กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--สปินเลอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
นายศัลยา สุคนธทรัพย์ผู้จัดการฝ่ายราคาการตลาดขายปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทยจำกัด เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบโลกยังอยู่ในระดับสูง โดยอยู่ที่ระดับ 94.48 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล สาเหตุมาจากความกังวลเกี่ยวกับฤดูหนาวที่มาถึงเร็วขึ้น และปริมาณการสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง รวมทั้ง สถานการณ์นิวเคลียร์ในประเทศอิหร่านยังคงตึงเครียด และการเก็งกำไรของกองทุนเฮดจฟันด์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยหลักที่ดันให้ราคาน้ำมันดิบ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไป แม้ว่าซาอุดิอาระเบีย จะมีการารือกับประเทศสมาชิกโอเปค เพื่อผลักดันให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นอีกวันละ 500,000 บาร์เรลก็ตาม ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูป 95 ปิดอยู่ที่ 100.15 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูปอยู่ที่ 106.82 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
แม้ว่ากระทรวงพลังงานปรับลดการนำเข้าเงินกองทุนน้ำมันดีเซลอีก 20 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งช่วยลดค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลอยู่ที่ -0.34 บาท ให้เหลือเพียง -0.14 บาทแต่เมื่อรวมกับ ค่าบริหารการจัดการอีก 1.50 บาทแล้วทำให้บริษัทยังขาดทุนถึง 1.64 บาทต่อลิตร
นอกจากนี้ บริษัทฯ ประสบกับภาวะขาดทุนต่อเนื่องรวมทุกผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ต้นเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าถึง 300 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะ ต้องปรับ ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิด ยกเว้นเบนซิน 95 ขึ้นอีก 30 สตางค์/ลิตร โดยการปรับเพิ่มราคา ในครั้งนี้จะมีผลตั้งแต่ วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
โดยราคาน้ำมันหน้าสถานีบริการน้ำมันเชลล์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจะมีการปรับเปลี่ยนดังนี้
เบนซิน 91 เชลล์ ชัวร์ 31.19 บาทต่อลิตร
เชลล์ แก๊สโซฮอล์ 95 28.49 บาทต่อลิตร
เชลล์ แก๊สโซฮอล์ 91 27.69 บาทต่อลิตร
เชลล์ ดีเซล 28.94 บาทต่อลิตร
เชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล 30.44 บาทต่อลิตร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ:
บริษัท สปินเลอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด
เพียรผจง ทัพวนานต์, ณัฐธิรา อินต๊ะอุด
โทร. 0-2241-1616, 0-2241-0088