กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--ควอลิตี้ เฮ้าส์
ควอลิตี้ เฮ้าส์ โชว์รายได้ไตรมาส 3 เติบโต 27% พร้อมกำไรพุ่ง 182% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน พร้อมลั่นแผนปี 2551 เตรียมกวาดกำไรขั้นต้น 30% พร้อมผุดโครงการใหม่อีก 11 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท
นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปีนี้ ในธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้จากโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ของควอลิตี้ เฮ้าส์ คือ พฤกษ์ภิรมย์ Regent ราชพฤกษ์-สาทรและ ลัดดารมย์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า ที่มีระดับมาร์จิ้นสูง ประมาณ 30 % ประกอบกับยอดขายบ้านจากโครงการคาซ่าวิลล์และโครงการคาซ่า ซิตี้ ที่เพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นบ้านระดับกลางและบริษัทสามารถทำกำไรขั้นต้นจากบ้านระดับกลางได้สูงขึ้น ทั้งนี้เพราะความต้องการบ้านของผู้บริโภคในระดับกลางยังคงมีอยู่สูง รวมทั้งโครงการบ้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี
โดยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้ทั้งสิ้น 2,555 ล้านบาท เติบโตกว่า 27 % จากไตรมาสเดียวกันในปี 2549 ที่มีรายได้ 2,010 ล้านบาท ทั้งนี้แบ่งเป็นรายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดิน 2,190 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานและอาคารชุดพักอาศัยและค่าบริการ 281 ล้านบาท และรายได้จากส่วนอื่นๆอีก 84 ล้านบาท ทั้งนี้ในไตรมาส 3 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 182% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท ส่วนรายได้ทั้งปีของปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่มีรายได้ 11,115.27 ล้านบาท โดยในส่วนรายได้จากการขายบ้านคาดว่าจะขยายตัว 15% ส่วนอัตรากำไรเชื่อว่าจะมีแนวโน้มที่ดีกว่าปีที่แล้ว ที่มีกำไรอยู่ที่ 1,007.81 ล้านบาท
ด้านแผนการดำเนินงานใน ปี 2551 บริษัทฯจะพัฒนาโครงการในรูปแบบบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ทั้งนี้คาดว่าในปี2551 บริษัทฯจะมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ประมาณ 30 % จากแผนการพัฒนาโครงการที่มีอัตรากำไรที่ดีกว่าในปีก่อน โดยบริษัทฯจะเปิดตัวโครงการใหม่อีก 11 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 2.0 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ลัดดารมย์ จำนวน 4 โครงการ โครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์“คาซ่า วิลล์” จำนวน 5 โครงการ และโครงการทาวน์โฮม ภายใต้แบรนด์ “คาซ่า ซิตี้” จำนวน 2 โครงการ และคาดว่าจะมีรายได้จากการขายบ้านเพิ่มขึ้น 20 % จากปีนี้
ในส่วนโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการ คือ“Q. House Condo Sathorn” มูลค่าประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้จะเริ่มก่อสร้างในปีนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2551และ “Casa Condo Ratchada-Thapra” มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องขออนุมัติการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2551 นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้เตรียมงบประมาณในการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯได้ออกและจำหน่ายหุ้นกู้ จำนวน 3,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.90 ระยะเวลา 3 ปี ในเดือนพฤศจิกายน โดยเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้จะนำไปชำระคืนเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งจะทำให้บริษัทฯสามารถลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลงได้
สำหรับการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 3,000-3,500 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปีหน้าเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯมีความคล่องตัวในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น