กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--บีโอไอ
บีโอไอ จับมือ สสปน. จัดประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจ CEO Forum ย้ำศักยภาพประเทศไทยจุดหมายแห่งไมซ์และการลงทุน พร้อมโชว์ “EXPO 2020 พาวิลเลียน”ชูความพร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ในงานบีโอไอแฟร์ 2011
งานบีโอไอแฟร์ 2011 นอกจากจะจัดแสดงสุดยอดเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตแล้ว ยังจะเป็นเวทีประชุมของบรรดาผู้นำภาคธุรกิจจากทั่วโลกกว่า 300 คน โดยมีผู้นำองค์กรระดับนานาชาติเข้าร่วม อาทิ อังค์ถัด และอาเซียนที่เข้าร่วมประชุม CEO FORUM เพื่อระดมความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการลงทุนในอนาคต และไฮไลท์สำคัญของงานบีโอไอแฟร์ปีนี้ คือ การเปิดตัว EXPO 2020 พาวิลเลียน นำเสนอโครงการเสนอตัวประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 อย่างเต็มรูปแบบ สร้างการรับรู้ กระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อการดึงงานระดับเมกกะอีเวนต์มาจัดในไทย
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยถึงการจัดงานนิทรรศการบีโอไอแฟร์ 2011 “โลกสดใส ไทยยั่งยืน” หรือ “Going Green for the Future” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 — 25 พฤศจิกายน 2554 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า บีโอไอ ได้ร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักและมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดประชุมนานาชาติในประเทศไทย ร่วมกันจัดการประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจ (CEO Forum) ขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2554 ซึ่งเป็นวันแรกของการจัดงานบีโอไอแฟร์ 2011 และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน
การประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจจากทั่วโลกในครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญยิ่งในงานบีโอไอแฟร์ 2011 เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสอันดีที่ภาครัฐจะได้ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศด้านการลงทุน ยังเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ทั้งไทยและต่างชาติ ตลอดจนชักชวนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ในงาน CEO Forum นี้ จะมีองค์ปาฐกที่เป็นผู้นำองค์กรระหว่างประเทศและผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทข้ามชาติชั้นนำและบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทย อาทิเช่น ดร. ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการอังค์ถัด (United Nations Conference on Trade and Development -UNCTAD) ผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่ม Minebea จากญี่ปุ่นและบริษัท Dow Chemical จากสหรัฐฯ รวมทั้งคุณกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่เครือซีเมนต์ไทย
การประชุมครั้งนี้ นอกเหนือจากผู้บริหารระดับสูงจากบรรษัทข้ามชาติชั้นนำที่มีการลงทุนจำนวนมากในประเทศไทยแล้ว ยังจะมีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทขนาดใหญ่ของไทยและธนาคารดังอีกหลายแห่งเข้าร่วมด้วย
นอกจากนี้ บีโอไอยังจะจัดการประชุมที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน (Honorary Investment Advisor: HIA) ครั้งที่ 1 ขึ้น ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 เพื่อเป็นเวทีให้ผู้นำภาครัฐของไทยได้มีโอกาสหารือกับที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนระยะ 5 ปีของประเทศไทย ข้อคิดเห็นที่ได้จากผู้บริหารชั้นนำระดับนานาชาติเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการวางยุทธศาสตร์ของบีโอไอในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยในฐานะแหล่งรองรับการลงทุนที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนของประเทศไทย หรือ HIA ทั้งหมดกว่า 30 คน ล้วนแต่เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำจากทั่วทุกภูมิภาคของโลกและจากหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ จากญี่ปุ่น (เช่น โตโยต้า, ฮอนด้า, มิตซูบิชิ มอเตอร์ส, นิสสัน บริดจสโตน, โซนี่ และมินิแบ) จากสหรัฐอเมริกา (เช่น ดาว เคมิคอล, เวสเทิร์น ดิจิตอล, ซีเกท เทคโนโลยี, ฟอร์ด มอเตอร์ส และ มี้ด จอห์นสัน) จากจีน (เช่น หัวเหว่ย เทคโนโลยี และ ไฮเออร์ กรุ๊ป) จากยุโรป (เช่น มิชลิน, พูแรค, เวสตัน อียู, ดาเนียลี, บีเอ็มดับเบิลยู และอีเล็กโทรลักซ์) และจากประเทศอื่นๆ (เช่น แคนาดอยล์, บลูสโคป สตีล, และ อินโดรามา)
ด้านนายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “การร่วมมือ กับ สกท ในการจัดงานประชุม HIA Meeting และ CEO Forum นับเป็นหนึ่งในพันธกิจที่ส่งเสริมหน่วยงานราชการไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติ และยังเป็นหนึ่งในเป้าหมายการดำเนินการที่สำคัญภายใต้โครงการ “Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อม” ซึ่ง สสปน. เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยการเป็นเจ้าภาพร่วมกับ สกท.ในการจัดประชุมที่เป็นเวทีที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำของโลก และนักลงทุนชาวต่างประเทศได้พบปะกับผู้นำภาครัฐและภาคเอกชนของประเทศไทยนั้น นอกจากจะเป็นการส่งเสริมการลงทุนแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะตอกย้ำความเชื่อมั่นและแสดงศักยภาพของประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางที่มีความพร้อมสำหรับการจัดงานไมซ์ระดับโลกสู่สายตาผู้บริหารระดับสูงจากนานาประเทศ
ประเทศไทยมีความสำคัญในฐานะจุดหมายปลายทางที่สำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ 4 ประการ 1) บริการอย่างมืออาชีพสำหรับการจัดงานเชิงธุรกิจสำหรับผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ 2) โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก 3) ความหลากหลายของสถานที่จัดการประชุม ที่ตั้งอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ซึ่งพร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ชะอำ รวมถึงอีก 4 สถานที่สำคัญได้แก่ เขาใหญ่, หาดใหญ่, สมุย, กาญจนบุรี และประการสุดท้ายคือ 4) โอกาสทางธุรกิจมากมาย ที่จะเป็นการต่อยอดนำไปสู่การค้าและการลงทุน รวมถึงการสร้างรายได้ให้กับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
ในฐานะเจ้าภาพร่วมในการจัดงานประชุม HIA Meeting และ CEO Forum สสปน. สนับสนุนด้านงบประมาณสำหรับการจัดประชุม และยังดำเนินงานในการจัดกิจกรรมหลักๆ ทั้ง การเลี้ยงรับรองอาหารกลางวัน การเลี้ยงรับรองอาหารค่ำ แก่ผู้บริหารระดับสูง และนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 300 คน การสนับสนุนค่าใช้จ่ายของวิทยากร และสสปน. ยังมีแผนการดำเนินงานด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องกับกลุ่ม CEO และนักลงทุนที่เข้าร่วมงานสัมมนา โดยเน้นกลยุทธ์การตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย สร้างโอกาสในการนำเสนอประเทศไทยแก่กลุ่ม CEO ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาด อาทิ โรดโชว์ / Familiarization trip ซึ่งจะดำเนินการในปี 2555 เป็นต้นไป
นายอรรคพล กล่าวต่อไปว่า “ไฮไลท์การเข้าร่วมงาน บีโอไอแฟร์ 2011 ของ สสปน. คือ การเปิดตัว EXPO 2020 พาวิลเลียน เพื่อนำเสนอโครงการเสนอตัวประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 อย่างเต็มรูปแบบต่อประชาชน ภายใต้แนวคิดการจัดงาน “นิยามใหม่ของโลกาภิวัตน์ - วิถีที่ยั่งยืน เพื่อโลกที่สมดุล (“Redefine Globalisation - Balance Life, Sustainable Living) โดยใช้พื้นที่จำนวน 2,000 ตารางเมตร นำเสนอภาพรวมของงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ประเทศไทยกับเวิลด์ เอ็กซ์โป และ เวิล์ด เอ็กซ์โป 2020 อยุธยา โดยในช่วงกลางคืน จะมีการแสดงไนท์โชว์ พร้อม Special effect ตระการตา โดยการแสดงไนท์โชว์นี้จะจัดให้มีขึ้นทุกคืน สสปน. ตั้งเป้าผู้เข้าชมพาวิลเลียน กว่า 107,000 คน ตลอดระยะเวลา 16 วัน
นอกจากนี้ สสปน. ยังได้เชิญ นายวิเซนต์ กอนซาเลส ลอสเซอทาเลซ เลขาธิการสำนักงานมหกรรมโลก ซึ่งเป็นผู้ดูแลกระบวนการนำเสนอและการตัดสินใจเลือกเจ้าภาพการจัดงาน ณ สำนักงาน BIE กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ร่วมภารกิจในงาน CEO Forum และ บีโอไอแฟร์ 2011 โดยเริ่มจากวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่จะเดินทางเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำ พร้อมปาฐกถาพิเศษเรื่อง“Innovation Economic Impact and Investment from the World Expo” แก่ผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมงาน CEO Forum พร้อมกลุ่มผู้บริหารระดับสูงขององค์กรและบริษัทชั้นนำที่เป็นสมาชิกของ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ต่อด้วยการเชิญนายวิเซนต์ทำพิธีเปิด EXPO 2020 พาวิลเลียนอย่างเป็นทางการ และในวันที่ 10 พฤศจิกายน สสปน. ยังได้จัดทริปพิเศษนำนายวินเซนต์ เดินทางไปยังจังหวัดอยุธยา ร่วมงานลอยกระทงสัมผัสถึงวัฒนธรรมและประเพณีไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ความพร้อมของจังหวัดในการจัดงาน World Expo 2020 นอกจากนี้นายวินเซนต์ยังมีภารกิจเข้าพบกับรัฐบาลชุดใหม่อีกด้วย
“EXPO 2020 พาวิลเลียน จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์ในการประกาศความพร้อมของไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 แก่ผู้บริหารระดับสูงทั้งไทยและนานาประเทศ ตลอดจนสร้างให้การยื่นประมูลสิทธิ์ครั้งนี้ เป็นวาระแห่งชาติของคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง และ ณ วันนี้ ประเทศไทยมีโอกาสค่อนข้างสูงในการเป็นเจ้าภาพการจัดงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากรัฐบาล และนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีความคืบหน้าในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพมากที่สุดประเทศหนึ่งในบรรดาประเทศที่แสดงความจำนง ได้แก่ ตุรกี” นายอรรคพล กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับการจัดงานบีโอไอแฟร์จะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 10-25 พฤศจิกายน 2554 ณ อิมแพค เมืองทองธานี โดยงาน CEO Forum จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน ณ ห้อง แกนรด์ ไดมอนด์ บอลรูม ฮอลล์ 9 สำหรับ EXPO 2020 พาวิลเลียน จะใช้พื้นที่บริเวณริมทะเลสาบบนพื้นที่หมายเลข P 71-74 นอกเหนือจากนี้ สสปน. ยังได้ร่วมออกบูธ นิทรรศการบนพื้นที่ 500 ตารางเมตรบริเวณพื้นที่ด้านในอาคาร เพื่อแนะนำ สสปน. อุตสาหกรรมไมซ์ ตลอดจนโครงการเด่นสำคัญ ทั้งการประชุมในประเทศไทย (D-MICE) การจัดประชุมด้วยความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการบริการอย่างครบวงจรที่ สสปน. สนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทย โดยจะจัดขึ้นภายในอาคารชาเลนเจอร์ 2
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
เสาวณิต ไทรวิเศษ / นคนันท์ ชาญสุนทร Email : pr.boifair2011@gmail.com
www.boifair2011.com