กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--กระทรวงอุตสาหกรรม
พร้อมเผยเทรนด์เครื่องหนังโลกปี 2008 ผ่านสัมมนา “แนวคิดในการพัฒนาออกแบบและแนะนำข้อมูลการติดต่อกับผู้ผลิต-โรงงาน”
เพราะเรื่องของแฟชั่นการแต่งกายไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เทรนด์เครื่องประดับจำพวกแอคเซสเซอรี่ทั้งหลายก็เริ่มเข้ามามีบทบาทกับวงการแฟชั่นมากขึ้น โดยเฉพาะกระเป๋ากับรองเท้ากลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ซึ่งถ้าพูดถึงในแง่อุตสาหกรรมแล้ว ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังแฟชั่นนั้นทำรายได้เข้าประเทศปีละหลายหมื่นล้านบาททีเดียว แต่ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องหนังบ้านเราเริ่มมีอัตราการส่งออกลดลงในทุกๆ ปี โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่คู่แข่งอย่างจีน ซึ่งมีความได้เปรียบในเรื่องต้นทุนการผลิตกำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดอยู่ในขณะนี้ ส่วนผู้ผลิตอุตสาหกรรมเครื่องหนังไทยก็ยังมีจุดอ่อนบางประการซึ่งเป็นข้อจำกัดในการแข่งขันในตลาดโลก ดังนั้นการที่จะทำให้ผู้ประกอบการคนไทยสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและเกิดความได้เปรียบ ก็คือการพัฒนาสินค้าในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง เช่น การมุ่งพัฒนางานดีไซน์ให้มีรูปแบบที่ทันสมัย และได้มาตรฐานตามความต้องการของตลาด การสร้างแบรนด์ของตนเองให้เป็นที่ยอมรับ ตลอดจนการดำเนินการด้านช่องทางการตลาด ซึ่งล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้อุตสาหกรรมเครื่องหนังของไทยพัฒนาต่อไปในอนาคต
แต่ ณ วันนี้ เรื่องหนึ่งที่รัฐพยายามส่งเสริมสานต่อมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่โครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น ที่ถึงวันนี้อาจจะปิดฉากลงไปเรียบร้อยแล้ว ก็คือการสร้างบุคลากรทางด้านการออกแบบเครื่องหนังที่มีฝีมือ ความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์ ที่สำคัญยังต้องรู้เท่าทันกระแสแฟชั่นของโลกด้วย
จารุพันธ์ จารโยภาส ผู้อำนวยการส่วนอุตสาหกรรมเครื่องหนัง สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมนำสมัย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่ากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมยังคงมองเห็นความสำคัญของการส่งเสริมให้นักออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องหนังไทย โดยเฉพาะนักออกแบบรุ่นใหม่ที่ต้องการฝึกฝนฝีมือและกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดให้มีการประกวดออกแบบเครื่องหนังกระเป๋าและรองเท้า โครงการ “Bangkok Leather Goods Contest 2008-2009” ขึ้น โดยกิจกรรมหนึ่งในการประกวดครั้งนี้ ก็คือการสัมมนา “แนวคิดในการพัฒนาออกแบบและแนะนำข้อมูลการติดต่อกับผู้ผลิต-โรงงาน” ซึ่งมีขึ้นไปเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา ณ สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมนำสมัย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
โดยภายในงานมีการเผยถึงเทรนด์แฟชั่นการออกแบบของแบรนด์เครื่องหนังโลกในปี 2008 โดยมีนักวิชาการจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้แก่ นายอาทิตย์ โลหะชาละ นักออกแบบผลิตภัณฑ์ 6 และ นายรักเล่ห์ ไต้สำโรง นักวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ 6 ได้มาร่วมกันบรรยายให้แก่ผู้สมัครเข้าร่วมประกวดออกแบบเครื่องหนังกระเป๋าและรองเท้า โครงการ “Bangkok Leather Goods Contest 2008-2009”
“ปกติทุกๆ ปี ดีไซเนอร์ระดับโลกจะออกมาพูดเรื่องเทรนด์แฟชั่น และจะมีการประกาศล่วงหน้าทุกปี โดยส่วนใหญ่ศูนย์กลางของเทรนด์ก็ยังคงอยู่ที่ยุโรป ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวจะกลายเป็นรูปแบบที่แฟชั่นทั่วโลกยึดเป็นแนวทางในการออกแบบ ฉะนั้นเป็นนักออกแบบบ้านเราจึงจำเป็นมากที่ต้องติดตามข่าวสารข้อมูลเรื่องแฟชั่นโลกอยู่เสมอ ในการจะสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกได้” นายอาทิตย์กล่าว
สำหรับเทรนด์ของ Spring - Summer ในปี2008 นั้น จะมีสีสันที่มีแนวโน้มสดใสขึ้นแต่จะใช้สีที่ไม่รุนแรง นั่นคือสีในแนวพาสเทลหรือสีโทนอ่อนหวาน โดยในกลุ่มเครื่องแต่งกายของสุภาพบุรุษยังจะเน้นที่ความสามารถในเชิงความคิดสร้างสรรค์ ที่มาผสมผสานเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ support ด้านเครื่องหนัง ออกแบบได้เน้นการดีไซน์รูปทรงที่เพรียวบาง เส้นสายที่เรียบง่าย และเหมาะสมกับการใช้งาน โดยที่เพิ่มรายละเอียด Detail ต่างๆ ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ ผสมผสานกับหนัง และการประดับตกแต่งที่ลงตัว ส่วนเทรนด์แฟชั่นเครื่องแต่งกายสตรีจะเป็นการนำวัสดุหลากชนิดที่มีสีแตกต่างกัน มารวม เข้าด้วยกันกับโลหะ และประดับตกแต่งให้นำแฟชั่น ทำให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนกับว่าได้เป็นคนออกแบบเอง
นอกเหนือจากการแนะนำเทรนด์การออกแบบในปีหน้า รวมทั้งให้เทคนิคและขั้นตอนการพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องหนังตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นแล้ว สัมมนาครั้งนี้ยังแนะนำวิธีการติดต่อธุรกิจกับโรงงานผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง โอกาสเดียวกันยังเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมสัมมนาได้พบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยตรงกับผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมเครื่องหนังที่มาร่วมงาน ซึ่งผู้ประกอบการเครื่องหนังกลุ่มเอสเอ็มอีเหล่านี้ยังจะทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตขึ้นรูปผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในโครงการประกวดออกแบบเครื่องหนัง “Bangkok Leather Goods Contest 2008-2009” ซึ่งจะมีการเดินแบบโชว์ผลงานในวันที่ 7 ธันวาคม 2550 นี้
นายสินชัย เอื้ออัครวงษ์ ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องหนังไทยระดับเอ็สเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ IRIS MONTINI มากว่าสิบปี ได้กล่าวถึงเหตุผลในการตอบรับเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ว่าเนื่องจากตนเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจทำให้ได้ทราบถึงปัญหาที่แท้จริงของอุตสาหกรรมเครื่องหนังไทย ว่ายังขาดบุคลากรทางด้านการออกแบบเครื่องหนังที่นอกจากจะมีความสร้างสรรค์แล้ว ยังต้องสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในเชิงพาณิชย์ได้ด้วย เพราะปัจจุบันดีไซเนอร์ไทยส่วนใหญ่จะมีความคิดสร้างสรรค์อิสระ แต่ไม่ถนัดการออกแบบในเชิงพาณิชย์ ซึ่งไม่เหมาะกับการผลิตเพื่อส่งออกในระดับอุตสาหกรรม การจัดประกวดโครงการนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของนักออกแบบที่จะได้รับประสบการณ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานออกแบบ ถือเป็นการทำงานแบบมืออาชีพ
ธนพร แก้วลอยฟ้า นักศึกษารุ่นที่ 3 ของสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ เป็นตัวแทนของดีไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่ที่เคยผ่านเวทีประกวดออกแบบมากมาย ซึ่งเธอเคยคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการประกวด Thailand Wedding Designer Award 2004 มาแล้ว รวมทั้งเคยร่วมงานกับไข่บูติคใน Bangkok Fashion Week ปี2006 ในฐานะรุ่นพี่ที่เคยผ่านเวทีประกวด แม้วันนี้เธอได้ก้าวสู่การเป็นดีไซเนอร์อิสระมืออาชีพเต็มตัวแล้ว แต่ธนพรก็ยังให้ความสนใจกับการประกวดต่างๆ อยู่เสมอ นั่นเพราะเธอมองว่าการประกวดถือเป็นเวทีฝึกฝนฝีมือที่ดีและเป็นความท้าทายสำหรับนักออกแบบที่ต้องการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เพราะด้วยโจทย์การทำงานทำให้ต้องสามารถเค้นไอเดียที่ดีที่สุดออกมาให้ได้ พร้อมกับเป็นการช่วยเปิดมุมมองทางความคิดและยังทำให้ได้รู้จักสไตล์ของตัวเอง นอกจากนี้ทุกครั้งที่เข้าร่วมประกวด ธนพรบอกว่าเธอมักจะได้ความรู้ทั้งเรื่องเทรนด์และได้รู้จัก Material ในการผลิตผลงานใหม่ๆ กลับไปเสมอ
“อย่างในการประกวดครั้งนี้มีโจทย์ในเชิงธุรกิจ กรอบการทำงานคือการออกแบบที่นำมาใช้ได้จริง ซึ่งต้องอิงกับกระแสเทรนด์โลกด้วย แต่นอกจากเราจะได้รู้ว่ามีเทรนด์อะไรใหม่ๆในปีหน้าแล้ว การได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตในอุตสาหกรรม เครื่องหนังยังถือเป็นอีกประสบการณ์ที่ดีที่เราจะได้จากงานประกวดนี้ด้วย”
สำหรับโครงการประกวดออกแบบเครื่องหนัง “Bangkok Leather Goods Contest 2008-2009” ทางรัฐได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน และบรรดาคณาจารย์ นักวิชาการผู้มีความรู้ความสามารถ ในวงการอุตสาหกรรมเครื่องหนังไทยให้การสนับสนุน จึงเป็นหลักประกันที่เพิ่มความมั่นใจได้ว่า การประกวดครั้งนี้เป็นการเอาจริง เพราะทุกผลงานที่ได้รับการตัดสินชนะเลิศจะได้มีโอกาสนำผลงานไปลงเว็บไซต์ ซึ่งทางสำนักฯ จัดเตรียมเพื่อเป็นสื่อกลางสำหรับผู้ผลิตรายใดที่ต้องการติดต่อซื้อแบบนำไปผลิตเป็นสินค้าสู่ตลาดต่อไป นอกเหนือจากจะนำผลงานไปโชว์ในงาน APLF (Asia Pacific Leather Fair) ซึ่งเป็นงานมหกรรมอุตสาหกรรมเครื่องหนังระดับนานาชาติ ณ ประเทศฮ่องกง
โครงการประกวดออกแบบเครื่องหนัง “Bangkok Leather Goods Contest 2008-2009” จะมีการประกาศผลการตัดสินในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2550 โดยจะมีพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะเลิศในวันที่ 7 ธันวาคม 2550
ประวัติโดยย่อของนักวิชาการที่บรรยายในสัมมนา
นายอาทิตย์ โลหะชาละ
นักออกแบบผลิตภัณฑ์ 6
ส่วนพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องหนัง สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมนำสมัย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
นักออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องหนังของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและดูแลการอบรมสัมมนาเพิ่มขีดความสามารถของนักออกแบบทั้งในและนอกส่วนพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องหนัง
นายรักเล่ห์ ไต้สำโรง
นักวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ 6
ส่วนพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องหนัง สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมนำสมัย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
นักออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องหนังของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และดูแลโครงการต่างๆที่สนับสนุนการเติบโตทางด้านอุตสาหกรรมเครื่องหนังทั้งด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ต้นแบบผลิตภัณฑ์
ต้องการข้อมูลและภาพเพิ่มเติม ติดต่อ
ยุพาพร คุณานันท์ (อุ้ย)
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โครงการ Bangkok Leather Goods Contest 2008 — 2009
โทร. 089-144-5997