กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--ทีวีบูรพา
จะเป็นอย่างไรหากคุณต้องตื่นขึ้นมาพบกับโลกที่ไร้แสงสว่างและต้องใช้ชีวิตหลังจากนี้โดยปราศจากดวงตา? ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราทำงาน เดินทาง รับรู้ข่าวสาร พักผ่อนหย่อนใจ ทำกิจวัตรประจำวันทุกอย่างโดยมีประสาทสัมผัสทางการมองเห็นเข้ามามีบทบาทอย่างมาก ทุกคนรู้แก่ใจว่าหากขาดดวงตาไป ชีวิตที่เหลืออยู่คงดำเนินไปอย่างลำบาก ไม่คล่องแคล่วเหมือนดังเดิม... แต่ในขณะเดียวกัน บนโลกใบเดียวกันนี้ ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถดำเนินชีวิต มีการศึกษา ประกอบอาชีพ ได้ไม่ต่างจากคนทั่วๆ ไป โดยไม่พึ่งพาการมองเห็น คนกลุ่มที่ว่านี้คือ กลุ่มผู้พิการทางสายตาที่เราเรียกสั้นๆ ว่า คนตาบอด ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1% ของประชากรทั้งหมด คนกลุ่มนี้มักสร้างความทึ่ง ความประหลาดใจให้กับคนทั่วๆ ไป เวลาที่พบเห็นว่าพวกเขาสามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทำอะไรยากๆ (หรือง่ายๆ) ได้แม้ดวงตามืดบอด
แต่เราก็มักจะตั้งคำถามว่า “พวกเขาทำสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร?” แล้วปล่อยให้เป็นเพียงแค่ความอัศจรรย์ใจ โดยปราศจากการค้นหาคำตอบ...กบนอกกะลาจึงรับอาสาพาพวกเราไปทำความรู้จักกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนตาบอดให้มากขึ้น ด้วยภารกิจเกาะติดชีวิตคนตาบอด ให้จูงมือเราเดินทางเข้าสู่โลกอันมืดมิดของพวกเขา เพื่อค้นหาคำตอบ เคล็ดลับ เทคนิคในการดำเนินชีวิตของพวกเขา เริ่มจากการ ‘ค้นกระเป๋าคนตาบอด’ เพื่อดูว่าพวกพี่ๆ เขาพกพาอะไรไว้ในกระเป๋าวิเศษบ้าง ทำให้เราได้พบสิ่งประดิษฐ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาคนตาบอดที่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสเข็มแทนการเหลียวมองดูตัวเลข, เสลทและสไตลัส อุปกรณ์สำคัญที่เปรียบเสมือนดินสอของคนตาบอดให้สามารถจดบันทึกเป็นอักษรเบรลล์ได้ทุกที่ทุกเวลา และอุปกรณ์อีกอย่างที่ไขข้อข้องใจของหลายๆ คนว่า คนตาบอดหยิบเงินจับจ่ายใช้สอยได้ถูกต้องได้อย่างไร นั่นคือ เครื่องแยกธนบัตร ที่จะช่วยให้คนตาบอดหยิบแบงค์ 20 ซื้อโอเลี้ยงได้ถูกต้องแทนที่จะหยิบแบงค์ 500 และสิ่งสำคัญอีกอย่างที่คนตาบอดต้องหนีบติดตัวไปทุกที่นั่นคือ ‘ไม้เท้าขาว’ สัญลักษณ์สากลของคนตาบอดทั่วโลก ที่เปรียบเสมือนดวงตาในการนำพาสองเท้าคนตาบอดให้ก้าวเดินไปตามสถานที่ต่างๆ อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การใช้ไม้เท้าขาว การเขียน-อ่านอักษรเบรลล์ และการช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดนี้ล้วนถูกฝึกสอนมาแล้วจาก ‘โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ’ สถานที่ที่สร้างก้าวแรกทั้งพื้นฐานชีวิตและการศึกษาให้กับคนตาบอด
กบนอกกะลาจึงไม่รอช้า รีบบุกเข้าโรงเรียนที่ไร้กระดานดำแห่งนี้ เพื่อแอบดูเคล็ดลับของคุณครูในการสอนน้องๆ ที่ตามองไม่เห็น พร้อมสื่อการสอนต่างๆ มากมาย ที่ใช้ประสาทสัมผัสส่วนอื่นๆ เรียนรู้แทนดวงตา ทำให้เราได้รู้ว่าการท่อง ก.ไก่ — ฮ.นกฮูก ของน้องๆ ตาบอด ยากกว่าท่องแบบเด็กทั่วๆ ไปหลายเท่า (เพราะนอกจากต้องจำพยัญชนะให้ได้ทุกตัวแล้ว ยังต้องจำรหัสอักษรเบรลล์ของพยัญชนะแต่ละตัวอีกด้วย) เมื่อเรียนรู้ทุกวิชา ทุกระดับชั้นในโรงเรียนสอนคนตาบอดแล้ว เราจึงติดตามไปดูกิจกรรมยอดฮิตของคนตาบอดอีกอย่างก็คือ การโยนโบว์ลิ่ง! ใครจะเชื่อว่ากีฬาที่ต้องใช้ความสมดุลของร่างกาย ความแม่นยำของสายตาจะถูกพิชิตให้ ‘สไตรค์’ อย่างราบคาบด้วยฝีมือคนตาบอดสนิทและ ‘อุปกรณ์ช่วย’ เพียงอย่างเดียว นอกจากโบว์ลิ่งแล้ว กบนอกกะลาจะพาไปชม ยูโดคนตาบอด ปิงปองคนตาบอด และโกลบอล กีฬายอดฮิตสำหรับคนตาบอดที่เล่นกันได้เร้าใจ ดุเด็ดเผ็ดมันและที่สำคัญต้องปิดตาเล่นกันในความมืดตลอดทั้งเกม นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของ ‘หนังสือเสียง’ เพื่อนคู่ใจชนิดเดียวของคนตาบอดที่ทั้งให้ความรู้ ความบันเทิง ข่าวสารและจินตนาการ โดยการแบ่งปันจากเพื่อนๆ ร่วมโลกที่สละเวลามาแปลงตัวหนังสือหลายแสนล้านตัวในตำราเล่มหนา ให้กลายเป็นเสียงอันมีค่ามหาศาลสำหรับคนตาบอด ตบท้ายด้วยข้อคิดจาก อ.มณเฑียร บุญตัน นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ผู้ดำรงตำแหน่ง ‘สมาชิกวุฒิสภา’ ผู้มีดวงตามืดบอดตั้งแต่กำเนิด จะมาบอกเล่าถึงอาชีพพี่ๆ คนตาบอด และศักยภาพที่หลายคนไม่เคยคาดคิด โลกอันมืดมิดของพวกเขานั้นกว้างใหญ่สักเพียงใด อุปกรณ์วิเศษอะไรบ้างรอบๆ ตัวเราที่คอยนำทางให้พวกเขาดำเนินชีวิตในสังคมเดียวกันได้ การให้ ‘คนตาบอด’ นำทาง ‘คนตาดี’ ในครั้งนี้ จะช่วยให้เรา ‘มองเห็น’ อะไรบ้าง
ร่วมเดินทางไปในโลกอันมืดมิดที่แสนสว่างสดใสของคนตาบอด ไปกับกบนอกกะลา ตอน ‘เข็มทิศในโลกมืด’ ศุกร์ที่ 29 ก.ค. และ 5 ส.ค. 2554 นี้ 20.40 น. โมเดิร์นไนน์ทีวี