ตลาดอสังหาภูเก็ตบูม คนท้องถิ่นแห่ซื้อ

ข่าวอสังหา Tuesday July 26, 2011 12:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--Knight Frank ตลาดอสังหาภูเก็ตเป็นตลาดที่มีลักษณะเฉพาะ สถานที่ตั้งทอดตัวไปยังชายฝั่งด้ายตะวันตก การซื้อขายและราคาเกิดขึ้นจากความต้องการของนักลงทุนต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกเป็นส่วนใหญ่ ตลาดอสังหาระดับบนของภูเก็ตไม่ได้เผชิญกับภาวะอุปทานล้นตลาดเนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ขายก่อนสร้าง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบนทั่วโลกตกต่ำลงตั้งแต่ปี 2551จนถึงปัจจุบัน ในปัจจุบันมีมีผู้พัฒนาโครงการหลายรายที่มีแผนเข้าไปทำธุรกิจในภูเก็ตมากขึ้น เช่น ศุภาลัย แลนด์แอนด์เฮาส์ พฤกษา ธนาสิริ นายณัฎฐา คหาปนะ ผู้อำนวยการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า โดยพื้นฐานแล้วที่อยู่อาศัยเป็นจุดเริ่มต้นของที่จะสร้างพอร์ทสินทรัพย์ของตนเอง นักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์ซื้ออสังหาโดยปราศจากการไตร่ตรองเรื่องภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ทุกชนิดที่จะได้กำไรจากการขาย กลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่น่าสนใจของตลาดอสังหาในภูเก็ตคือ ผู้ที่อาศัยในท้องถิ่นนั้น ไม่ใช่ผู้ที่สนใจบ้านหลังที่สองหรืออสังหาสำหรับพักผ่อนซึ่งเป็นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก นายณัฎฐา กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่จะจับลูกค้ากล่มนี้นั้นไม่ง่ายและไม่ยาก ความเข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ พฤติกรรมของลูกค้า และราคาที่สามารถซื้อหาได้ คือปัจจัยสู่ความสำเร็จหากผู้พัฒนาโครงการต้องการที่จะเข้ามาในตลาดนี้ จากผลวิจัยของบริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทยเปิดเผยว่า มากกว่า 80% ของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในภูเก็ตคือ คนไทยโดยเฉพาะคนที่ทำงานที่โรงแรมในภูเก็ต เจ้าของธุรกิจในภูเก็ต คนที่ทำงานในธนาคาร หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่รัฐและครูโรงเรียนนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติที่แต่งงานกับคนไทยซื้อบ้านในเมืองภูเก็ต ราคาขายของบ้านมักจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อผู้ซื้อ นายณัฎฐา ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า คนไทยที่ซื้อที่พักอาศัยในเมืองภูเก็ตเป็นกลุ่มที่คิดว่าราคามีผลในการตัดสินใจซื้อ กลุ่มนี้มีงบประมาณจำกัดและซื้อเพื่อการเข้าอยู่จริง ในปลายเดือนเมษายน มีโครงการที่พักอาศัยทั้งหมด 91 โครงการ 12,181 ยูนิตที่อยู่ในตลาด รูปแบบที่พักอาศัยส่วนใหญ่คือทาวน์เฮาส์อยู่ที่ 27% รองลงมาคือ บ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 26%และ 22% ตามลำดับ อัตราการขายอยู่ที่ 8,265 ยูนิตจากทั้งหมด 12,181 ยูนิต คิดเป็นร้อยละ 67.9% อัตราการขายเพิ่มขึ้นจากปี 2552 เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในปี 2553 จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในภูเก็ตทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น ผู้ซื้อหลักในตลาดนี้ทำงานในภาคบริการ เมื่อรายได้กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจึงต้องการซื้อที่พักอาศัยเป็นของตนเองมากกว่าที่จะเช่าอยู่ กลุ่มอสังหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ทาวน์เฮาส์อยู่ที่ 2,509 ยูนิต ตามด้วย บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่ 2,374 ยูนิต และ 1,522 ยูนิตตามลำดับ จากผลวิจัยของบริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทยเปิดเผยว่าจำนวนอุปสงค์ที่พักอาศัย 2 ชั้นมีมากที่สุด เนื่องจากราคาที่ดินในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่พักอาศัย 2 ชั้นเจะทำให้พื้นที่ใช้สอยเกิดประโยชน์ที่สุดแก่ผู้ซื้อ อย่างไรก็ตามจำนวนอุปสงค์ของที่พักอาศัยชั้นเดียวก็ยังคงมีอัตราสูงในภูเก็ตซึ่งนิยมแบบเพดานสูงประมาณ 3 เมตร ในปัจจุบันที่พักอาศัยแบบชั้นเดียวในภูเก็ตค่อนข้างหายากโดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบบ้านเดี่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ว่าบ้านรูปแบบไหนที่มีลักษณะเป็นชั้นเดียวจะขายค่อนข้างง่าย อสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตก็เหมือนในแถบอื่นของประเทศไทย ราคาขายจะแตกต่างๆไปตามสถานที่ตั้ง ขนาดของที่ดินและลักษณะเฉพาะของอสังหานั้น ราคาขายของบ้านเดี่ยวอยู่ที่ประมาณ 3.49-10.79 ล้านบาท ขณะที่บ้านแฝดอยู่ที่ประมาณ 2.4-3.6 ล้านบาทต่อยูนิตและทาวน์เฮาส์อยู่ที่ 1.75-2.89 ล้านบาท นอกจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่เข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตแล้ว บรรดาบริษัทในท้องถิ่นทั้งหลายเช่น กลุ่มบริษัทศรีสุชาติ ภูเก็ตวิลล่า บริษัท วินโปร เอ็นจิเนียร์ จำกัด ต่างก็เข้ามาพัฒนาหลายโครงการอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน บริษัทเหล่านี้มีต้นทุนทางด้านที่ดินต่ำเนื่องจากเป็นที่ดินของตนเองตั้งแต่อดีตเพราะฉะนั้นจึงมีข้อได้เปรียบเหนือบริษัทอื่น ต้นทุนทางด้านที่ดินในภูเก็ตเป็นต้นทุนการลงทุนที่สูงที่สุดเนื่องจากราคาที่ดินที่ภูเก็ตนั้นแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณศูนย์กลางเมืองภูเก็ต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ