กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--พม.
นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “แนวทางการพัฒนา การดำเนินงานกองทุนคุ้มครองเด็ก”เพื่อทบทวนยุทธศาสตร์กองทุนคุ้มครองเด็ก ๒๕๕๔-๒๕๕๖ และผลการดำเนินงาน รวมทั้งร่วมกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์กองทุนคุ้มครองเด็ก ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ณ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีภารกิจในด้านการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคมไปสู่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ได้แก่ ๑. การพัฒนาสวัสดิการสังคมและสร้างความมั่นคงในการดำเนินชีวิต ๒. ส่งเสริมการขับเคลื่อน การพัฒนา ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสังคม ๓. เสริมพลังและสร้างการมีส่วนร่วม และ ๔. ส่งเสริมระบบการบริหารราชการตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้ประชากรกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการทางสังคม โดยมี “กองทุน”เป็นกลไกในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กองทุนคุ้มครองเด็ก” ซึ่งสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็ก ครอบครัว และครอบครัวอุปถัมภ์ รวมทั้งส่งเสริมความประพฤติของเด็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้ง ยังให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการต่างๆ ให้กับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน แต่เนื่องจากสถานการณ์เด็กที่นับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น แม้ว่ากองทุนฯ จะได้มีการกระจายอำนาจการพิจารณาโครงการไปสู่ภูมิภาค ตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ แต่ยังไม่สามารถทำให้การกระจายเงินกองทุนลงไปสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง จึงจำเป็นที่จะต้องมีการทบทวนยุทธศาสตร์กองทุนคุ้มครองเด็ก ๒๕๕๔-๒๕๕๖ และผลการดำเนินงาน รวมทั้งกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์กองทุนคุ้มครองเด็ก ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ร่วมกับคณะกรรมการชุดต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สามารถบรรลุผลตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖
“การประชุมในวันนี้ จะเป็นเวทีในการร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำงานของคณะอนุกรรมการบริหาร และกองทุนจังหวัด เพื่อจะนำไปปรับปรุง พัฒนา แนวทางการดำเนินงานกองทุนให้มีประสิทธิภาพซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรและกลุ่มเป้าหมายต่อไป” นางนภา กล่าว