริษัท ไลนาส (มาเลเชีย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไลนาส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LYC ซึ่งเป็น 1 ใน 100 บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย- ASX100)
“เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจ จากกลุ่มบริษัท ไลนาส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินงาน รับเหมาแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ ออกแบบวิศวกรรม ติดตั้งเครื่องจักร และก่อสร้างโรงงานแยกสินแร่หายาก Rare Earth โรงแรกของโลก ที่ตั้งอยู่นอกประเทศจีน มูลค่าโครงการประมาณ 5,400 — 6,300 ล้านบาท (US$ 180 — 210 million) ซึ่งสินแร่หายาก Rare Earth นี้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสินค้าไฮเทคจำนวนมาก สำหรับหลากหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ อุตสาหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น Ipod จอภาพ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เช่น เครื่องผลิตกังหันลม ที่สำคัญเป็นวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำเข้าจากเหมืองของกลุ่มบริษัท ไลนาสในประเทศ ออสเตรเลีย
การชนะงานโครงการนี้ที่มีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท ทำให้ มูลค่างานในมือหรือ แบ็คล็อค ของ TTCL เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่า ตัวเป็นประมาณ 12,000 ล้านบาท และ TTCL จะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการนี้ได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 3 นี้ โดยโครงการจะเริ่มดำเนินงานในเดือนสิงหาคม 2554 นี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2555” คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กล่าว
“โครงการนี้ เป็น 1 ในโครงการในต่างประเทศ ที่สำคัญในปีนี้ของบริษัทฯ ซึ่ง TTCL มั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้สูงถึง 40% ด้วยกลยุทธ์เติบโตทั้งนอกบ้านและในบ้าน คือ การขยายงานต่างประเทศควบคู่กับงานในประเทศ ขณะนี้ TTCL มีงานก่อสร้างทั้งในประเทศและต่างประเทศหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลที่เวียดนาม โครงการสร้างโรงไฟฟ้านวนคร (NNE) (ซึ่งโครงการนี้นอกจากบริษัทฯจะได้รับงานรับเหมาแบบครบวงจร EPC แล้วบริษัทฯยังได้เข้าลงทุนด้วยการเข้า ถือหุ้น บุริมสิทธิ์ประมาณ 71% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งจะทำให้ TTCL มีผลประกอบการที่มั่นคงสูงยิ่งขึ้น)
“TTCL มุ่งมั่นใช้กลยุทธ์หมวก 2 ใบเพื่อขยายธุรกิจคือ นอกจากจะรับงานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร (EPC) แล้วบริษัทฯยังพร้อมจะร่วมเข้าลงทุนถือหุ้นในโครงการที่น่าสนใจอีกด้วย (ดังเช่นโครงการโรงไฟฟ้า นวนคร) เนื่องจากบริษัทฯมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีปริมาณเงินสดในมือสูง และมีทีมผู้บริหารและวิศวกรที่พรั่งพร้อม อีกทั้งมีพันธมิตรหลักระดับโลกที่ร่วมถือหุ้นในบริษัท ถึง 3 บริษัทคือ โตโย เอ็นจิเนียริ่ง (TOYO Engineering) และ ชิโยดะ คอร์ปอเรชั่น (CHIYODA Corporation) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 และ 2 ในประเทศญี่ปุ่นและ บมจ. อิตาเลียนไทย เดเวล็อปเมนต์ (ITD) ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดยในขณะนี้ TTCL อยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานหลากหลายโครงการทั้งในและต่างประเทศ มูลค่ารวมกว่า 70,000 ล้านบาท” คุณสุวิทย์กล่าวสรุป
บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วรวม 480 ล้านบาท ก่อตั้งขึ้นในปี 2528 โดยการร่วมทุนระหว่างบริษัท โตโย เอนจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านรับเหมาวิศวกรรมโรงงานครบวงจรที่มีประสบการณ์กว่า 48 ปีจากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาทั่วไปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย และในปัจจุบัน บริษัท ชิโยดะคอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านรับเหมาวิศวกรรมโรงงานครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประเทศญี่ปุ่นได้เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 7% เช่นกัน
TTCL เป็น เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งเดียว ที่มีผลประกอบการที่เติบโตสูงและต่อเนื่องมาตลอดกว่า 26 ปี ปัจจุบัน TTCL มีจำนวนวิศวกรทุกสาขามากที่สุดในประเทศไทยประมาณคือ 800 คนจากพนักงานทั้งหมดประมาณ 1,400 คน บริษัทฯมีประสบการณ์ในการรับเหมาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแล้วกว่า 160 โครงการ คิดเป็นมูลค่างานรวมกว่า 60,000 ล้านบาท มีฐานลูกค้าครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ เคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี ปิโตรเลียม ปุ๋ยเคมี โรงไฟฟ้า พลังงานทดแทน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทมหาชนและบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มปตท. กลุ่ม SCG หรือปูนซิเมนต์ไทย กลุ่มบมจ. วีนิไทย กลุ่มคาโอของญี่ปุ่น กลุ่มไบเออร์ของเยอรมัน เป็นต้น โดยกลุ่มตลาดหลักในต่างประเทศได้แก่ เวียดนาม ซึ่งบริษัทมีบริษัทย่อยดำเนินงานอยู่ จีน กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มตะวันออกกลาง กลุ่มอาฟริกา และสหรัฐอเมริกา”
สอบถามข้อมูลประชาสัมพันธ์ : บริษัท เพนเน็ตเทรท จำกัด โทรศัพท์ 0 2681 5305-7