กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
หลังก้าวเข้ามาดำรงแหน่งเป็นซีอีโอ หรือประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของ แม็คยีนส์ ยีนส์สายพันธุ์ไทยในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือน ธนา เธียรอัจฉริยะ เตรียมบุกตลาดยีนส์เต็มสูบ ประกาศ “ก้าว” ขึ้นเป็นผู้ผลิตยีนส์เบอร์หนึ่งของไทยภายในปี 2555 ผ่านองค์กรมีหัวใจ เริ่มด้วยภารกิจ 123 วันปั้นเน็กซ์แม็คยีนส์ (The Next Mcjeans) พร้อมเปิดตัวทัพผู้บริหารไฟแรงทั้ง 12 คน
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พี.เค.การ์เม้นท์ (อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแม็คยีนส์ กล่าวว่า “จากช่วงเวลาสองเดือนที่ผมได้เข้ามาร่วมงานกับแม็คยีนส์ เป็นความตื่นตาตื่นใจกับสิ่งใหม่ๆที่ได้พบ เนื่องจากผมไม่ได้มีประสบการณ์ทางด้านธุรกิจค้าปลีกและแฟชั่นมาก่อน โดยเฉพาะในส่วนของโรงงานและการผลิต แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ แม็คยีนส์แข็งแกร่งกว่าที่ผมคิดไว้มาก โดยเฉพาะในส่วนของการผลิตและตัวสินค้า เพราะแม็คยีนส์มีโรงงานที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และมีกำลังการผลิตที่สูงสุดในประเทศ ประกอบกับตัวโปรดักส์เองก็เป็นยีนส์ที่มีคุณภาพ และดีไซน์มาเพื่อรองรับสรีระรูปร่างของคนไทยโดยเฉพาะ ความนิยมจึงเกิดจากการบอกเล่าแบบปากต่อปาก และขยายเป็นฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในต่างจังหวัด อีกทั้งพนักงานขายก็มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านยีนส์และเข้าใจลูกค้าอย่างมาก ด้วยส่วนผสมทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นเชื้อฟืนอย่างดีที่จะก่อไฟกองใหญ่ได้ต่อไป ผมจึงมั่นใจว่าแม็คยีนส์มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งได้ภายในสิ้นปี 2555 นี้”
ในปีนี้ แม็คยีนส์ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้กว่า 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ถึง 20-25% ปัจจุบัน แม็คยีนส์ คือผู้ผลิตยีนส์อันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งประมาณ 35% จากตลาดยีนส์ของไทยซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งในส่วนห้างสรรพสินค้าและยีนส์แบรนด์เนมประมาณ 5 พันล้านบาท
นอกจากนี้ แม็คยีนส์ยังได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ มุ่งสู่ความเป็นธุรกิจที่มีการบริหารงานแบบมืออาชีพอย่างแท้จริง โดยมีทัพผู้บริหารหนุ่มสาวรุ่นใหม่ไฟแรงทั้ง 12 คนที่จะมาร่วมเข้ามาเพิ่มสีสัน สร้างความตื่นเต้นและปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการยีนส์ของไทย
โดยใน 123 วันจากนี้ ทีมผู้บริหารจะร่วมกำหนดทิศทาง ยุทธศาสตร์หลักทั้งสี่ด้านของแม็คยีนส์ ซึ่งประกอบด้วย พัฒนาการของแบรนด์ (Brand evolution) นวัตกรรมของสินค้า (Product innovation) ประสิทธิภาพของการผลิต (Production efficiency) การกระจายสินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภค (Effortless distribution) เพื่อเป็นหลักในการพัฒนาแม็คยีนส์เพื่อชิงตลาดความเป็นหนึ่งในปี 2555 ที่จะถึงนี้
นอกจากการมุ่งสร้างแบรนด์แม็คยีนส์ให้แข็งแกร่งแล้ว อีกหนึ่งภาระกิจหลักที่ธนาให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือ “การสร้างแม็คยีนส์ให้เป็นองค์กรในฝัน” เป็นองค์กรที่มีหัวใจ ด้วยความเชื่อมั่นว่าหากพนักงานทำงานกันอย่างมีความสุข ผลงานต่างๆ ที่จะออกมาก็จะสนุกสนาน มีคุณภาพ และเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
“ผมคิดว่าถ้าเราอยากให้แบรนด์เป็นยังไง องค์กรต้องเป็นอย่างนั้น และถ้าเราอยากให้องค์กรเป็นอย่างไร ตัวเราเองต้องเริ่มก่อน ผมจึงเริ่มด้วยการสร้างกองทุนพนักงาน โดยอาศัยรายได้จากการไปบรรยายพิเศษตามสถาบันต่าง ๆ ในแต่ละเดือน และจะริเริ่มโครงการส่งเสริมพนักงานอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อพนักงานได้รับการสนับสนุนให้มีความพร้อมในการทำงานมากขึ้น ก็จะสามารถทุ่มเท ใส่ใจ มีความสุขกับงาน รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์และบริษัท ผลงานที่ออกมาก็มีคุณภาพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งของการก้าวสู่ความเป็นองค์กรในฝัน” ธนากล่าวสรุป