กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
เอสเอ็มอีแบงก์ เผยมาตรการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อโค้งสุดท้ายปีนี้ในแคมเปญ “60 วัน 5,000 ล้านบาท” เผยมีผู้สนใจยื่นขอกู้จำนวนมาก โดยเฉพาะในต่างจังหวัด คาดสิ้น พ.ย.นี้ ยอดขอสินเชื่อโครงการนี้ทะลุเป้า เตรียมขยายวงเงินเพิ่มรองรับในช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่คาดว่าจะคึกคักต่อเนื่องเทศกาลปีใหม่จนถึงหลังการเลือกตั้ง
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยถึง มาตรการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อไตรมาสสุดท้ายในแคมเปญ “60 วัน 5,000 ล้านบาท” ซึ่งเริ่มตั้งแต่ตุลาคมจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ว่า ระยะเวลาเพียงเดือนเศษ มาตรการที่ธนาคารออกมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและการจ้างงานของผู้ประกอบการ SMEs ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการยื่นเรื่องขอกู้เงินจำนวนมาก เนื่องจากผู้ประกอบการมีความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ เพื่อใช้ซื้อวัตถุดิบในการเตรียมผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายช่วงปลายปีต่อต้นปีใหม่ ประกอบกับธนาคารได้ประกาศลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ทำให้ผู้ประกอบการเข้ามาติดต่อใช้บริการมากยิ่งขึ้น คาดว่าสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ยอดผู้สนใจจะทะลุ 5,000 ล้านบาทที่วางไว้ โดยธนาคารจะเร่งดำเนินการอนุมัติสินเชื่อกับลูกค้าที่เข้าหลักเกณฑ์ และมีความพร้อมให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้มีบอร์ดสินเชื่อสัญจรลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องแล้ว ส่วนลูกค้าที่ยังมีปัญหาเช่นเอกสารไม่ครบ หรือเกิดความล่าช้าในการประเมินราคาทรัพย์สินธนาคารจะเร่งติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทันต่อการลงทุนในช่วงปลายปีในโครงการต่าง ๆ ของผู้ประกอบการที่จะสอดรับกับเศรษฐกิจปีหน้า โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งช่วงปลายปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่น หรือฤดูกาลท่องเที่ยว เป็นกลุ่มธุรกิจที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนค่อนข้างสูง ธนาคารได้สั่งการให้ศูนย์ธุรกิจที่ตั้งอยู่ในจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ ของประเทศเร่งประชาสัมพันธ์ และกำชับให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ธนาคารยังได้เตรียมวงเงินเพิ่มเติมอีกหลายพันล้านบาท หากผู้ประกอบการมีความต้องการเงินลงทุนมากกว่าที่กำหนด จึงนับเป็นโอกาสที่ดีช่วยสร้างสภาพคล่องทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการในช่วงสั้นสิ้นปี และสร้างความแข็งแกร่งธุรกิจ โดยสำหรับมาตรการ 60 วัน 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถช่วยสร้างผู้ประกอบการ 1,000 ราย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ฝ่ายสื่อสารองค์กร
โทร. 02-201-3700 ต่อ 6002-4