TMB เดินหน้าสร้างผลงานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ ดีขึ้นพร้อมผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องตามเป้าหมาย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 19, 2011 15:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--ธนาคารทหารไทย TMB เดินหน้าสร้างผลงานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดีขึ้นพร้อมผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องตามเป้าหมาย ด้วยกำไรสุทธิ 1,195 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2/2554 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เผยผลประกอบการของธนาคารและบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 2 ของปี เป็นไปตามเป้าหมาย ด้วยผลกำไรสุทธิ 1,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว (1/2554) และเพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (2/2553) ทั้งนี้ ผลประกอบการดังกล่าวทำให้ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ รวม 2,294.79 ล้านบาท สำหรับงวดครึ่งปีแรก 2554 นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า “ผลประกอบการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า ธนาคารกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและมีผลการดำเนินงานที่ดีตามแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีเป้าหมายหลักในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตทางการเงินของลูกค้าทุกกลุ่มให้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต ส่งผลให้ลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ" ทั้งนี้ ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ (Net Interest Margin — NIM) ในไตรมาสที่ 2/2554 เพิ่มขึ้นเป็น 2.45% จาก 2.21% ในไตรมาส 1/2554 และในขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมก็เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2554 และ 16% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2553 นอกจากนี้ ธนาคารยังมีเงินฝากเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว อันเป็นผลเนื่องมาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากที่มอบประโยชน์โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ซึ่งได้แก่ผลิตภัณฑ์ “ทีเอ็มบีเงินฝากไม่ประจำ ดอกเบี้ยสูง” ที่ทำให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการออมเงิน และมีความยืดหยุ่นในการถอนเงินออกไปใช้ โดยที่ไม่ต้องฝากประจำ และไม่เสียสิทธิด้านอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่นิยมของลูกค้าอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งการปรับปรุงช่องทางการบริการซึ่งทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการของธนาคารได้ง่ายขึ้น ในไตรมาสที่ 2/2554 ที่ผ่านมา สินเชื่อคุณภาพเติบโตเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย ส่วนคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง 1,927 ล้านบาท เหลือ 30,022 ล้านบาท ในขณะที่สัดส่วน NPL ของธนาคารลดลงเหลือ 6.0% เมื่อเทียบกับ 6.96% ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว และ 7.7% เทียบกับเมื่อสิ้นปี 2553 ส่วน NPL ของธนาคารและบริษัทย่อยลดลงเหลือ 6.5% เทียบกับ 7.5% ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว และ 8.3% เมื่อสิ้นปี 2553 ซึ่งพัฒนาการที่ดีขึ้นนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของธนาคาร แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงมุ่งมั่นดำเนินการตามแผนที่จะปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์และสัดส่วน NPL ให้ยิ่งขึ้นต่อไป ธนาคารมีสถานการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 มีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 16.8% ซึ่งเป็นกองทุนชั้นที่ 1 ในสัดส่วน 11.6% นายบุญทักษ์กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในครึ่งหลังของปี 2554 นี้ ธนาคารยังคงมุ่งเน้นในการสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพ และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตและได้รับบริการทางการเงินที่ดีขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา ส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกค้าทุกกลุ่มบรรลุเป้าหมายทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยกระดับคุณภาพการบริการและพัฒนาเครือข่ายช่องทางการบริการ ทั้งสาขา เอทีเอ็ม และออนไลน์ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มได้รับความสะดวกในการเข้าถึงบริการ รวมทั้งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าในการใช้บริการและผลิตภัณฑ์ของธนาคาร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ