กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--โจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์
โจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์คาด การซื้อขายโรงแรมทั่วโลกในครึ่งแรกของปี 2554 มีมูลค่า 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกของปี 2553 ถึง 117% ปัจจัยหนุนสำคัญได้แก่ สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น ภาคธุรกิจโรงแรมมีผลประกอบการดีขึ้น และธนาคารเร่งกระบวนการจัดการหนี้ให้เร็วขึ้น
แม้ทั่วโลกจะประสบวิกฤติการณ์หลายๆ เหตุการณ์ในช่วงครึ่งแรกของปี ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ ปัญหาทางการเมือง และเศรษฐกิจ แต่ปรากฏว่า ตลาดการซื้อขายโรงแรมยังคงคึกคักและมีแนวโน้มว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าที่เคยประมาณการณ์ไว้ โดยขณะนี้ โจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์คาดว่า การซื้อขายโรงแรมทั่วโลกของทั้งปีนี้ จะมีมูลค่ารวมประมาณ 3.48 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ราว 28%
เอเชียแปซิฟิก
ในเอเชียแปซิฟิก (ทวีปเอเชียกับทวีปออสเตรเลีย) การซื้อขายโรงแรมมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 53 ราว 59% โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่สิงคโปร์ ออสเตรเลีย จีนและฮ่องกง โดยเฉพาะที่สิงคโปร์มีมูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงการอั้นตัวของความต้องจากนักลงทุนที่สนใจลงทุนซื้อโรงแรมในสิงคโปร์ในช่วงก่อนหน้า
ในช่วงต้นปีนี้ โจนส์ แลง ลาซาลล์คาดไว้ว่า การซื้อขายโรงแรมในทวีปเอเชียในปีนี้ การซื้อขายโรงแรมในเอเชียจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2.75 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการคาดการณ์นี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้กิจกรรมการซื้อขายในญี่ปุ่นมีแนวโน้มปรับลดลงหลังประสบภัยพิบัติในเดือนมีนาคม แต่คาดว่า การซื้อขายในสิงคโปร์และประเทศไทยซึ่งมีแนวโน้มคึกคักในปีนี้ จะสามารถชดเชยส่วนที่ขาดหายไปได้
ส่วนในทวีปออสเตรเลีย การซื้อขายมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 478 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี และคาดว่าจะขึ้นไปถึง 1 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี สูงกว่าประมาณการณ์ก่อนหน้าที่คาดว่าจะมีมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากกิจกรรมการซื้อขายยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง
อเมริกา
การซื้อขายโรงแรมในอเมริกาในช่วงครึ่งแรกของปีมีมูลค่ารวม 7.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 187% โดยส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายโรงแรมในเมืองหน้าด่านของสหรัฐฯ อาทิ นิวยอร์ก ส่วนผู้ซื้อรายหลักยังคงเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
คาดว่าทั้งปีนี้ การซื้อขายโรงแรมในภูมิภาคอเมริกาจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มจากประมาณการณ์เดิมซึ่งอยู่ที่ 1.31 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการซื้อขายคึกคักมากกว่าที่คาดไว้
ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (Europe, Middle East and Africa: EMEA)
ภูมิภาค EMEA มีการซื้อขายโรงแรมในครึ่งแรกของปีรวมมูลค่า 4.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 53 ราว 84%
ดังที่คาดไว้ กิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมากใน EMEA เป็นผลมาจากการที่ธนาคารต่างๆ มีการเร่งรัดหนี้ อาทิ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน ธนาคารอาร์เอสบีได้เข้าควบคุมโรงแรมเครือแมริออท 42 แห่งในอังกฤษ ส่วนในเดือนเมษายน ลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป และบาร์คเลย์ได้เข้าบริหารหนี้โรงแรมในเครือเอสเซน
คาดว่าตลอดปีนี้ การซื้อขายโรงแรมใน EMEA จะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 1.51 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการณ์เดิม 2 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากคาดว่าธนาคารจะเริ่มปล่อยขายหลักทรัพย์ที่เป็นโรงแรมออกมามากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
โจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์ เป็นบริษัทในเครือของโจนส์ แลง ลาซาลล์ และเป็นบริษัทชั้นนำของโลกในธุรกิจบริการด้านการลงทุนในธุรกิจโรงแรม ดำเนินธุรกิจตัวแทนซื้อขายและที่ปรึกษาสำหรับนักลงทุนและเจ้าของกิจการโรงแรมทั่วโลก มีพนักงาน 225 คน และสำนักงาน 39 สาขาใน 20 ประเทศ ในปี 2553 โจนส์ แลง ลาซาลล์ โฮเทลส์ เป็นตัวแทนและที่ปรึกษาในการซื้อขายโรงแรมทั่วโลกคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 4,100 ล้านดอลลาร์
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
วินัย ใจทน 02 624 6540
winai.jaiton@ap.jll.com
www.joneslanglasalle.co.th