กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--สวธ.
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ โดยมีพระราชเสาวนีย์ว่าศิลปวัฒนธรรมเป็นรากฐานบ่งชี้ความเป็นชาติ ที่ในระยะหลังทรงเห็นถึงความซบเซาของนาฏกรรมตามแบบประเพณี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประชุมผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโขนเพื่อให้จัดสร้างเครื่องแต่งกายโขนขึ้นใหม่ สำหรับใช้ในการแสดงพระราชทาน เพื่อเป็นการสืบสานฝีมือเชิงช่างทั้งช่างทำหัวโขน ช่างปักสะดึงกรึงไหม และช่างเงินช่างทอง รวมทั้งศิลปะการแต่งหน้า ซึ่งการจัดสร้างเครื่องแต่งกายและสิ่งของประกอบทุกชิ้น ได้ยึดตามรูปแบบโบราณที่ค้นคว้ามาอย่างละเอียด เมื่อจัดสร้างเสร็จสมบูรณ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จึงจัดการแสดงโขนรามเกียรติ์ ชุด “พรหมาศ” ในปี พ.ศ.2550, 2552 และชุด “นางลอย” ในปี พ.ศ.2553 ซึ่งได้รับความชื่นชมจากประชาชนอย่างมาก เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในสังคมไทยที่คนหนุ่มสาว เด็กๆ ผู้เฒ่าผู้แก่ในครอบครัวไปชมโขนกันอย่างเนืองแน่น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลาบปลื้มพระราชหฤทัยที่การแสดงโขนประสบความสำเร็จเกินคาด จึงมีพระราชดำริให้จัดแสดงโขนต่อเนื่องทุกปี เพื่อเป็นการอนุรักษ์โขน โดยในปีนี้ทรงเลือกบทรามเกียรติ์ ตอน “ศึกมัยราพณ์” ซึ่งมีจุดเด่นคือเป็นการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในบุญคุณที่มัยราพณ์ชุบเลี้ยงมัจฉานุมา ขณะเดียวกันมัจฉานุต้องแสดงความกตัญญูต่อหนุมานผู้เป็นบิดาแท้ๆ
สำหรับในส่วนของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้เปิดเผยว่า “สวธ. ได้น้อมรับพระราชเสาวนีย์ด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยมาดำเนินงาน โดยจัดกิจกรรมนิทรรศการ “ศิลปะหุ่นกระบอกไทยในงานศิลป์มหากาพย์รามเกียรติ์” ซึ่งหุ่นกระบอกไทยดังกล่าวเป็นผลงานการประดิษฐ์ของเยาวชนที่เป็นเมล็ดพันธุ์ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้สร้างขึ้นจากกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการประดิษฐ์และเชิดหุ่นกระบอกไทย เมื่อปี พ.ศ.2552-2554 มาจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการและการแสดงหุ่นกระบอกไทย ตลอดจนสาธิตขั้นตอนการประดิษฐ์หุ่นกระบอกไทยและให้ผู้สนใจร่วมฝึกประดิษฐ์หุ่นกระบอกไทยจิ๋วในครั้งนี้ด้วย ซึ่งจะกำหนดจัดกิจกรรมประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการแสดงโขน ณ ห้อง white cafe ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม — 7 สิงหาคม 2554
จึงขอเชิญชวนเยาวชน และประชาชนผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรม “ศิลปะหุ่นกระบอกไทยในงานศิลป์มหากาพย์รามเกียรติ์” ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย!
อนึ่ง กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ขึ้นทะเบียน “หุ่นกระบอกไทย” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมประจำปีพุทธศักราช 2553 เพื่อประกาศยืนยันการเป็นมรดกวัฒนธรรมของชาติและเตรียมการเข้าเป็นภาคี สมาชิกอนุสัญญาว่าด้วยการพิทักษ์รักษามรดกวัฒนธรรมของยูเนสโก