กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
กรมศุลกากรยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นักท่องเที่ยวซื้อจากร้านค้าปลอดอากร เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าและสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์
นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรได้ยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร และซื้อจากร้านค้าปลอดอากรที่ตั้งอยู่ในสนามบินศุลกากร นักท่องเที่ยวสามารถซื้อของใช้ส่วนตัวหรือในวิชาชีพที่ราคารวมกันไม่เกิน 2 หมื่นบาท ของใช้ในบ้านเรือนเนื่องจากย้ายภูมิลำเนา ราคารวมกันไม่เกิน 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นการยกเว้นอากรเพิ่มเติมจากระเบียบเดิมที่อนุญาตให้ซื้อได้เฉพาะบุหรี่ปริมาณไม่เกิน 200 มวน หรือซิการ์หรือยาเส้นปริมาณไม่เกินอย่างละ 250 กรัม สุราปริมาณไม่เกิน 1 ลิตร โดยนักท่องเที่ยวจะต้องแสดงหนังสือเดินทาง (PASSPORT) และต้องใช้สิทธิภายใน 24 ชั่วโมง นับแต่เวลาที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ สามารถซื้อสินค้าจากร้านค้าปลอดอากรขาออกทั้งในสนามบินและในเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมศุลกากรได้ปรับปรุงระเบียบร้านค้าปลอดอากรในเมืองให้นักท่องเที่ยวสามารถนำของที่ซื้อติดตัวไปพร้อมกับตนได้ทันที โดยร้านค้าปลอดอากรในเมืองจะบรรจุของที่ขายไว้ในถุงโปร่งใสที่มองเห็นสภาพภายในได้อย่างชัดเจน ซึ่งกรมศุลกากรได้นำระบบ Bar Code หรือ RFID มาใช้ในการกำกับตรวจสอบสินค้าทุกชิ้นที่จำหน่ายออกไป เพื่อความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและง่ายต่อการตรวจสอบ
อธิบดีกรมศุลกากร เพิ่มเติมว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งมีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แล้วนิยมซื้อของฝากหรือซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งพ่อค้า-แม่ค้าที่ฉวยโอกาสแสดงตัวเป็นนักท่องเที่ยวลักลอบนำสินค้าหนีศุลกากรเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักร ทั้งนี้ จากสถิติการตรวจผู้โดยสารที่เดินทางเข้า—ออกนอกประเทศ ในเดือนเมษายน 2549 มีผู้เดินทางออกนอกประเทศ จำนวน 1,018,115 คน และผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 1,025,356 คน โดยมีผลการจับกุมการกระทำผิดกรณีลักลอบนำเข้าสินค้าหนีศุลกากร และถูกจับกุมได้ จำนวน 2 ราย มูลค่าสินค้ากว่า 5 แสนบาท
อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร ด่านศุลกากรทุกแห่งให้เข้มงวดกวดขันประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทราบถึงกฎระเบียบการนำเงินตราและสินค้าเข้ามาในหรือออกไปนอกประเทศ โดยไม่ให้นำเงินตราไทยออกนอกประเทศเกินกว่า 5 หมื่นบาท ยกเว้นการนำเงินตราไทยออกไปยังประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย เช่น พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนาม สามารถนำออกได้ไม่เกิน 5 แสนบาท การนำเงินตราไทยออกนอกประเทศมากกว่าจำนวนที่กำหนดจะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ผ่านธนาคารที่ได้รับอนุญาตและนำต้นฉบับเอกสาร ธ.ต.5 มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรขณะผ่านช่องตรวจผู้โดยสารขาออก ส่วนเงินตราต่างประเทศนั้นสามารถนำเข้าและส่งออกประเทศได้ไม่จำกัดจำนวน