กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป หวังผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ ด้วยการขยายสาขาต่างจังหวัดให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเปิดตลาดให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ไทยและเป็นแรงจูงใจในการสร้างภาพยนตร์คุณภาพและทำเงิน ล่าสุดได้พันธมิตรยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมมือสนับสนุนทุนร่วมผลิตภาพยนตร์ไทย 3 เรื่อง ผ่าน บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จำกัด หรือ M๓๙ มืออาชีพด้านการสร้างภาพยนตร์ไทยที่มีผลงานหนังเข้าฉายทำเงินเกิน 100 ล้านบาท ด้าน ไอ.ซี.ซี. มั่นใจศักยภาพของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป และ เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จะสามารถพัฒนาให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยแข็งแรงขึ้น และสามารถผลิตภาพยนตร์ไทยคุณภาพป้อน สู่ตลาดได้
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีนโยบายต้องการจะพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในภาพรวมให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้สนับสนุนและกระตุ้นให้เกิดการสร้างภาพยนตร์ไทยป้อนเข้าสู่ตลาดเพื่อให้เกิดการขยายตัวมากขึ้น จากสัดส่วนการเข้าฉายของภาพยนตร์ต่างประเทศ 70 % และภาพยนตร์ไทย 30 % เพิ่มขึ้นเป็นภาพยนตร์ไทย 40 % และภาพยนตร์ต่างประเทศ 60 % โดยเน้นการขยายสาขาใหม่ไปยังต่างจังหวัดมากขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 2-3 สาขา เพื่อเพิ่มตลาดในการรองรับผลงานของผู้สร้างภาพยนตร์ไทย ตลอดจนเป็นแรงจูงใจในการสร้างภาพยนตร์ไทยให้มีคุณภาพและสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับเจ้าของภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น ซึ่งผลตอบแทนจากการสร้างภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพเกิดขึ้นตั้งแต่การจัดจำหน่ายเข้าสู่ โรงภาพยนตร์ ไปจนถึงการจัดจำหน่ายในรูปแบบของแผ่นวีซีดีและดีวีดีเพื่อความบันเทิงในครัวเรือน
นายวิชา กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการร่วมกันช่วยส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้เติบโต จึงได้ร่วมสนับสนุนเงินทุนในการสร้างภาพยนตร์ไทยผ่าน บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จำกัด หรือ M๓๙ ซึ่งเป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์ไทยในเครือของ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่ง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ถือหุ้นอยู่ โดยการร่วมทุน
สร้างภาพยนตร์ไทยของ ไอ.ซี.ซี. จำนวน 3 เรื่องในครั้งนี้ จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของภาพยนตร์ไทยให้มีความแข็งแกร่งและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในปี 2554 ยังเป็นปีที่ฮอลลีวู้ดขนาดนามว่าเป็นปีทองของวงการภาพยนตร์อีก หนึ่งปี ซึ่งคล้ายกับปี 2550 ที่เป็นปีทองของวงการภาพยนตร์ เนื่องจากมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เข้าฉายเป็นจำนวนมาก อาทิ Fast Five, Pirates of The Caribbean : On Stranger Tides, X-Men : First Class, Green Lantern, Transformers : Dark of The Moon, Harry Potter and The Deathly Hallows : Part 2, Captain America : The First Avenger, Cowboys&Aliens, Final Destination 5, The Twilight Saga : Breaking Dawn - Part 1, Mission Impossible - Ghost Protocol ส่วนภาพยนตร์ไทยมี ตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 3 และ 4, สุดเขตสเลดเป็ด, หอแต๋วแตก, รักมันใหญ่มาก, Suck Seed ห่วยขั้นเทพ, ลัดดาแลนด์, พุ่มพวง, สาระแน 4, ตุ๊กกี้ 2, หลวงพี่เท่ง 5
ด้าน นายบุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ และ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ในการทำกิจกรรมการตลาดมูฟวี่มาร์เก็ตติ้งในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การเป็นเนมมิ่งสปอนเซอร์ให้กับโรงภาพยนตร์ บีเอสซี อัลตร้าสกรีน ที่ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดา, การร่วมทำโปรโมชั่นกับภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับจากลูกค้าของไอ.ซี.ซี.เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้ขยายฐานลูกค้าใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่, วัยรุ่น, คนทำงาน ที่เป็นฐานลูกค้าหลักของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 บริษัทฯ ยังคงสนับสนุนกิจกรรมการตลาดมูฟวี่มาร์เก็ตติ้ง ด้วยการร่วมทุนสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ไทย 3 เรื่องในปีนี้ ผ่าน บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จำกัด ซึ่ง บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทคนไทยที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้แข็งแรงขึ้น และพร้อมสนับสนุนพันธมิตรอย่าง บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ให้สามารถผลิตภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพป้อนสู่ตลาดได้
ส่วน นายเผด็จ หงษ์ฟ้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด (มหาชน) และ กรรมการ บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ลงทุนใน บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จำกัด เป็นผู้นำทางด้านการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และดำเนินธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งทาง เอ็ม พิคเจอร์ส มีความระมัดระวังในเรื่องการลงทุน โดยแต่ละโครงการที่จะผ่านการอนุมัตินั้น จะมีศึกษา
ในแง่ของการตลาดทุกด้านอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งในส่วนของตลาดโรงภาพยนตร์และโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการที่จะร่วมทุนกับบริษัทอื่น ๆ ในการพัฒนาโครงการใด ๆ ต้องมั่นใจว่าผู้ที่มาร่วมทุนจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกันหรือเหมือนกัน ต้องกล้าที่จะนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่มีใครเคยคิดหรือเคยทำมาก่อน พร้อมที่จะลงทุนสร้างภาพยนตร์คุณภาพ ไปพร้อมกับการทำการตลาดที่มีคุณภาพนำเสนอสู่ลูกค้าและสาธารณชน ซึ่ง บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทคนไทยที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และมีความพร้อมที่จะร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ไปกับเรา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : คุณภัสสรภพ ชินตระกูล, คุณนัยน์ปพร สัจจวรกุล
โทร. 02-511-5427-36 ต่อ 532, 533
โทรสาร 02-511-5821