กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--ปตท.สผ.
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ทบทวนงบการลงทุนปี 2550 สามารถลดค่าใช้จ่ายลงทันที 10% เดือนธันวาคมนี้พร้อมติดตั้งแท่นผลิตกลางโครงการอาทิตย์เพื่อส่งก๊าซฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 คาดปีหน้าอัตราการขายรวมสูงขี้นถึง 241,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
ปตท.สผ. ปรับงบการลงทุนปี 2550 ลดค่าใช้จ่ายทันที 10%
ปตท.สผ. ได้ทบทวนงบการลงทุนของปี 2550 และงบการลงทุน 5 ปี (2550 - 2554) ใหม่ในเดือนกันยายน 2550 จากซึ่งได้ประมาณการไว้เมื่อต้นปี 2550 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น จากเดิม 38 บาท เป็น 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ประกอบกับ ปตท.สผ.ได้พยายามลดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ลงอีก ทำให้งบการลงทุนของ ปตท.สผ. ในปี 2550 ลดลงทันที 10% จากเดิม 74,512 ล้านบาท คงเหลือ 66,730 บาท
สำหรับแผนการลงทุน 5 ปี ลดลงประมาณ 4,000 ล้านบาท จากเดิมที่ได้ประมาณการไว้ 285,000 ล้านบาท คงเหลือ 281,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุน 5 ปีดังกล่าว ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแปลง M9 ในสหภาพพม่า และแปลง 433a & 416b ในประเทศ อัลจีเรีย ซึ่งในแปลง M9 นั้น ปตท.สผ.ได้เตรียมวางแผนการพัฒนาโครงการแล้ว โดยจะใช้เงินลงทุนขั้นต่ำประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปตท.สผ.เสร็จสิ้นการก่อสร้างแท่นผลิตหลักโครงการอาทิตย์ พร้อมเคลื่อนย้ายและติดตั้งในเดือนธันวาคมนี้
ปตท.สผ. อยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาโครงการอาทิตย์ ให้สามารถเริ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติ มาใช้ประโยชน์และรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 โดยขณะนี้ แท่นผลิตกลาง (Arthit Processing Platform: APP) ซึ่งเป็นแท่นผลิตที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือประมาณ 16,800 ตัน ก่อสร้างอยู่ที่เมืองบาตัม ในประเทศอินโดนีเซียเสร็จสมบรูณ์แล้ว โดยปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมนี้ ปตท.สผ. จะเริ่มเคลื่อนย้ายแท่นผลิตกลางดังกล่าวมาติดตั้งในอ่าวไทย ซึ่งขั้นตอนการเคลื่อนย้ายและการติดตั้งแท่นผลิตขนาดใหญ่ครั้งนี้ กล่าวได้ว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญและเป็นประวัติศาสตร์ในอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของไทย
ปตท.สผ.ได้ใช้งบการลงทุนในการพัฒนาโครงการอาทิตย์ระยะที่ 1 ไปแล้วประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการก่อสร้างและติดตั้งแท่นหลุมผลิต (wellhead platform) 6 แท่น ท่อก๊าซฯ 5 เส้น ท่อคอนเดนเสท 1 เส้น แท่นผลิตกลาง 1 แท่น แท่นที่พักอาศัย 1 แท่น Flare Tripod 1 แท่น และหลุมผลิต 90 หลุม เพื่อที่จะเริ่มการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ด้วยอัตราการผลิตในระยะแรก 330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน การผลิตก๊าซฯและคอนเดนเสทจากโครงการอาทิตย์ เป็นปัจจัยหลักซึ่งจะทำให้อัตราการขายของ ปตท.สผ. ในปี 2551 เพิ่มขึ้นเป็น 241,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
ปตท.สผ. เพิ่มฐานการลงทุนในตะวันออกกลาง ได้รับสิทธิสำรวจปิโตรเลียมในบาห์เรน
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้รับการคัดเลือกจาก The National Oil and Gas Authority (NOGA) ของประเทศบาห์เรน ให้เป็นผู้ชนะการประมูลสิทธิในการสำรวจปิโตรเลียม แปลงสำรวจหมายเลข 2 ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งทะเลทางทิศเหนือของประเทศบาห์เรน นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายความร่วมมือและฐานการลงทุนของ ปตท.สผ. ในประเทศบาห์เรนและในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางปิโตรเลียมสูง ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศบาห์เรนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านพลังงาน เนื่องจากไทยและบาห์เรนมีความสัมพันธ์ที่ดีมายาวนาน
ในปี 2548 ปตท.สผ. ได้ลงนามในข้อตกลงการศึกษาทางเทคนิค (Technical Evaluation Agreement) กับ Bahrain Petroleum Company หรือ BAPCO ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของประเทศบาห์เรน เพื่อร่วมศึกษาการประเมินศักยภาพปิโตรเลียมทางเทคนิคในแปลงสำรวจนอกชายฝั่งทะเล โดยอาศัยการประเมินผลข้อมูลการสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจากผลการศึกษาดังกล่าว ทำให้ ปตท.สผ. มีความมั่นใจในการเข้าร่วมประมูลสิทธิสำรวจปิโตรเลียมในประเทศบาห์เรน จนได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้
แปลงสำรวจหมายเลข 2 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 2,228 ตารางกิโลเมตร จากการศึกษาศักยภาพปิโตรเลียมเบื้องต้น คาดว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีน้ำมันดิบ ซึ่ง ปตท.สผ. จะเป็นผู้ดำเนินการและถือสัดส่วนทั้งหมดในพื้นที่ดังกล่าว และจะดำเนินการสำรวจทันทีเมื่อมีการลงนามในสัญญาแบ่งปันผลประโยชน์ (Exploration and Production Sharing Agreement — EPSA) กับ NOGA แล้ว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สิทธิไชย ไชยันต์ โทร. 02 537 4592 E-mail: sidhichaij@pttep.com
ต้องจิตร พงศ์อรพินท์ โทร. 02 537 4587 E-mail: tongchitp@pttep.com
โทรสาร 02 537 4982