เคล็ดลับเปิดสมองหนูน้อยสู่โลกจินตนาการ...ด้วยนิทานดนตรี

ข่าวทั่วไป Wednesday August 3, 2011 14:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ นักวิชาการได้พิสูจน์แล้วว่า นิทานและดนตรีเป็นวิธีที่ช่วยให้เด็กๆ มีการพัฒนาด้านจินตนาการและการเรียนรู้ดังนั้นบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด โดย ดัชมิลล์พลัส แอดวานซ์ จึงได้จัดกิจกรรม “สุดยอดเทคนิคเล่านิทาน สร้างจินตนาการสู่เด็กปฐมวัย” เพื่อช่วยสร้างเสริมขั้นตอนการรับรู้สู่จินตนาการของเด็กชั้นอนุบาลจนประถมศึกษา ให้พัฒนาความคิดสู่การสร้างสรรค์จินตนาการด้วยนิทาน และดนตรี โดยมีตัวแทนคุณครูและอาจารย์สถาบันการศึกษาเข้าร่วมกว่า 100 โรงเรียน กว่า 300 ท่าน และมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาร่วมการเสวนาครั้งนี้ ในหัวข้อ “สุดยอดเทคนิคเล่านิทาน สร้างจินตนาการสู่เด็กปฐมวัย” ที่อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี เพื่อให้ตัวแทนคุณครู และอาจารย์เข้าใจถึงกระบวนการรับรู้ และความคิดของเด็กในการจะนำไปปฏิบัติเพื่อสั่งสอนให้เด็กเกิดจินตนาการด้านต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมจินตนาการของเด็กด้วยดนตรีและนิทานให้ผสมผสานกันอย่างลงตัวจนเกิดเป็นนิทานดนตรี สื่อที่จะช่วยเรื่องความคิดสร้างสรรค์ เพราะนิทานที่เล่าเป็นการดำเนินเรื่องราว และถ้ามีดนตรีประกอบจะช่วยส่งเสริมเรื่องภาษา ทักษะทางความคิดได้อย่างครบถ้วน นิทานสำหรับเด็กที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการมี 2 ประเภท คือการเล่านิทานที่ไม่มีภาพทำให้เด็กได้นึกจินตนาการไปตามเรื่องที่เล่า แต่กับนิทานที่มีภาพประกอบซึ่งส่วนใหญ่เด็กจะชอบ เพราะได้เพลิดเพลินกับรูปภาพที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้เด็กเกิดการนึกภาพตาม และผูกเรื่องจินตนาการไปเรื่อยๆ และหากมีการนำเอาเพลง หรือดนตรีเข้าร่วมในการเล่านิทานด้วยนั้น เมื่อเด็กได้ยินเสียงเพลง หรือทำนองสนุกสนานเด็กจะเคลื่อนไหวยักย้ายไปตามจินตนาการ ซึ่งผู้ปกครองหรือคุณครูอาจลองทำท่าทางเล่นบทบาทสมมุติเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ ลม ฝน สิ่งรอบตัวตามเรื่องราวในนิทานที่เล่าผ่านทางดนตรีก็ได้ ถือเป็นการเสริมสร้างการฟังดนตรีควบคู่กับการเล่านิทานเพื่อจินตนาการที่กว้างไกลของเด็กอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งภายในงานยังมีกิจกรรมเวิร์คชอปให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมสนุกอีกมากมาย อาทิ เทคนิคนิทานมือ...สื่อจินตนาการ จาก รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ และเวิร์คชอป ดนตรี...ขนมอร่อยของหนูๆ โดย ดร.แพง ชินพงศ์ และดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ นอกจากนี้ยังมีวิทยากรจากหลากหลายสาขามาร่วมให้ความรู้ อาทิ อ.ชีวัน วิสาสะ นักประพันธ์หนังสือภาพสำหรับเด็ก และอาจารย์พิเศษสาขาวรรณกรรมสำหรับเยาวชน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ดร.วรนาท รักสกุลไทย ผู้อำนวยการโรงเรียนเกษมพิทยาและกรรมการสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยฯ อ.อัจฉรา ประดิษฐ์ อาจารย์ประจำสาขาวรรณกรรมสำหรับเด็ก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร เป็นต้น อาจารย์ชีวัน วิสาสะ นักประพันธ์หนังสือภาพสำหรับเด็ก และอาจารย์พิเศษสาขาวรรณกรรมสำหรับเยาวชน คณะ มนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร กล่าวว่า “นิทานเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ดีชนิดหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กเกิดการจินตนาการตามอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเทคนิคการเล่านิทานมีหลายรูปแบบ อาทิ เล่าแบบปากเปล่า เล่าประกอบสื่อ เช่น แผ่นภาพ เล่าไปวาดตัวการ์ตูนตามเรื่องไปด้วย เล่าไปพร้อมประกอบเสียงดนตรี เช่น เสียงสัตว์ชนิดต่างๆ นิทานมือ ฯลฯ ซึ่งนิทานเรื่องเดียวเรากันสามารถเล่าได้เป็น 100 วิธี ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่จะเล่าทำให้จินตนาการของเด็กแตกต่าง เพราะไม่ว่าจะเล่านิทานด้วยเทคนิคใดก็แล้วแต่ เราต้องทำให้เด็กเข้าใจถึงแก่นเรื่องและฝึกจินตนาการตามเรื่องราวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนิทานมือเหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่ช่วง 1-5 ปี เพราะเป็นช่วงวัยที่ชอบความสนุกสนาน และเป็นช่วงที่สมองกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เป็นสื่อที่ช่วยพัฒนาเด็กให้ฝึกกล้ามเนื้อนิ้วมือ พร้อมฝึกความสัมพันธ์ในการทำงานของประสาทตาและมือให้กับเด็ก ทำให้เด็กมีส่วนร่วมในชั้นเรียน เพราะในขณะฟังเด็กใช้มือทำตามพร้อมมองคุณครูไปด้วยทำให้เด็กมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่คุณครูสอนหรือต้องการสื่อมากขึ้น นิทานถือเป็นสื่อในการส่งเสริมอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย เช่น หู ฝึกทักษะด้านการฟัง สมอง ฝึกทักษะด้านความคิด จินตนาการ ตา สามารถอ่านนิทานและจดจ่อจนเกิดสมาธิได้ในที่สุด ปาก ฝึกษะด้านการพูดใช้ภาษาอย่างถูกต้อง มือสามารถทำเป็นท่าทางต่างๆ ตามการเรียนรู้ พร้อมขีดเขียนอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งทุกส่วนทั้งหมดนั้นนำไปสู่การจินตนาการที่หลากหลายของเด็ก เพียงแค่ใช้สื่อที่เหมาะสมกับวัยเรียนรู้ของเด็ก” ดร. แพง ชินพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองเด็กและดนตรี กล่าวว่า “ดนตรีกับเด็กนั้นเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง เพราะโดยธรรมชาติแล้วเด็กทุกคนจะตอบสนองต่อจังหวะ และเสียงดนตรีได้เองโดยอัตโนมัติ ซึ่งดนตรีในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท ป็อบ ร็อค แร๊พ แจ๊ส คลาสสิค ฯลฯ ดนตรีจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่มีบทบาทในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกับเด็กที่เมื่อได้ยินทำนองหรือจังหวะที่ถูกใจจะเกิดอาการตอบสนองอย่างฉับพลันมีปฏิกิริยาต่ออวัยวะในร่างกายพร้อมเคลื่อนไหวหรือกระโดดโลดเต้นตามวัย ซึ่งดนตรีสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการในด้านต่างๆ อาทิ ด้านร่างกายเมื่อเด็กเคลื่อนไหวร่างกายก็ช่วยให้เด็กได้บริหารกล้ามเนื้อทุกส่วน เช่น แขน ขา นิ้ว มือ ไหล่ ด้านอารมณ์และจิตใจ ช่วยทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย มีสมาธิขึ้น กล่อมเกลาให้จิตใจเบิกบานแจ่มใส เป็นเด็กอารมณ์ดี ด้านสังคมช่วยพัฒนาบุคลิกภาพและสร้างความมั่นใจแก่เด็กที่กล้าแสดงความสามารถและเรียนรู้การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้น และช่วยพัฒนาด้านสติปัญญา ทักษะทางคณิตศาสตร์เรื่องของการนับจำนวนหรืออ่านโน๊ตดนตรี ทักษะด้านภาษาเด็กชอบร้องเพลงตามเนื้อเพลงช่วยฝึกการจดจำได้ดี ด้านความคิดสร้างสรรค์เด็กสามารถคิดค้นท่าเต้นแบบต่างๆ ได้ด้วยตนเอง และเมื่อเชื่อมโยงดนตรีเข้ากับนิทานที่เป็นสื่อที่เข้าถึงเด็กๆ มากที่สุด ทำให้การฟังนิทานดนตรีเป็นสิ่งที่เด็กพร้อมอ้าแขนรับ เพราะทำให้รู้สึกสนุกสนานไม่น่าเบื่อ มีเรื่องราวให้ตื้นเต้นน่าติดตามค้นหาอยู่อย่างเสมอ” ปิดท้ายที่ คุณสุพัชรมณี ศรีวลี ผู้บริหารบริษัท ดัชมิลล์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับกิจกรรมที่ดัชมิลล์ พลัส แอดวานซ์ จัดขึ้นในครั้งนี้เพื่อต้องการให้เป็นกิจกรรมที่ผู้ปกครอง คุณครู และอาจารย์ประจำสถาบันการศึกษา สามารถนำไปปรับใช้กับเด็กในชีวิตประจำวันพร้อมปลูกฝังให้เด็กใช้ความคิดอย่างสร้างสรรค์ ต่อยอดด้วยจินตนาการ ซึ่งทางดัชมิลล์ พลัส แอดวานซ์เล็งเห็นความสำคัญทางด้านการพัฒนาการทุกส่วนทั้งภายในและภายนอกโดยรวมของเด็ก จึงได้มีการเรียนเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเด็กมาร่วมเสวนาให้ความรู้เพิ่มเติม เพื่อที่ผู้ปกครอง คุณครู และอาจารย์จากสถาบันการศึกษาจะนำไปใช้กับเด็กได้อย่างถูกวิธี เพราะถ้าเด็กได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะตามวัยการเจริญเติบโตก็จะช่วยให้พัฒนาการทุกส่วนของเด็กรวมทั้งสมองดำเนินไปตามขั้นตอนอย่างที่ควรจะเป็นได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งอยากฝากถึงผู้ปกครอง คุณครูและอาจารย์สถาบันการศึกษา ว่าไม่ใช่เรื่องการสั่งสอนเท่านั้นที่จะช่วยพัฒนาจินตนาการเด็ก แต่เรื่องคุณค่าในสารอาหารที่ในปัจจุบันมีหลากหลายทางเลือกอย่างอาหาร นม ที่เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารครบถ้วนสำหรับเด็ก ก็สามารถช่วยพัฒนาจินตนาการของเด็ก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ บริษัทกนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด โทร 0-2284-2662

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ