มุมมองทริสเรทติ้งต่อตลาดที่อยู่อาศัยยังคงเติบโต แต่ระดับหนี้สูงเป็นสิ่งน่าห่วง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 8, 2011 14:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด กล่าวในรายงานวิจัยล่าสุดโดยระบุถึงอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ว่าจะยังคงเติบโดต่อไปในช่วงที่เหลือของปี 2554 อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งยังมีความกังวลว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ได้รับอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งจะยังคงมีภาระหนี้ในระดับสูงต่อไปอีกในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า พร้อมเตือนให้ผู้ประกอบการเร่งเสริมความแข็งแกร่งให้แก่งบดุลเพื่อรักษาสถานะอันดับเครดิตเอาไว้ ทริสเรทติ้งประเมินว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทยจะยังคงเติบโดต่อเนื่องต่อไปจากปัจจัยเอื้ออำนวยต่าง ๆ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแรง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น และการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยตลาดบ้านเดี่ยวน่าจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ในขณะที่ตลาดทาวน์เฮ้าส์น่าจะเติบโตในระดับที่ต่ำกว่าตลาดโดยรวมเมื่อพิจารณาจากจำนวนหน่วยเหลือขายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนยอดขายคอนโดมิเนียมในปี 2554 น่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2553 การเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมน่าจะได้รับแรงหนุนจากสินค้า 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาทในทำเลที่เป็นย่านชุมชนหนาแน่น และกลุ่มระดับราคาสูงกว่า 5 ล้านบาทในทำเลที่ใกล้เส้นทางระบบรถไฟฟ้า ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยน่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงในตลาดแนวราบ และการลดลงของกลุ่มผู้ซื้อเพื่อเก็งกำไรในตลาดคอนโดมิเนียม ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า รัฐบาลใหม่อาจประกาศใช้นโยบาย 2 ประการที่มีผลเกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง นโยบายประการแรกที่เกี่ยวกับ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปลอดดอกเบี้ยนั้น ทริสเรทติ้งมีความเห็นว่าน่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้เพียงในระยะสั้น ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะเพิ่มแรงกดดันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อต้นทุนค่าก่อสร้าง โดยคาดว่าต้นทุนก่อสร้างจะปรับสูงขึ้นประมาณ 2%-5% อย่างไรก็ตาม ในระยะปานกลาง ผู้ประกอบการน่าจะสามารถปรับรูปแบบสินค้าและราคาให้สอดคล้องกับค่าแรงที่สูงขึ้นได้ โดยที่ผ่านมา ผู้ประกอบการก็สามารถรักษาระดับอัตรากำไรให้มีความสม่ำเสมอได้ท่ามกลางราคาที่ดินและวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น ทริสเรทติ้งเชื่อว่าต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะไม่ส่งผลกระทบในทางลบต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม หากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นเกินกว่า 6% ประกอบกับนโยบายการเงินที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ทริสเรทติ้งเชื่อว่าโอกาสที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญกับภาวะถดถอยน่าจะมีความเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาต่ำ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านี้อาจต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างมากหากสภาวะตลาดถดถอยอย่างรุนแรง สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้งนั้นยังมีประเด็นกังวลในเรื่องของภาระหนี้ ทั้งนี้ ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการแข่งขันซื้อที่ดินและการเพิ่มขึ้นของสินค้าที่อยู่อาศัยคงเหลือที่มีมาตั้งแต่ปี 2553 ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ของผู้ประกอบการเหล่านี้จะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2555 เป็นอย่างน้อยเมื่อพิจารณาจากระดับการขายในปัจจุบัน ทั้งนี้ ผู้ประกอบการน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2.7 ปีในการระบายสินค้าคงเหลือที่มีอยู่ทั้งหมด ในช่วงไตรมาสข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าผู้ประกอบการดังกล่าวจะให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างงบดุลให้แข็งแรงยิ่งขึ้นเพื่อเสริมสถานะอันดับเครดิตของตนให้กลับมาดีขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ