กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--สรรพสามิต
สรรพสามิตเดินเกม “คู่ขนาน” ตั้งศูนย์ป้องกันฯ ควบส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นการเฉพาะ แก้ลำโรงกลั่นน้ำมันเลี่ยงภาษี พร้อมเพิ่มมาตรการคุมเข้มทุกระยะขนส่งน้ำมัน หวั่นเกิดเหตุลักไก่ขายน้ำมันผิดวัตถุประสงค์ แล้วย้อนมาเคลมภาษีคืน ระบุประชาชนต้องได้ใช้น้ำมันคุณภาพ
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ภาษีสรรพสามิตเป็นรายได้หลักที่สำคัญของประเทศ โดยในปีงบประมาณ 2553 กรมฯสามารถจัดเก็บภาษีได้ประมาณ 4 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 21 ของรายได้รวมรัฐบาล แยกเป็นรายได้จากภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันราว 1.5 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 38 ดังนั้น ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จึงเป็นเครื่องมือสำคัญของกรมฯทั้งในแง่ของรายได้ และในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นปัญหาที่โลกกำลังให้ความสนใจ
ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายข้างต้น กรมสรรพสามิตจึงจัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบ ปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม คู่ขนาดไปกับ การจัดส่งเจ้าหน้าที่ของกรมฯไปประจำที่โรงกลั่น พร้อมทั้งวางระบบการควบคุมน้ำมันฯ ทั้งที่ต้นทาง ระหว่างทาง และปลายทาง อาทิ การควบคุมด้วยระบบมิตเตอร์การเติมสารมาร์กเกอร์ ในน้ำมันส่งออก และการเติมสารสีเขียวและมาร์กเกอร์สำหรับน้ำมันที่นำไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร นอกจากนี้ ยังวางมาตรการในการกำหนดให้เรือ Tanker ต้องติดตั้งระบบการควบคุมและติดตามการขนส่ง (Global Positioning System: GPS) และกำหนดให้สารละลายประเภทไฮโดรคาร์บอนต้องมีใบขนกำกับติดไปกับรถขนด้วย เป็นต้น
“เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำมันที่ส่งออกจากโรงกลั่นจะเสียภาษีอย่างถูกต้อง ครบถ้วน อีกทั้งประชาชนยังได้ใช้น้ำมันที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกัน น้ำมันที่ได้รับการยกเว้นภาษีหรือคืนภาษี ก็จะเป็นน้ำมันที่นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์นั้นจริงๆ” นายพงษ์ภาณุ ย้ำในที่สุด