กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
- สุดสัปดาห์เจรจาสหรัฐเหลวแต่เช้านี้เริ่มมีความชัดเจน
- SPDR ถือทองเพิ่มขึ้น 0.61 ตัน
- คาดราคาปรับฐานหากเพิ่มเพดานหนี้ทันกำหนด
แนวโน้มราคาโลหะมีค่า
ราคาทองคำและโลหะเงินดีดตัวขึ้นสู่แนวต้านในการซื้อขายช่วงค่ำวันศุกร์หลังมีรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐซึ่งมีสัญญาณชะลอตัว ส่วนกฎหมายเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ของทั้งจากพรรคเดโมเเครตและรีพับลิกันซึ่งมีการเสนอเข้าสู่สภาทั้ง 2 ฉบับในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะประกาศใช้ได้จึงต้องนำกลับไปปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเช้าวันนี้มีรายงานข่าวว่าสมาชิกทั้ง 2 ฝ่าย สามารถตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายการเพิ่มเพดานหนี้ได้เป็นบางส่วนแล้ว และจะมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมของสภาต่อไป และจากประเด็นดังกล่าวมีผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงแรง เช่นเดียวกับราคาทองที่ปรับฐานลงจากแนวต้านบริเวณ 1,630 ดอลลาร์ ลงทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,608 ดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ สวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นแรงในช่วงเช้าวันนี้ ดังนั้นหากมีความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายฉบับดังกล่าวคาดว่าจะยังมีแรงขายกลับออกมาในตลาดทองจนทำให้ราคาปรับฐานลง โดยมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,595 และ 1,580 ดอลลาร์ สำหรับราคาทองคำ และ 39 และ 38.50 ดอลลาร์สำหรับราคาของโลหะเงิน ส่วนประเด็นอื่นๆที่อาจมีผลต่อราคาโลหะทั้ง 2 ในสัปดาห์นี้ นอกจากเรื่องของกฎหมายการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐแล้ว รายงานจำนวนผู้มีงานทำของสหรัฐในเดือนกรกฎาคม ซึ่งตลาดประเมินว่าจะมีจำนวนการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น หากตัวเลขออกมาดีกว่าที่คาดอาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาทองและโลหะเงินปรับฐานลง อย่างไรก็ตามในช่วงต้นสัปดาห์กฎหมายเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐที่กำลังจะถึงกำหนดวันที่ 2 สิงหาคม
โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54
Close chg. Support Resistance
22900 +20 22750,22600 22950,23000
ความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐยังเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของตลาด และอาจทำให้ราคาทองปรับฐานลงต่อ แนวรับระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 1,600-1,605 ดอลลาร์ หากลงไปต่ำกว่าบริเวณดังกล่าวจะเป็นสัญญาณการปรับฐานในทางเทคนิค จึงยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งขายต่อไป
ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนส.ค.54
Close chg. Support Resistance
1194 -20 1180,1,150 1200, 1210
ราคาปรับฐานลงหลังราคาดีดตัวขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือแนวต้านบริเวณ 40.20 ดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มปรับฐานลงต่อโดยมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 39.30 ดอลลาร์ และหากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ คาดว่าจะมีแรงขายออกมามากขึ้นและราคาก็จะปรับฐานลงต่อ จึงยังสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งขายต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา