กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เขต 10 ลำปาง เตือนปีนี้สภาพอากาศจะหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน ตาก ขอให้ประชาชนระมัดระวังอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนในช่วงหมอกลงจัด พร้อมทั้งดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ
นายปรีชา ด้วงบุญมา หัวหน้ากลุ่มงานสนับสนุนทรัพยากรกู้ภัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 10 ลำปาง กล่าวว่า ฤดูหนาวของประเทศไทยในปีนี้จะมีอากาศหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา โดยพื้นที่ภาคเหนือได้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวมาตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมและคาดว่าจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมหนาวจากประเทศจีนพัดลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะๆ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ และอุณหภูมิลดลงจากเดิม 1-2 องศาเซลเซียส
ทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็น และมีหมอกในตอนเช้า บริเวณยอดดอยและยอดภูมีน้ำค้างแข็ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน ตาก ซึ่งสภาพอากาศเช่นนี้ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง จึงขอให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงหมอกลงจัด เพิ่มความระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะการขับรถผ่านหุบเขา เชิงดอย ไม่ควรขับรถเร็ว เปิดไฟหน้ารถซึ่งเป็นไฟต่ำหรือไฟตัดหมอกและเว้นระยะห่างจากคันหน้ามากกว่าปกติ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีเวลาเพียงพอในการตัดสินใจ กรณีหมอกลงจัดจนไม่สามารถมองเห็นเส้นทางข้างหน้า ควรจอดพักในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น สถานีบริการน้ำมัน ที่พักริมทาง รอจนหมอกเบาบางลงจนสามารถมองเห็นเส้นทางได้ชัดเจนขึ้นจึงขับต่อไป อีกทั้งควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ พร้อมทั้งหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรซ่อมแซมโรงเรือนให้มิดชิด เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วย สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนได้รับความเดือดร้อนจากสภาวะอากาศหนาวสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย เขต 10 ลำปาง โทรศัพท์ 0-5421-7877, 0-5421-8124
หรือสายด่วนสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง