SMT ยันออเดอร์ สมาร์ทโฟน Q3 โตกว่า 50 % ขณะที่ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ยอดพุ่งเกือบเท่าตัว

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday August 2, 2011 14:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--เพนเน็ตเทรท - คว้าลูกค้าใหม่ ICอีก 4 ราย เพิ่มยอดผลิตอีก 35% - รับออเดอร์ยักษ์ลูกค้า MEMS จากเยอรมัน มั่นใจรับงานยาว15 ปี สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระดับไฮเอ็นด์ที่เติบโตสูงและต่อเนื่อง ของไทย เผยออเดอร์ชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนไตรมาส 3 โตกว่า 50% พร้อมประกาศข่าวดีคว้าลูกค้าใหม่ 4 รายจากไต้หวันและญี่ปุ่น ดันกำลังการผลิตเพิ่มอีก 35% พร้อมคว้าบริษัทยักษ์ใหญ่ชิ้นส่วนรถยนต์ระดับโลกจากเยอรมัน ป้อนชิ้นส่วน MEMS Sensors ยาวกว่า 15 ปี คาดทั้งยอดขาย-กำไรเพิ่มสูงและมั่นคงต่อเนื่อง คุณพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMTหรือบมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจรที่เติบโตสูงสุดของไทยเปิดเผยว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนในไตรมาส 3 จะเติบโตกว่าไตรมาส 2 กว่า 50% เนื่องจากคำสั่งซื้อชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนกลับมาเพิ่มขึ้นอยู่ในปริมาณเท่าเดิม “บริษัทยอมรับว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นทำให้ออเดอร์สมาร์ทโฟนลดลง ซึ่งในไตรมาส 2 นั้นผลประกอบการจะลดลงจากไตรมาส 1 แต่ยังมีผลกำไรอยู่ นอกจากนี้บริษัทยังได้คว้าลูกค้าใหม่ 4 รายจากไต้หวันและญี่ปุน ดันกำลังการผลิตเพิ่มอีก 35% จาก 150 ล้านชิ้นต่อเดือน เป็น200 ล้านชิ้นต่อเดือน ในช่วงปลายปี เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และ สถานการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น” ขณะเดียวกันยอดคำสั่งซื้อสินค้าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 100% เนื่องจากลูกค้าหลักของบริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ อันดับ 1 ของโลก เข้าซื้อกิจการบริษัทคู่แข่ง และทำให้ SMT ในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักได้รับประโยชน์จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ประกอบกับในช่วงไตรมาส 3 และ 4 เป็นช่วงพีคของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก และคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 กว่า 50% นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้เซ็นสัญญาระยะยาวรับงานผลิตชิ้นส่วน MEMS IC ซึ่งมีส่วนกำไรขั้นต้นระดับสูงกับลูกค้ายักษ์ใหญ่ระดับโลกจากเยอรมันอีกด้วย “SMT มีความภูมิใจที่จะแจ้งว่าบริษัทฯได้เซ็นสัญญาลูกค้าใหญ่ระดับโลกรายใหม่ในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ โดยจะผลิตเซ็นเซอร์อัจฉริยะควบคุมเครื่องยนต์ (MEMS SENSORS for Engine Management) ให้กับบริษัทฯเยอรมันแห่งนี้ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งในตลาดโลกมากที่สุด 1 ใน 3 ของโลก ป้อนชิ้นส่วนให้บริษัทฯผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มรถยุโรป อเมริกัน และญี่ปุ่น โดย SMT ได้ร่วมมือพัฒนาชิ้นส่วนกับลูกค้ารายนี้มากว่า 3 ปี มีความสัมพันธ์ที่ดี และSMT ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลัก สำหรับโรงงานผลิตเวเฟอร์ ชิพ (Wafer Chip) ระดับโลกแห่งใหม่ของลูกค้าที่ประเทศเยอรมัน” “ชิ้นส่วนรถยนต์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญนั้น เป็นเทคโนโลยีระดับสูงสุด ที่ต้องใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสูง เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูงสุดและมีเสถียรภาพสูง ข้อดีคือสินค้ามีมูลค่าสูง อัตรากำไรที่ดี มีคู่แข่งที่ทำได้น้อยราย และที่สำคัญมีสายการผลิตยาวนานประมาณ 15-20 ปี การที่ SMT ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับลูกค้าระดับโลกรายนี้เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย จะทำให้คาดว่า SMT จะมีการเจริญเติบโตของรายได้และกำไรอย่างมั่นคงยิ่งขึ้น” นายพลศักดิ์กล่าว ลูกค้ากลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รถยนต์ เป็น 1 ในกลุ่มลูกค้าหลักของ SMT ที่ประกอบด้วยผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้ง 3 รายคือ ผู้ผลิตจากอเมริกา 1 รายและจากกลุ่มยุโรป 2 รายโดยสินค้าหลักของบริษัทคือ เซ็นเซอร์อัจฉริยะวัดระดับลมยางรถยนต์ (TPMS SENSOR) ที่บริษัทมียอดผลิตสูงติดอันดับโลก และมีส่วนแบ่งในตลาดอเมริกากว่า 50% หรือ และยังผลิต MEMS SENSOR ที่ยังมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างมากในตลาดโลก นอกจากนี้สินค้ามี กลุ่มฮาร์ดดิสค์ จะมีการเพิ่มปริมาณการผลิตอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วงไตรมาส 3 นี้เนื่องจากลูกค้าหลักของบริษัทฯได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลกและสามารถรวบรวมปริมาณการผลิตได้มากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้ SMT ในฐานะ 1 ในพันธมิตรหลัก จะได้รับปริมาณออเดอร์เพิ่มขึ้นอย่างสูง ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทฯจะเติบโตมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าทัชสกรีน กลุ่มสมาร์ทโฟน ยังมียอดการผลิตที่ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากที่ได้เพิ่มกำลังการผลิตอย่างเร่งด่วนไปแล้วในช่วงปลายปีที่แล้วและต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ปีนี้ SMT มุ่งมั่นในธุรกิจการผลิต ไอซีชิพหรือแผงวงจรไฟฟ้ารวม (IC หรือ Integrated Circuit) และได้รับจำนวนออเดอร์เพิ่มจากลูกค้าระดับโลกเป็นจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตทั้ง สายงานวงจรไฟฟ้ารวม (IC) ถึง 50% เป็น 200 ล้านชิ้นต่อเดือนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดย SMT จะใช้งบลงทุนประมาณ 450 ล้านบาทจากเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท และเงินจากเพิ่มทุน SMT หรือ สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระดับ Prime Source ของโลกที่มีเทคโนโลยีของตนเอง และมีผลประกอบการที่ดีมาตลอดสามารถเพิ่มยอดกำไรสุทธิได้อย่างต่อเนื่องกว่า 5 ปี จากผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 กลุ่มคือ 1. ชิ้นส่วนไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (MMA หรือ Microelectronics Module Assembly) และ 2. ไอซีชิพหรือแผงวงจรไฟฟ้ารวม (IC หรือ Integrated Circuit) บริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตทั้ง สายงานไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (MMA) และวงจรไฟฟ้ารวม (IC) เป็น 120,000,000 ชิ้นต่อปีและ 1,800,000,000 ชิ้นต่อปีตามลำดับ โดย SMT ซึ่ง ยังเป็นบริษัทแรกที่ได้รับผลประโยชน์พิเศษจากการเข้าตลาดหลักทรัพย์และจาก BOI ให้ยกเว้นการเรียกเก็บภาษีรายได้ตลอด 8 ปีโดยไม่มีการกำหนดเพดานผลกำไรสุทธิสะสมทำให้บริษัทฯคาดว่าจะเพิ่มปริมาณกำไรสุทธิจากโครงการนี้กว่า 500 ล้านบาทตามระยะเวลาสิทธิประโยชน์ที่เหลือ สอบถามข้อมูลประชาสัมพันธ์ : บริษัท เพนเน็ตเทรท จำกัด โทรศัพท์ 0 2681 5305-7 กรัณฑฤทธิ / ปนิษฐา / กฤาณากร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ