กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--ได-อิจิ คิคากุ
บริษัท เมโทรโพลิแทน เอ็กซ์เพรสเวย์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น สร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจบนเวทีระดับนานาประเทศ จัดงานเปิดตัวสำนักงานผู้แทน กรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย และประสบการณ์มากกว่า 50 ปี ในการจัดการระบบทางด่วนของกรุงโตเกียว เพื่อประโยชน์ในการจัดการปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งทางด้านบุคลากรและเทคนิค
คุณเคอิจิโร ฮาชิโมโต ประธานและซีอีโอ บริษัท เมโทรโพลิแทน เอ็กซ์เพรสเวย์ จำกัด เผยว่า นโยบายการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศของบริษัท เมโทรโพลิแทน เอ็กซ์เพรสเวย์ จำกัด ซึ่งมีรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้นหลัก มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มบทบาทของกิจการบริษัทฯ ในต่างประเทศ สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และยังมุ่งหวังส่งเสริมความร่วมมือในการทำงานระหว่างประเทศ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยก้าวหน้าของเราไปสู่ประเทศอื่นๆ โดยนำจุดแข็งเรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัย??และประสบการณ์ที่มีมากว่า 50 ปีในการจัดการระบบทางด่วน และการจราจรในเขตกรุงโตเกียวและปริมณฑล พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนในพื้นที่เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านของการวางแผน การก่อสร้าง การบริหารจัดการ การตรวจสอบ และซ่อมแซมระบบการจราจรในบริเวณเขตชุมชนเมืองที่มีการสัญจรหนาแน่น เราจะผลักดันและส่งเสริมธุรกิจของเราในต่างประเทศ โดยอาศัยข้อได้เปรียบและจุดแข็งทางเทคโนโลยี ตลอดจนความเชี่ยวชาญและความชำนาญการที่เราได้สั่งสมมาในตลอดช่วงระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้นการจัดตั้งสำนักงานผู้แทน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสำนักงานผู้แทนแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น โดยมี คุณฮิโรชิ โคจิมา ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ทำหน้าที่ประสานงานส่งเสริมความสัมพันธ์ผ่านการแลกเปลี่ยนทางด้านเทคนิคและบุคลากรกับองค์กรต่างๆ ของไทย รวบรวมข้อมูลในพื้นที่เพื่อหาโอกาสในการลงทุน จึงเป็นก้าวย่างสำคัญทางธุรกิจเพื่อก้าวสู่เวทีการตลาดระดับโลก เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นหัวใจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประตูสู่ประเทศในแถบอินโดจีน อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีเยี่ยม โดยตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ส่งบุคลากรเข้ามาร่วมทำงานในประเทศไทยในฐานะผู้เชี่ยวชาญไจก้า (องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ Japan International Cooperation Agency : JICA ) ในโครงการเกี่ยวกับถนนและเทคโนโลยีการขนส่งอัจฉริยะของไทย ตลอดจนได้ร่วมทำงานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อย่างต่อเนื่อง นำไปสู่??การลงนามในสัญญาความร่วมมือทางวิชาการ เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2553
“จุดแข็งของเราคือ ประสบการณ์ในการก่อสร้างและบริหารระบบโครงข่ายทางด่วนภายในบริเวณพื้นที่เขตเมืองซี่งมีประชากรอาศัยหนาแน่น โดยเฉพาะความได้เปรียบทางเทคนิค 4 ด้าน ได้แก่ หนึ่ง - เทคโนโลยีการก่อสร้างระบบทางด่วนท่ามกลางข้อจำกัดต่างๆ ที่ได้รับพิสูจน์แล้วว่าสามารถใช้ได้อย่างแน่นอน และปลอดภัย สอง - เทคโนโลยีการบำรุงรักษา และซ่อมบำรุงที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อความความปลอดภัยของระบบโครงสร้างที่มีการสัญจรหนาแน่น อาทิเช่น สะพาน และ อุโมงค์ เป็นต้น สาม - ระบบ ITS / ETC ของเราเป็นระบบควบคุมการจราจรที่มีความทันสมัย และก้าวหน้ามากที่สุดระบบหนึ่งของโลกที่ใช้สำหรับการควบคุมระบบโครงข่ายถนนที่มีความซับซ้อนสูง และสี่ - เรายังได้พัฒนาระบบการป้องกันภัยพิบัติ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทางลอดอุโมงค์ที่มีความยาว ซึ่งได้รับการก่อสร้างในพื้นที่เขตเมืองอีกด้วย ในขณะที่กรุงเทพฯ มีปัญหาการจราจรติดขัด บริษัท เมโทรโพลิแทน เอ็กซ์เพรสเวย์ จำกัดของเรามีชื่อเสียง และประสบการณ์ในการจัดการกับปัญหาจราจรที่มีความท้าทายคล้ายๆ กันในกรุงโตเกียวมาเป็นเวลาถึง 50 ปี ดังนั้นเราจึงมีความเชื่อว่า ประสบการณ์ของเราจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในกรุงเทพฯ เนื่องจากระบบโครงข่ายทางด่วนในกรุงเทพฯ มีการใช้งานมาเป็นเวลาถึง 30 ปีแล้ว จึงเชื่อได้ว่าน่าจะมีความเสียหายบางส่วนที่สะสมอยู่ในโครงสร้าง ซึ่งเราเชื่อว่าเราจะสามารถนำเอาเทคโนโลยีบำรุงรักษาระบบทางด่วนระดับชั้นแนวหน้าของเรา มาใช้เพื่อประโยชน์ต่อความมั่นคงปลอดภัยของผู้ใช้ระบบทางด่วนในกรุงเทพฯ” คุณเคอิจิโร ฮาชิโมโต กล่าว
นอกเหนือจากประเทศไทย บริษัทฯ ยังได้เปิดสำนักงานผู้แทนในจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของการทำงานระหว่างประเทศที่การดำเนินการผ่านความร่วมมือทางเทคนิค กับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับทางด่วนในประเทศไทยและอินโดนีเซีย และเพิ่มบทบาทของกลุ่มธุรกิจต่างประเทศของบริษัทฯ ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก
บริษัท เมโทรโพลิเทน เอ็กซ์เพรสเวย์ จำกัด เชื่อมั่นว่า ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานของบริษัทฯ ในการดูแลระบบทางด่วนและการจราจรเขตในเมืองใหญ่ที่เคยมีปัญหาจราจรติดขัดเช่นเดียวกับกรุงเทพฯ จะเป็นประโยชน์สำหรับการบรรเทาปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะการจราจรที่เคลื่อนตัวได้รวดเร็วขึ้น ไม่เพียงช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซพิษ และเป็นผลดีต่อการพิทักษ์รักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ได-อิจิ คิคากุ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร.02-949-2782-6 Email : nantaka@dik.co.th