กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--อนันตรา บ่อผุด รีสอร์ทแอนด์สปา
เชฟดอน ลอว์สัน สร้างความประทับใจให้แก่แขกที่มาเยี่ยมเยือนอนันตรา บ่อผุด รีสอร์ทแอนด์สปา เกาะสมุย มาตั้งแต่ รีสอร์ทฯ เปิดให้บริการในปี 2547 ด้วยความเชี่ยวชาญในการผสมผสานจินตนาการและฝีมือทำให้เกิดแนวคิดที่มีเอกลักษณ์ในการปรุงอาหาร ชั้นเรียนทำอาหาร (Cooking class) รวมไปถึงสอนวิธีการในการจับคู่อาหารและไวน์อย่างลงตัว เชฟดอนมีอิสระและความหลงใหลในการสร้างสรรค์รสชาติอาหารทั้งไทยและอิตาเลี่ยนสำหรับแขกของอนันตราทุกท่าน
ด้วยใจที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ เชฟดอนให้ความสำคัญกับการลงมือทำ “ถ้าคุณไม่พยายาม คุณก็จะไม่มีวันรู้”ความไม่ท้อถอยคือคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ในฐานะเชฟ เหมือนที่เขามักบอกกับนักเรียนทุกคนว่า“ในการทำอาหาร ถ้าคุณทำข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นกับทุกคน ถือว่านั่นคือบทเรียนที่คุณเพิ่งได้รับและใช้สิ่งนั้นให้เป็นประโยชน์กับตัวคุณเอง”
เชฟดอนสนใจในศิลปะการทำอาหารตั้งแต่วัยเพียง 17 ปี โดยใช้เวลากว่า 4 ปี ในการเป็นพ่อครัวฝึกหัดที่ร้านอาหารชื่อดัง Southern Cross Club ที่เมืองแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เชฟดอนยังบอกอีกว่า “ฉันสนุกกับงานที่ทำในตอนนั้นมาก และคิดว่าหากศึกษาศิลปะของทำอาหาร ฉันคงได้สนุกสนานกับการเป็นนักชิม ทานแต่อาหารดีๆ และไม่มีวันหิว ฉันยังจำได้ถึงตอนที่ได้รับเงินเดือนครั้งแรกประมาณ 2,500 บาท ซึ่งใช้ได้ไม่นานก็หมด แต่มันทำให้รู้สึกดีที่ได้รับเงินจากการทำบางสิ่งที่ฉันรัก และใช้ความพยายามเป็นพิเศษที่จะพัฒนาตนเองต่อไป ซึ่งเชฟใหญ่เล็งเห็นถึงศักยภาพของฉัน”
25 ปีผ่านไปจวบจนถึงปัจจุบัน เด็กชายจากออสเตรเลียเรียกประเทศไทยว่าบ้าน ที่ซึ่งเชฟดอนได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการได้อย่างอิสระ ผลงานล่าสุดคือการจับคู่อาหารกับชาชื่อดัง Dilmah อีกทั้งยังส่งผลให้มีการพัฒนาโปรแกรม ‘ชากูรู’ (Tea GURU) ของอนันตราในภาพรวม เหล่านี่คือพรสวรรค์ของเขา และกลายมาเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารของอนันตราฯ สร้างความประทับใจในรสชาติอาหารให้แก่แขกทุกท่าน ด้วยเมนูพิเศษและพัฒนาแนวคิดในการปรุงอาหารอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าเดินซื้อวัตถุดิบในตลาด สอนทำอาหารในชั้นเรียน หรือดูแลงานเลี้ยงของบุคคลสำคัญ
คุณแน่ใจได้ว่าจะพบเชฟอยู่ที่นั่น พร้อมที่จะแบ่งปันเคล็ดลับการปรุงอาหารแก่ทุกคนอย่างมีความสุข และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับส่วนผสมที่ดีที่สุดสำหรับการทำอาหารให้อร่อยอย่างง่ายง่าย นี่คือความรู้และเทคนิคของผู้เชี่ยวชาญที่แขกทุกท่านนำกลับไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันบนโต๊ะอาหารค่ำของตนเองเชฟดอนเล่าถึงที่มาความสำเร็จของเขาว่า “ฉันชอบทำอาหารเพราะสิ่งนี้เติมเต็มบางอย่างในตัวฉัน
ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้ฉันรู้สึกพึงพอใจและซาบซึ้งมากไปกว่าการที่แขกทานอาหารและ จากไปด้วยความรู้สึก “ว้าว! ช่างเป็นประสบการณ์ที่วิเศษจริงๆ” อีกทั้งยังมีโอกาสได้พบปะผู้คนหลากหลายจากทั่วโลก แบ่งปันประสบการณ์และสร้างมิตรภาพ ความสำเร็จเกิดขึ้นเมื่อคุณมีความมุ่งมั่น 100% แทนที่จะมานั้งนับชั่วโมงทำงานอันยาวนานในฐานะเชพ สิ่งนี้คอยย้ำเตือนว่าฉันได้ก้าวมาไกลแค่ไหนแล้ว”