ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตระยะยาวภายในประเทศของธนาคารเกียรตินาคิน แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 5, 2011 09:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KK โดยอันดับเครดิตระยะยาวภายในประเทศ (Long-term National Rating) คงอยู่ที่ ‘BBB+(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (Short-term National Rating) คงอยู่ที่ ‘F2(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตระยะยาวภายในประเทศเป็นบวก อันดับเครดิตระยะยาวภายในประเทศของธนาคาร สะท้อนถึงการรักษาระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง และการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของคุณภาพสินทรัพย์และระดับของสำรองหนี้สงสัยจะสูญ KK ได้รักษาเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 15.1% และอัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 13.0% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 ฟิทช์คาดว่า KK จะยังคงรักษาเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งต่อไป เนื่องจากกลยุทธ์การขยายสินเชื่อในระดับที่ไม่สูงนัก การปรับตัวดีขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมตั้งแต่ปี 2551 มีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น โดยสินเชื่อไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 4.68 พันล้านบาท (3.8% ของสินเชื่อรวม) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 จาก 4.97 พันล้านบาท หรือ 4.6% ณ สิ้นปี 2553 ขณะเดียวกันระดับของสำรองหนี้สงสัยจะสูญได้ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยอัตราส่วนสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 92.8% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 จาก 85.1% ณ สิ้นปี 2553 ซึ่งทำให้ทั้งคุณภาพสินทรัพย์และสำรองหนี้สงสัยจะสูญอยู่ในระดับเดียวกันกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่รุนแรงจากธนาคารขนาดใหญ่ในตลาดสินเชื่อรถยนต์ ทำให้เกิดแรงกดดันต่ออัตรากำไรของ KK ซึ่งมีส่วนทำให้กำไรสุทธิปรับตัวลดลง 17.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 ฟิทช์คาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในขาขึ้น น่าจะส่งผลกระทบในทางลบต่อ KK ในระยะปานกลาง อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าการที่ธนาคารใช้กลยุทธ์ในการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปน่าจะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวได้บ้าง ในระยะยาว การที่ธนาคารยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ที่มีอัตรากำไรที่ค่อนข้างสูง และการรักษาคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับเดียวกับอุตสาหกรรม น่าจะช่วยให้ผลกำไรปรับตัวดีอย่างต่อเนื่อง KK ได้มีการขยายฐานเงินฝากรายย่อยและมีเป้าหมายที่จะขยายต่อไปอีกพร้อมกับการขยายเครือข่ายสาขา ซึ่งฟิทช์มองว่ากลยุทธ์ดังกล่าวน่าจะเป็นผลบวกต่อธนาคาร แต่การพึ่งพาเงินฝากขนาดใหญ่และการระดมทุนผ่านการออกตราสารในตลาด ยังเป็นสิ่งที่ฟิทช์มองว่าเป็นความเสี่ยง อัตราสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินอยู่เพิ่มขึ้นเป็น 106% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 จากที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 100% ในปี 2551-2552 อันดับเครดิตระยะยาวภายในประเทศอาจได้รับการปรับขึ้น หากธนาคารแสดงให้เห็นว่ามีการกระจายแหล่งเงินทุนมากขึ้นและมีการปรับพอร์ตสินเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลักษณะที่เป็นการลดความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้จากสินเชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่ออื่นๆ นอกจากนี้การที่ธนาคารสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเครือข่ายต่อไปน่าจะเป็นผลในทางบวกเช่นกัน ในทางกลับกันแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงเป็นมีเสถียรภาพ หากธนาคารมีการเพิ่มความเสี่ยงในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะมาจากการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มที่มีความผันผวนดังเช่นในอดีต หรือจากการใช้กลยุทธ์ในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจมีผลกระทบในทางลบต่ออันดับเครดิตเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ