กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
ชื่อ — นามสกุล มาริโอ้ เมาเร่อ
ชื่อเล่น โอ้
ฉายาที่เพื่อนๆ เรียก ไอ้แว่น
อายุ 18 ปี
วันเกิด 4 ธันวาคม 2531
การศึกษา คณะมนุษยศาสตร์ สื่อสารมวลชน ม. รามคำแหง
อธิบายความเป็นตัวเอง ชอบเล่นสเก็ต
งานอดิเรก เล่นสเก็ต
ความสามารถพิเศษ ร้องแร็พ
กิจกรรมที่ทำเวลามาสยาม เดินเล่นกับเพื่อน
มุมมองความรัก ความรักคือการเสียสละ การเข้าใจผู้อื่นมากๆ
เพลงรักที่ชอบ Dear Mama (2 pac)
ผลงาน โฆษณา “Exit Rollon” , “Pizza Company“ , “มันฝรั่ง Jax“ , “กูลิโกะ โคลอน“ , “ทรอสโฟม“ , “ซูกัส“ , “นมโฟโมสต์“
MV “กุญแจที่หายไป” (ปาล์มมี่), “ปากดีขี้เหงาเอาแต่ใจ” (มิล่า) ฯลฯ
Q: เป็นไงมาไงถึงได้มาแสดงหนังเรื่องนี้?
ปกติก็จะถ่ายแบบ ยังไม่เคยแสดงหนังมาก่อน ทีนี่ก็มีคนติดต่อเข้ามา ส่งบทมาให้ดู ก็สนใจ ผมก็เลยลองไปแคสดู ซึ่งก็แคสอยู่หลายรอบเหมือนกัน
Q: ตื่นเต้นไหมกับการแสดงครั้งแรก?
โห หนังเรื่องแรก ก็ตื่นเต้นมากๆ ครับ พอดีไม่เคยเล่นหนังอะไรมาก่อน ผ่านแต่งาน MV ผ่านแต่โฆษณา ผ่านแต่ถ่ายหนังสือแฟชั่น ยิ่งได้มาเล่นกับพี่นก สินจัย พี่กบ ทรงสิทธิ์ แล้วก็พี่พลอย เฌอมาลย์ด้วย ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เพราะทุกคนก็ระดับมืออาชีพกันทั้งนั้น และก็ยังได้เล่นกับเพื่อนๆ นักแสดงอีกหลายคนอีกด้วย ก็สนุกดี ตื่นเต้นดีครับ อีกอย่างเรื่องนี้เราก็ต้องสื่ออารมณ์เยอะ มีฉากเยอะ ก็ต้องทำการบ้านมาดีๆ
Q: ถ้าเทียบกับผลงานที่เคยผ่านมาละ ชอบอะไรมากกว่ากัน ?
มันก็คนละแบบเลยครับ เวลาโอ้ไปถ่ายพวก MV เราก็เข้าไปถ่ายเลย ไม่ต้องอ่านบทอะไรมาก พี่เค้าก็จะบรี๊ฟเรา เราก็เข้าไปเล่น แต่หนังเนี่ยะ จะต้องมีบทก็ต้องอ่านบท ต้องทำความเข้าใจตัวละครหลายๆ ตัวว่าเป็นมายังไง ซึ่งหนังจะยากกว่า แต่ว่าพอเล่นเสร็จแล้วความภูมิใจผมยกให้หนังมากกว่าเพราะว่าแบบหนังมันหนักจริง ๆ ครับ ต้องให้แม่ตื่นเช้า คอยมาปลุกผม ดึงผมออกจากเตียง ตี 4 ไปถ่าย บางทีถ่ายข้ามวัน บางทีก็สองวันติด
Q: แล้วมีการเตรียมตัวมากน้อยแค่ไหนกับการแสดง?
ก่อนหน้านั้นก็เคยเรียนแอ๊คติ้งมาบ้างครับ ที่สมาคมผู้กำกับ แล้วพอจะได้มาเล่นก็ต้องไปเวิร์คชอป กับพี่นก กับพี่กบ พี่พลอย ลองเล่นกับพีช เล่นกับทุกคนครับ แรกๆ ก็ตื่นเต้นครับ รู้ว่าจะได้เจอพี่นกก็ตื่นเต้น ตอนเล่นได้บทมาก็ยังเล่นไม่ถูก เกร็งๆ เพราะพี่เค้าเป็นรุ่นใหญ่ ผมก็เพิ่งเข้ามาก็พยายามเรียนรู้ให้ได้มากที่สุดครับ
Q: มีฝึกกับตัวเองด้วยไหม?
ก็มีเอาบทมานั่งท่อง คือทุกครั้งก่อนที่โอ้จะไปเล่น เขาก็จะให้บทโอ้มา โอ้ก็นั่งมาร์คไว้ว่าพรุ่งนี้ต้องเล่นอะไรบ้าง ก็ต้องมาซ้อมดู ก็อ่านจบหลับไป ตื่นเช้าไปถึงหน้ากองก็ยังอ่านอยู่ครับ
Q: เรื่องนี้รับบทเป็นอะไร?
เล่นเป็นโต้ง ครับ คาร์แรกเตอร์ของโต้งก็เป็นเด็กวัยรุ่นทั่วไป อยู่ชั้น ม. 6 กำลังจะเข้ามหาลัย ก็ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนฝูง เรียนหนังสือ เรียนพิเศษ แล้วก็ในเรื่องโต้งก็มีแฟนชื่อโดนัทครับ โดนัทก็เป็นผู้หญิงที่สวย แต่โต้งก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก โต้งก็ยังสับสนอยู่ ไม่รู้จะเลือกทางเดินไหนให้กับชีวิต ในส่วนของครอบครัว โต้งก็มีเหตุการณ์ที่มีปมอยู่นิดหนึ่ง เพราะโต้งมีพี่สาวอยู่คนหนึ่งชื่อแตง แล้วก็วันหนึ่งพี่สาวเค้าก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วก็หายตัวไปครับ
Q: รักแห่งสยามเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร?
หนังเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักของคนหลายๆ กลุ่มครับ ซึ่ง คือมันเริ่มมาจากครอบครัวโต้ง ซึ่งเดิมครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่มีความสุขครับ วันหนึ่งพี่สาวโต้งก็หายไป ชื่อพี่แตง แล้วก็ทำให้พ่อเสียใจพ่อก็ป่วย กลายเป็นคนติดเหล้า วันหนึ่งโต้งก็ไปเจอกับมิว มิวก็เป็นเพื่อนสนิทของโต้งตั้งแต่เด็ก แล้วก็ได้มาเจอกันอีกครั้งที่สยาม มิวก็พาโต้งไปรู้จักกับพี่จูนซึ่งเป็นผู้จัดการวงของมิว แล้วพี่จูนก็บังเอิญหน้าเหมือนกับพี่สาวของโต้งที่หายไป ก็เลยมีแผนว่าจะพาพี่จูนปลอมเป็นพี่แตงเข้าไปที่บ้าน เพื่อทำให้พี่อของโต้งดีขึ้น ในขณะนั้นอีกด้านหนึ่งของชีวิตโต้งก็มีแฟนชื่อโดนัท ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มลดน้อยลง ไม่ค่อยได้เจอกัน ห่างๆ กัน โต้งก็เหมือนยังสับสนอยู่ไม่รู้จะเลือกทางเดินยังไงให้ชีวิต
Q: โต้งถือว่าเป็นตัวแทนความรักแบบไหน?
โต้งเป็นตัวแทนความรักประเภทของวัยรุ่นครับ ความรักของโต้งก็นำพาไปถึงตัวละครตัวอื่นๆ ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน พี่สาว และก็แฟนด้วย ก็เหมือนเป็นความรักที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นครับ และก็เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับคนดู
Q: เคยมีความรักหรือความทรงจำดีๆ ที่เกิดขึ้นที่สยามบ้างไหม?
ความทรงจำดีๆ ของโอ้ที่สยาม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของพี่ชาย เพราะบางทีโอ้ก็ต้องไปๆ มาๆ ต่างจังหวัด ไปหาพ่อ ไม่ค่อยได้อยู่กับพี่ แต่พอมีเวลามาอยู่ที่กรุงเทพก็จะได้มาใช้เวลาร่วมกันกับพี่ ก็มีไปเดินเล่นสยาม ซื้อเสื้อผ้ากัน ก็เป็นความรักแบบพี่น้อง
Q: เรื่องนี้ส่วนใหญ่ต้องไปถ่ายทำที่สยามแสควร์ เป็นยังไงบ้าง?
ไปถ่ายที่สยามหลายฉากเหมือนกัน ก็สนุกดีครับ แต่ก็ค่อนข้างวุ่นวาย คนเยอะ อย่างฉากที่เซ็นเตอร์พอยต์ที่โต้งจะต้องไปบอกเลิกโดนัท ตอนนั้นช่วงเย็นๆ หัวค่ำ ประมาณทุ่มหนึ่ง คนก็เพียบเลย ตื่นเต้นมาก เสียงก็ค่อนข้างดัง วุ่นวายไปหมดเลยครับ เพราะตรงนั้นก็จะมีจอใหญ่ๆ ตรงเซ็นเตอร์พอยต์ เขาก็เปิดเอ็มวีอยู่ด้วย ก็ต้องพยายามทำสมาธิดีๆ
Q: ต้องแสดงกับนักแสดงรุ่นใหญ่หลายคน รู้สึกยังไงบ้าง?
ตื่นเต้นมากครับ มีฉากที่ต้องปะทะอารมณ์กับพี่นกด้วย มีซีนที่โต้งจะไปหาเพื่อน แล้วแม่มาห้ามไม่ให้ไป ก็เลยต้องมีปากเสียงกันพี่นกก็ช่วยสอนโอ้ บอกว่าใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำสมาธิครับ เวลาเล่นก็ใช่สมาธิให้เยอะๆ ตอนแรกๆ ก็เกร็งครับ แต่พอเข้าฉากด้วยกันเยอะๆ ความเกร็งก็ค่อยๆลดน้อยลง แล้วพี่นกเค้าก็เป็นกันเองมาก เค้าก็เหมือนแม่คนหนึ่งครับ ช่วยสอนโอ้ครับ
Q: มีเทคนิคอะไรในการแสดงซีนที่เป็นอารมณ์มากๆ?
ก็ต้องแบบพยายามคิดอะครับ เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ อย่างแสดงกับพี่นก โอ้ก็พยายามคิดว่าพี่นกเป็นแม่โอ้จริงๆ ซึ่งโอ้จะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นี่เป็นเทคนิคที่ให้ธรรมชาติที่สุดครับ
Q: แล้วมีฉากอื่นๆ ที่ประทับใจไหม?
ฉากที่ประทับใจก็มีฉากที่ต้องไปที่คอนโดของเพื่อนครับ แล้วโอ้ก็ต้องเข้าฉากกับตาล ซึ่งเล่นเป็นหญิง แล้วต้องทะเลาะกันแรง ซีนนี้ยาก ต้องทำอารมณ์มากๆ เลย เพราะฉากนั้นโอ้ต้องร้องไห้ด้วยครับ กว่าจะเสร็จก็นานครับ เล่นเอาปวดหัวไปเลย ไม่คิดว่าเราจะบีบน้ำตาออกมาได้ ไม่คิดว่าเราจะพัฒนามาถึงอย่างงี้ เป็นซีนที่ยากที่สุดแล้ว
Q: อยากให้พูดถึงนักแสดงที่ทำงานร่วมกันในเรื่อง?
ในเรื่องก็จะมีพิช เล่นเป็นมิว การทำงานกับพิชก็สนุกครับ ก็ พิชเป็นคนนิสัยดีคนหนึ่ง เวลาเข้าฉากกันก็โอเคครับ รับส่งอารมณ์กับพิชก็ไม่มีปัญหาอะไร ยังใหม่ทั้งคู่ พี่มะเดี่ยวก็ต้องมาช่วยกันสอนผมกับพิช แต่เราก็มีมาซ้อมๆกัน ก่อนที่จะเข้าฉากโอ้กับพิชก็มาลองต่อบทกัน ตอนไปเข้าฉากจริงๆ จะได้ไม่หลายเทคมาก
ส่วนตาล ตาลก็เป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ดี คุยได้ ว่างๆ ก็มานั่งต่อบทกัน ทำให้ตอนเล่นจริงๆ ไม่ค่อยมีปัญหา
ส่วนพี่พลอย ก็เป็นคนนิสัยดีคนหนึ่งครับ พี่พลอยก็จะคอยแนะนำโอ้ ก็สอนทริคเล็กๆ น้อยๆ ให้ ตอนแรกๆ โอ้ก็เกร็งอยู่ครับ พี่พลอยเค้าเป็นรุ่นใหญ่ขนาดไหนแล้วโอก็แบบว่าเกร็งครับ แล้วพี่พลอยเค้าพังกำแพงตรงนั้นครับ ไม่ต้องมาเกร็งอะไรกับพี่เค้าครับ พี่เค้าก็แบบคุยดีกับโอ้ไรเงี่ยครับ
ส่วนพี่นก โอ้ก็ค่อนข้างประทับใจพี่นกอยู่แล้ว ซึ่งพี่นกก็สอนอะไรโอ้หลายๆ อย่างมากครับ สอนทริกเรื่องการแสดง สอนเรื่องมุมกล้อง เค้าก็เหมือนแม่โอ้คนหนึ่งครับ เวลาตอนถ่ายเค้าก็ชอบเอาขนมเอาอะไรมาฝากให้กินด้วย
สุดท้ายพี่กบ พี่กบก็เป็นกันเองมากๆ ครับ เค้าเห็นโอ้เป็นเหมือนหลานคนหนึ่งครับ จริงๆ เขาก็อายุมากแล้ว โอ้ก็จะไม่ค่อยกล้าเรียกเค้าพี่ ตอนแรกโอ้ก็เรียกว่าน้า เรียกว่าอากบ เค้าก็บอก เอ้ย ! จะมาเรียกอาทำไม เค้าบอกเรียกพี่ก็พอ ก็เป็นกันเองมาก การทำงานก็ไม่รู้สึกเกร็งเลยก็รู้สึกเหมือนแกเป็นพ่อเหมือนในเรื่อง
Q: ในเรื่องนี้มีอะไรหนักใจที่สุด?
หนักใจที่สุด เป็นอุปสรรคที่สุด ก็คงเป็นเรื่องการนอน เพราะปกติโอ้เป็นคนขี้เซา นอนตื่นสายครับ พอมีหนังเรื่องนี้มาก็ทำให้โอ้เป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากขึ้นเยอะ ต้องตื่นเช้ามากๆ ไปตรงเวลาเพราะมีคนรอเราอีกตั้งกี่ชีวิต แม่ก็ต้องลากผมลงจากเตียงให้ไปทำงานตี 4
Q: มีอะไรที่ประทับใจที่สุด?
ผมประทับใจทุกคนเลยครับ ทุกคนที่สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ทีมงาน นักแสดง พี่มะดี่ยว ทุกคนเลยครับ ทำให้โอ้เห็นอะไรอีกหลายอย่างครับ ถ้ามีโอกาสก็อยากทำงานตรงนี้ครับ อยากทำงานการแสดงอย่างงี้ไปเรื่อยๆ ครับ อยากพัฒนาตัวเราเองครับ
Q: คิดว่าหนังเรื่องรักแห่งสยามมีเสน่ห์ตรงไหน และจะให้อะไรกับคนดู?
ผมว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังไทยที่ดีอีกเรื่องหนึ่งเลยครับ เพราะให้เราเห็นความรักในหลายๆ รูปแบบ ทั้งของเพื่อน ของแม่ ของครอบครัว ของคนหลายๆ กลุ่มเลยครับ เชื่อว่าคนดูจะ ได้ความอิ่มเอมใจกลับบ้านแน่นอน ยังไงก็ขอฝากผลงานเรื่องรักแห่งสยามของผมครับ เป็นหนังเรื่องแรกของโอ้จริงๆ อยากให้ทุกคนช่วยไปดูด้วยครับ