กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--สยามคูโบต้า
สยามคูโบต้า เล็งเห็นความสำคัญของเยาวชนผู้จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต รวมถึงอาชีพเกษตรกรรมซึ่งถือเป็นอาชีพที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของชาติ โดยปัจจุบันพบว่ามีเยาวชนมากมายที่เกิดในครอบครัวที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อเติบโตขึ้นกลับละทิ้งอาชีพหลักของครอบครัว ปล่อยให้พื้นที่เกษตรตกไปอยู่ในมือของนายทุนอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากไม่มีความรู้ ประสบการณ์ และทัศนคติที่ดีต่ออาชีพเกษตรกรรม
กว่า 11 ปี ที่สยามคูโบต้าได้ริเริ่มโครงการ “ค่ายยุวเกษตรกรสยามคูโบต้า” ขึ้น เพื่อให้เยาวชนหันมาสนใจอาชีพเกษตรกรรม ด้วยการให้ความรู้และประสบการณ์จริงในการทำการเกษตร รวมถึงเผยแพร่เทคโนโลยีเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการก้าวสู่การทำการเกษตรสมัยใหม่
โดยปีนี้สยามคูโบต้า ได้จัดค่ายยุวเกษตรกรสยามคูโบต้า รุ่นที่ 1 ประจำปี 2554 ตอน “อยู่ดีกินดี ด้วยเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิต” ขึ้น เมื่อวันที่ 27 — 30 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา ณ จ.ชลบุรี ซึ่งมีเยาวชนลูกหลานเกษตรกรเข้าร่วมอบรม 70 คน จาก 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท อุทัยธานี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี และเพชรบุรี ซึ่งการอบรมครั้งนี้เน้นการเรียนรู้การทำนาด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมแปลง การปักดำ ตลอดจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ตามแนวคิด “ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ชีวิตอยู่ดีกินดี” เพื่อให้เยาวชนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำการเกษตรในครอบครัวให้มีผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และปีนี้ยังมีแผนการจัดค่ายยุวเกษตรกรสยามคูโบต้าขึ้นอีก 3 รุ่น เพื่อกระจายโอกาสให้เยาวชนในทุกพื้นที่
นอกจากนี้ สยามคูโบต้า และ มูลนิธิซิเมนต์ไทย ยังได้ร่วมกันจัดค่ายพัฒนาทักษะการใช้และการบำรุงรักษาเครื่องจักรกลการเกษตรคูโบต้า ให้นักศึกษาระดับชั้น ปวช. และ ปวส. ในสาขาช่างต่าง ๆ ทั่วประเทศที่ได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิซิเมนต์ไทยได้มีโอกาสเข้ารับความรู้และประสบการณ์จริง ด้านการใช้และเทคนิคในการบำรุงรักษาเครื่องจักรกลการเกษตร เพราะเยาวชนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีความใกล้ชิดในภาคเกษตรกรรม โดยสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปเผยแพร่และประยุกต์ใช้ในการเรียน ใน ชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพได้เป็นอย่างดี
กิจกรรมที่กล่าวมาในข้างต้น เป็นกิจกรรมที่สยามคูโบต้ามุ่งมั่นปฏิบัติ เพื่อที่จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการสืบสานและต่อยอดทั้งด้านความรู้ในการทำการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ และด้านการประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรมให้กับเยาวชน อันจะนำไปสู่การพัฒนาภาคการเกษตรของไทยอย่างยั่งยืนต่อไป