กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--กระทรวงพลังงาน
กระทรวงพลังงาน ปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซล และไบโอดีเซล (บี5) ลงอีก 20 สตางค์ต่อลิตร เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่กำลังประสบกับปัญหากับน้ำมันราคาแพง โดย มีผลในวันพฤหัสบดีนี้
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เพราะไม่มีปัจจัยข่าวลบเข้ามา ขณะเดียวกันตลาดน้ำมันก็รอดูทีท่าของกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปคว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันหรือไม่ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วค่าการตลาดของบริษัทผู้ค้าน้ำมันสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วยังติดลบ ซึ่งเป็นผลของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้นก่อนหน้านี้ ดังนั้น บริษัทผู้ค้าน้ำมันอาจจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอีก เพื่อเป็นการชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ รวมถึงหากต้องปรับก็ให้ปรับขึ้นในระดับต่ำ
ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงตัดสินใจที่จะประกาศปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลหมุนเร็ว และไบโอดีเซล (บี 5 ) ลงอีก 20 สตางค์ต่อลิตร
เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการในเบื้องต้น โดยจะมีผลในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า การปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินนำเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในครั้งนี้ ทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายได้สุทธิลดลง 312 ล้านบาทต่อเดือน เหลือระดับ 2,570 ล้านบาทต่อเดือน ในขณะที่ ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีฐานะกองทุนสุทธิติดลบอยู่ประมาณ 3,697 ล้านบาท ดังนั้น จะจ่ายชำระหนี้หมดภายในเดือนธันวาคม 2550 ด้านนายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ( สนพ.) กล่าวว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 87.10 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และเมื่อวานนี้ราคาน้ำมันเบนซินในตลาดโลกได้ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 100.15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากเมื่อวันก่อน 0.30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว อยู่ที่ระดับราคา 106.82 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล “การที่กระทรวงพลังงานมีกำหนดที่จะประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและไบโอดีเซล (บี5) ลง 20 สตางค์ต่อลิตร ในวันพฤหัสบดีนี้ จะช่วยบรรเทาการปรับราคาขายปลีกน้ำมันได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ บริษัทผู้ค้าน้ำมันมีค่าการตลาดเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 40 สตางค์ต่อลิตร น้ำมันเบนซิน 95 มีค่าการตลาดติดลบอยู่ที่ 20 สตางค์ต่อลิตร น้ำมันดีเซลหมุนเร็วมี ค่าการตลาดติดลบอยู่ที่ 30 สตางค์ต่อลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 มีค่าการตลาดอยู่ที่ 1.10 บาทต่อลิตร และ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 มีค่าการตลาดอยู่ที่ 1.05 บาทต่อลิตร“ นายวีระพล กล่าว