BWG สร้างปาฎิหาริย์หุ้นไอพีโอ เข้าเทรดวันแรกพุ่งถึง 146.66%

ข่าวทั่วไป Thursday November 15, 2007 09:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--ออนไลน์ แอสเส็ท
-โชว์ผลงาน 9 เดือนกำไร 78 ลบ.เพิ่มจากปีก่อนที่ทำได้ 58 ลบ.
BWG สร้างปรากฎการณ์ใหม่สำหรับวงการหุ้นไอพีโอเข้าซื้อขายวันแรกทำกำไรให้ผู้ถือหุ้นถึง 146.66% จากราคาไอพีโอ 3 บาท/หุ้น เพราะนักลงทุนเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและประเมินทิศทางอุตสาหกรรมยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง อีกทั้งได้ภาวะตลาดโดยรวมหนุน พร้อมกันนี้โชว์ผลประกอบการงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 58.69 ล้านบาท
บรรยากาศการเข้าซื้อขายหุ้นของ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (BWG)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้เป็นวันแรก (14 พฤศจิกายน 2550) ในหมวดบริการเฉพาะกิจ ราคาหุ้นเปิดซื้อขายที่ระดับ 8 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 บาท หรือ 166.66% จากราคาเสนอขาย 3 บาท/หุ้น โดยระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ10 บาท และปิดการซื้อขายที่ระดับ 7.40 บาทเพิ่มขึ้น 4.40 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 146.66% จากราคาจอง มีมูลค่าการซื้อขายรวม 616.79 ล้านบาท
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (BWG) เปิดเผยถึงราคาหุ้น BWG ซึ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้เป็นวันแรกว่ารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากหุ้น BWG สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนสาเหตุที่หุ้นของบริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก และมีแรงซื้อหนุนเข้ามาต่อเนื่อง น่าจะเป็นเพราะบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและประเมินทิศทางของอุตสาหกรรมยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันในวันนี้ยังได้รับแรงหนุนจากสภาวะของตลาดโดยรวมที่มีดัชนีราคาหลักทรัพย์ยืนในแดนบวกตั้งแต่เปิดตลาดช่วงเช้า และมีแรงซื้อขายจากนักลงทุนอย่างคึกคัก
"นอกจากความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีให้กับ BWG แล้ว อีกปัจจัยที่เป็นแรงหนุนสำคัญคือสภาวะการของตลาดหลักทรัพย์โดยรวมที่มีการซื้อขายค่อนข้างคึกคัก และ SET INDEX ยืนในแดนบวกได้หลังจากที่ดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างแรงก่อนหน้านี้"
เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มการดำเนินงานในปีนี้ว่าน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่าอุตสาหกรรม เนื่องจากบริษัทมีจุดเด่นที่การบริหารและจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วแบบครบวงจร (One Stop Service) ขณะเดียวกันผลประกอบการในไตรมาส 3/50 ก็ถือว่าทำได้ดีมากโดยมีรายได้รวม.128.50 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 24.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.26 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.04 จากไตรมาส 3/49 ที่มีกำไรสุทธิ 19.45 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนมีรายได้รวม 430.51 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 78.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.43 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.11 จากงวดเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 58.69 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการของบริษัทในงวด 9 เดือนดีขึ้น เนื่องมาจากรายได้จากการบริการ เพิ่มขึ้นจำนวน 95.39 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.55 ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทมีรายได้จากงานโครงการใหญ่โครงการหนึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2550 มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณร้อยละ 42 ของมูลค่างานดังกล่าว และมีรายได้จากการให้บริการบำบัดน้ำเสียและรายได้จากบริการใหม่ คือ การปรับคุณภาพวัสดุที่ไม่ใช่แล้วเพื่อเป็นเชื้อเพลิงทดแทนและวัตถุดิบทดแทน หรือ Liquid Blending เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนค่าบริการ เพิ่มขึ้นจำนวน 59.30 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.56 ซึ่งเพิ่มขึ้นสอดคล้องตามอัตราเพิ่มขึ้นของรายได้จากการบริการ ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้นจำนวน 17.93 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.36 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายบุคลากรเพิ่มขึ้นเป็นหลัก
ด้านนายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BWG กล่าวเสริมว่านอกจากความโดดเด่นทางด้านปัจจัยพื้นฐานแล้ว ในการกำหนดราคาขายไอพีโอก็ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญเพราะที่ระดับ 3 บาท/หุ้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่ไม่แพงและให้ส่วนลดกับนักลงทุนจำนวนมาก โดยมีค่าพีอี เรโชว์ ประมาณ 9 เท่า คิดเป็นส่วนลด (Discount) ให้กับนักลงทุนกว่า 60% เมื่อเทียบกับหมวดบริการเฉพาะกิจที่มีค่าพีอี เรโชว์ ประมาณ 23 เท่า และมีส่วนลดประมาณ 25% เมื่อเทียบกับพีอีเรโชว์ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ระดับ 12 เท่า จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจ BWG อย่างมาก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี 089-4888337 , 02-5549395

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ