กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--เครดิตบูโร
บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ร่วมกับ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) แถลงข่าว การสร้างมาตรฐานใหม่ในการติดตามทวงถามหนี้ค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่มีการค้างชำระว่าหากมีการดำเนินการที่มีลักษณะข่มขู่ สร้างความหวาดกลัวหรือใช้เครดิตบูโรเป็นเครื่องมือในการติดตามหนี้สินอย่างผิดๆ ดังที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ กล่าวคือทั้งสองกิจการจะเป็นพันธมิตรในการสอดส่องดูแลว่า มีพนักงานหรือผู้ประกอบธุรกิจติดตามหนี้สินที่รับจ้าง เอไอเอส ในการตามหนี้นั้น ได้ใช้ข้อความไปข่มขู่ลูกหนี้ที่ค้างค่าโทรศัพท์ ดังนี้ ข้อความบริเวณหน้าซองจดหมาย มีการระบุว่า “บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า เครดิตบูโรอยู่ระหว่างการระดมความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เครดิตบูโร ซึ่งจะเพิ่มเติมให้จัดเก็บประวัติการชำระค่าระบบสาธาณูปโภค เช่นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้ และค่าโทรศัพท์ ก่อนรายชื่อเข้าแบล็คลิสต์ออนไลน์ เพื่อระงับสินเชื่อของภาครัฐและเอกชน” และข้อความบนเอกสารภายใต้หัวข้อ “ผลเสียของการถูกดำเนินคดีที่ท่านควรทราบ” คือ รายชื่อและนามสกุลของท่านติดแบล็คลิสในการทำธุรกรรม
ซึ่งทางเครดิตบูโร ได้รับการร้องเรียนและส่งเอกสารการตามหนี้มาจากผู้บริโภคที่ได้รับเอกสาร เมื่อเครดิตบูโรได้รับทราบแล้วจึงประสานงานกับเอไอเอส เพื่อสอบสวนการกระทำดังกล่าวและพบว่ามีการกระทำดังกล่าวจริง จึงมีข้อสรุปที่จะดำเนินการดังนี้
- ยกเลิกการว่าจ้างกับ บริษัทภายนอก (Outsource) ที่รับจ้างดำเนินการติดตามหนี้ผู้ใช้บริการที่ค้างชำระที่กระทำผิดและจะไม่ทำธุรกิจกับผู้รับจ้างรายดังกล่าวทั้งที่เป็นตัวบุคคล / บริษัทอีกในอนาคตไม่ว่าจะเป็นงานอื่นใด
- พิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมาย
- ร่วมกันกับเครดิตบูโรแจ้งแก่ประชาชนให้ได้รับทราบในสิ่งที่ถูกต้องว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด
- เครดิตบูโรจะส่งเรื่องให้สภาทนายความพิจารณา หากผู้ดำเนินการนั้นเป็นสมาชิกสภาทนายความ
นางวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ในฐานะโฆษกประจำบริษัทฯ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีการว่าจ้างให้บริษัทภายนอก (Outsource) ดำเนินการติดตามหนี้ผู้ใช้บริการที่ค้างชำระให้แก่บริษัทฯ โดยที่ผ่านมาได้มีบางบริษัทที่ใช้ถ้อยคำหรือข้อความที่กล่าวอ้างถึงบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ผู้ถูกติดตามทวงถามหนี้เข้าใจผิดได้ว่า การค้างชำระค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นจะถูกเป็นแบล็คลิสต์ในเครดิตบูโรด้ว ทางบริษัทฯจึงได้มีความเห็นเช่นเดียวกันกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ว่าเป็นสิ่งที่ต้องแจ้งแก่ประชาชนให้ได้รับทราบในสิ่งที่ถูกต้องว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง
“อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ดำเนินการยกเลิกการว่าจ้างบริษัท Outsource ดังกล่าวแล้ว และได้อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป นอกจากนี้บริษัทฯได้ออกจดหมายแจ้งเตือนไปยังบริษัท Outsource อื่นๆ ขอให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการกระทำอันใดก็ตามที่อาจทำให้ผู้ถูกทวงถามหนี้เข้าใจผิดในลักษณะดังกล่าวได้ ซึ่งหากบริษัท Outsource ใดไม่ปฏิบัติตาม ก็จะถูกดำเนินการยกเลิกการว่าจ้างและพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมายเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ออกจดหมายถึงผู้ใช้บริการที่ค้างชำระและถูกทวงถามหนี้จากบริษัท Outsource ดังกล่าวนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน” นางวิไล เคียงประดู่ กล่าว
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทั้งเครดิตบูโรและเอไอเอสต่างก็เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประชาชน การรักษามาตรฐานการเป็นกิจการที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่น เราจะไม่ต่อรองกับการกระทำแบบนี้ และครั้งนี้จะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนกับอุตสาหกรรมว่า ผู้นำในอุตสาหกรรมการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ยกระดับมาตรฐานการดำเนินการที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดกับบริษัท Outsource ที่ดำเนินการอย่างขาดความรับผิดชอบ ในฐานะเครดิตบูโร ผมต้องขอขอบคุณเอไอเอสและท่านผู้บริหารทุกระดับ ที่ลงมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”