ความคิดเห็นบางส่วนจาก มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวยานยนต์ Thursday July 28, 2011 10:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--เวเบอร์ แชนวิค เวเบอร์ แชนวิค ความคิดเห็นบางส่วนจาก มร.มาร์ติน แอพเฟลประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด งานแถลงข่าวผลประกอบการประจำครึ่งปีแรก ประเด็น : นโยบายจูงใจด้วยส่วนลด 100,000 บาทสำหรับผู้ซื้อรถคันแรก - เราไม่คิดว่านโยบายนี้จะส่งผลดีในระยะยาว แต่เป็นเพียงแรงจูงใจในระยะสั้นเพียง 3 ถึง 6 เดือนเท่านั้น เราต้องมีนโยบายที่จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวม (ทั้งซัพพลายเชน) นโยบายที่มีเสถียรภาพ ความมั่นคงและให้ประโยชน์ต่อประชาชนและเศรษฐกิจในภาพรวม - เราแนะนำนโยบาย “ยกระดับความทันสมัย” (scrappage scheme) แทนที่นโยบาย “จูงใจด้วยส่วนลด” โดยรัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการสร้างแรงจูงใจผู้บริโภคด้วยการสนับสนุนให้ผู้ครอบครองรถเก่า เปลี่ยนเป็นรถรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่า ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถกระบะ มาตรการดังกล่าวนี้ส่งผลดีในหลายประเทศ ทั้งในด้านการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการกระตุ้นยอดจำหน่ายของอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย ประเด็น : ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล - เรากำลังขยายศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ถึงแม้เราจะยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการก็ตาม ซึ่งเราคาดว่าภายในปี 2556 จะช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตจากเดิม 108,000 เครื่องยนต์เป็น 120,000 เครื่องยนต์ต่อปี นั่นหมายความว่าเรากำลังจะก้าวไปอีกขั้น และสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในยานยนต์รุ่นใหม่ที่เรากำลังจะเปิดตัวออกสู่ตลาดประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ - นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เราผลิตเครื่องยนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นโครงการที่เราขยายเพิ่มเติมก่อนเราจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ บ่งชี้ถึงอัตราเติบโตของตลาดยานยนต์ที่เป็นไปอย่างก้าวกระโดด และความมั่นใจของเราในการเดินหน้าสร้างอัตราเติบโตของบริษัทฯให้เหนือกว่าอัตราขยายตัวของอุตสาหกรรม - การลงทุนในส่วนขยายเพิ่มเติมทำให้เม็ดเงินลงทุนรวมทั้งหมดอยู่ที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (6,000 ล้านบาท) เพิ่มจากเดิมที่มีเงินลงทุน 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (3,900 ล้านบาท) ผลที่ได้ไม่เพียงแต่ศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น หากยังเพิ่มมูลค่าในซัพพลายเชน พูดอีกทางหนึ่งก็คือเราจะมีชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยมากขึ้น - เม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติม (จาก 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ไม่เพียงจะเพิ่มศักยภาพการผลิตเท่านั้น หากจะเพิ่มจำนวนชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ และลดการนำเข้าให้น้อยลง อาทิ เราจะผลิตฝาสูบในประเทศไทย แทนการนำเข้า ดังนั้น เงินลงทุนเพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มทั้งในด้านจำนวนการผลิต และยังเพิ่มมูลค่าการผลิตตลอดทั้งซัพพลายเชนอีกด้วย - นั่นทำให้เงินลงทุนทั้งหมดของศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็ม ประเทศไทย จังหวัดระยอง เพิ่มจากเดิม 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 570 ล้านเหรียญฯ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ - สำหรับการพัฒนายานยนต์รุ่นใหม่ ศูนย์การผลิตยานยนต์ และล่าสุดคือศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ประเด็น : โรงงานขึ้นรูปชิ้นส่วนยานยนต์ และโครงการพัฒนารถกระบะสายพันธุ์ใหม่ - เราเพิ่มศักยภาพการผลิตโรงงานขึ้นรูปชิ้นส่วนอีกเท่าตัว เพื่อเตรียมความพร้อมในการผลิตรถกระบะสายพันธุ์ใหม่ โดยในไตรมาสที่สองของปีนี้ โรงงานขึ้นรูปชิ้นส่วนผลิตโครงรถกระบะไปแล้วราว 3,000 ชิ้น - ในไตรมาสที่สาม เราคาดว่าจะผลิตโครงรถได้ราว 10,000 ชิ้น ขณะที่ในไตรมาสที่ 4 เราคาดว่าจะผลิต 300,000 ชิ้น ผมมีความยินดีอย่างมากในการพัฒนา และเตรียมความพร้อมในการผลิตอีกหลายชุดต่อไปในอนาคตอันใกล้ สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.gmthailand.com หรือ www.media.gm.com หรือ www.chevrolet.co.th หรือติดต่อ ศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร.+662 791 3400 อีเมล์: sasinan.allmand@gm.com หรือ ปภาดา ตวงหิรัญวิมล สถาปนา กาญจนประกร เวเบอร์ แชนวิค เวเบอร์ แชนวิค บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด โทร. +662 343 6057, +6681 621 2404 โทร. +662 343 6178, อีเมล์: paphada@webershandwick.com อีเมล์: satapana@webershandwick.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ