TK ย้ำ ดอกเบี้ยขาขึ้นไม่กระทบกับผลการดำเนินงาน

ข่าวยานยนต์ Thursday July 14, 2011 10:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--ฐิติกร - TK ดำเนินการตามแผนป้องกันดอกเบี้ยขาขึ้นโดยใช้เครื่องมือทางการเงินคงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวไว้ในอัตราที่ไม่สูง - ตลาดรถจักรยานยนต์ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง บริษัท ฐิติกร จำกัด (TK) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ย้ำแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นอย่างต่อเนื่องจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ แต่อย่างไร ทั้งนี้เพราะบริษัทฯ ได้เล็งเห็นภาวะการณ์ดังกล่าวมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ เร่งออกเครื่องมือทางการเงินเพื่อคงอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการบริษัท ฐิติกร จำกัด หรือ TK เปิดเผยว่าจากมติของคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาเป็น 3.25% บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าจะไม่กระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ แต่อย่างไร โดยในปี 2553 ที่ผ่านมา บริษัทได้ออกหุ้นกู้จำนวน 1,100 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.5% ระยะเวลา 3-5 ปี และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 บริษัทสามารถออกหุ้นกู้ไปแล้ว 1,050 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 4% ระยะเวลา 3-5 ปี ทำให้สัดส่วนเงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ของบริษัทสูงถึง 90% อีกทั้งการให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ของบริษัทมีระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี ทำให้ความเสี่ยงในเรื่องอัตราดอกเบี้ยในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าไม่มีนัยสำคัญ ในทางกลับกันดอกเบี้ยที่ให้เช่าซื้อมีแนวโน้มสูงขึ้นทำให้บริษัทสามารถรักษาส่วนต่างกำไรได้ในระยะยาว หรืออีกนัยหนึ่งคือการขยับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้จะมีผลน้อยมากกับบริษัททั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในส่วนของการขยายธุรกิจ บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินที่ยังไม่ได้ใช้กว่า 2,800 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการเติบโตของบริษัทของบริษัท โดยคาดว่าในปี 2554 นี้ ซึ่งจะทำให้การขยายตัวของธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2553 ปัจจุบัน TK มีพอร์ตสินเชื่อประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยประมาณ 80% เป็นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ส่วนที่เหลือเป็นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ “เราจะยังคงรักษาอัตรานี้ต่อไปเพราะตลาดรถมอเตอร์ไซด์นั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเราเองก็มีความเชี่ยวชาญการให้สินเชื่อตลาดรถจักรยานยนต์ ซึ่งให้อัตราผลตอบแทนที่ดีกว่า ตลอดจนเราเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดมากกว่า 25 ปี ทำให้เราสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าสภาพตลาดรถจักรยานยนต์จะเป็นอย่างไร ซึ่งในปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดของเราในการสร้างผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องและมั่นคงต่อไป” นางสาวปฐมากล่าว นายประพลกล่าวเพิ่มเติมว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2554 จะยังคงเติบโตต่อไป โดยคาดว่าปีนี้ขนาดตลาดรถจักรยานยนต์น่าจะทะลุระดับ 2 ล้านคัน เติบโตจาก 1.8 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว หรือประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ ในส่วนของ TK คาดว่าการให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ คงจะทำได้ดีกว่าการขยายตัวของตลาด ซึ่งเราคาดว่าจะทำได้ 20-25% เลยทีเดียว หรือประมาณ 2 เท่าของตลาดปกติ และในไตรมาสแรกของปีนี้ เรามีกำไรสุทธิประมาณ 146.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.29 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในช่วงเดียวกันประมาณ 16%” นายประพลกล่าว นางสาวปฐมากล่าวเพิ่มเติมว่าภายใต้นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยนี้ น่าจะส่งผลดีต่อกำลังซื้อของประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของบริษัท เป็นผลดีแก่บริษัทไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการให้สินเชื่อและในส่วนของคุณภาพลูกหนี้ แต่ทั้งนี้บริษัทก็จะยังคงเน้นการพิจารณาสินเชื่ออย่างเข้มข้นต่อไปด้วยความระมัดระวังบนฐานข้อมูลลูกค้าที่บริษัทมีอยู่ในมือมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ