กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--เอไอเอส
เอไอเอส - สวพ.FM 91 ร่วมพัฒนาบริการรับแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย การจราจรและความปลอดภัย เพื่อเป็นสื่อกลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้บริการเอไอเอสและสังคม ผ่านโทร 1644
เอไอเอส ร่วมมือกับ สวพ.FM 91 ผนึกกำลังขยายเครือข่ายในการช่วยเหลือสังคม โดยขยายหมายเลขโทรฟรี 1644 ขณะเดียวกันจัดอบรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของ AIS Call Center 1175 ในการดูแลลูกค้าที่โทร.แจ้งเหตุด่วน เหตุร้ายและสอบถามเส้นทางจราจร พร้อมเปิดรับอาสาสมัครจากพนักงาน 7,000 คนทั่วประเทศ ในการเป็นหู เป็นตา แจ้งเหตุ ข้อมูลข่าวสารและความปลอดภัย
นายวิเชียร เมฆตระการ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอส ได้ร่วมมือกับ สวพ. FM 91 เพื่อเป็นสื่อกลางในการขยายขอบข่ายการให้ความช่วยเหลือสังคมในวงกว้าง โดยเอไอเอสได้สนับสนุนการขยายหมายเลขโทรฟรี 1644 ควบคู่ไปกับการเพิ่มพนักงานประจำศูนย์รวมข่าว พร้อมจัดอบรมพนักงาน AIS Call Center 1175 เพื่อเป็นศูนย์กลางเบื้องต้นในการให้ความช่วยเหลือและดูแลลูกค้าเอไอเอสที่โทร.ขอความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย และสอบถามเส้นทางจราจร เพื่อประสานงานไปยังสวพ. FM 91 ต่อไป
ขณะเดียวกัน ได้เปิดกว้างให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอส จำนวน 23 ล้านคน และทุกเครือข่ายร่วมเป็นอาสาสมัครในการดูแลสังคมและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยผ่านเลขหมายโทรฟรี 1644 รวมทั้งได้เปิดรับอาสาสมัครด้วยการเริ่มต้นจากพนักงานเอไอเอสกว่า 7,000 คนทั่วประเทศมาอบรมเรื่องการรายงานข่าว การแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย จราจรและเทคนิคการป้องกัน โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสวพ.FM 91 มาเป็นวิทยากร
“ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานในการให้บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ของ AIS Call Center 1175 วันนี้เอไอเอสจึงได้พัฒนาการให้บริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อดูแลลูกค้าในเครือข่ายของเอไอเอสให้ดีที่สุด โดยได้ร่วมมือกับสวพ. FM 91 ในการพัฒนาขีดความสามารถของพนักงาน AIS Call Center เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในการประสานขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือสอบทางเส้นทางจราจร พร้อมจัดอบรมให้ความรู้แก่พนักงานเรื่องการแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย และวิธีการป้องกันตัว เพื่อเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงให้คนในสังคม รวมถึงผู้ใช้บริการเอไอเอส จำนวน 23 ล้านคน เกิดความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและฉับไวทันต่อเหตุการณ์ ทำให้สังคมไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้น” นายวิเชียร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 17 ปีของการดำเนินธุรกิจ เอไอเอส มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้น ทั้งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา เอไอเอส ยังได้นำเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือมาสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในโครงการ “สายลับดิจิตอล” เพื่อเพิ่มช่องทางในการแจ้งเบาะแส เพียงผู้ใช้บริการเอไอเอสที่พบเห็นเหตุการณ์ถ่ายภาพและส่งข้อมูลผ่าน MMS มายังเลขหมาย 90062 ก็จะเป็นหลักฐานที่ช่วยติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป รวมทั้งได้จัดทำตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรตามจุดบริเวณแยกต่างๆ จำนวน 96 แห่งทั่วประเทศ
ด้านนางสาวไจตนย์ ศรีวังพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิไลเซ็นเตอร์ แอนด์ ซันส์ จำกัด ผู้ร่วมดำเนินงานสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ. FM 91 Traffic Pro คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัยและจราจร กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ปัจจุบันคนไทยกำลังเผชิญกับปัญหาที่หลากหลาย ทั้งด้านภาวะเศรษฐกิจ หรือความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างกะทันหัน ถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉิน ที่ต้องได้รับคำแนะนำ หรือได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และฉับไว ซึ่งตรงกับเจตนารมณ์ของทางสถานีวิทยุ สวพ.FM 91 คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัยและจราจร ที่มุ่งมั่นทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งเป็นสื่อกลางประสานความเข้าใจระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ไปยังภาคประชาชน เพื่อเป็นสังคมปลอดภัย สงบสุข และมีน้ำใจ คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยผ่านหมายเลข 1644 “โทรฟรี” มานานกว่า 14 ปี การที่ได้มาร่วมเป็นพันธมิตรกับ เอไอเอส ถือว่าเป็นการขยายขอบข่ายการให้ความช่วยเหลือ ดูแลความปลอดภัยในสังคมให้กว้างมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ระหว่าง 2 หน่วยงาน โดยผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิดการประสานงานที่ฉับไว พร้อมให้บริการประชาชนอย่างแท้จริง”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
แผนกสื่อมวลชนสัมพันธ์ โทร. 0 2687 4128-30