ลงทุน 7 เดือนสดใสเพิ่ม 45.5% บีโอไอมั่นใจมูลค่าลงทุนทั้งปีทะลุเป้า 4 แสนล้าน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 8, 2011 14:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--บีโอไอ บีโอไอเผยยอดขอรับส่งเสริม 7 เดือน เฉียด 300,000 ล้านบาท มูลค่าลงทุนกรกฏาคมเดือนเดียวกว่า 53,000 ล้านบาท สูงที่สุดเมื่อเทียบจากตั้งแต่ช่วงต้นปี เลขาธิการบีโอไอ มั่นใจทิศทางลงทุน โตต่อเนื่องดันการลงทุนปีนี้ เกินเป้าหมาย 400,000 ล้านบาท ชี้กระแส บีโอไอแฟร์ 2011 กระตุ้นความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กรกฏาคม 2554) ว่า มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน ทั้งสิ้น 1,030 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 299,500 ล้านบาท โดยจำนวนโครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มี 747 โครงการ หรือเพิ่มขึ้น 37.9% ในขณะที่มูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 45.5% ทั้งนี้การขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2554 โดยเฉพาะการลงทุนในเดือน กรกฎาคม 2554 เดือนเดียว มียื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวนถึง 161 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 53,600 ล้านบาท สูงที่สุดในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา โดยมีขนาดการลงทุนกระจายทั้งในส่วนของโครงการขนาดกลางและเล็ก จนถึงโครงการขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าเงินลงทุนตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเข้ามามาก อาทิ โครงการผลิตเครื่องปรับอากาศ โครงการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมถึงกิจการขนส่งทางอากาศ กิจการนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น “เมื่อพิจารณาจากตัวเลขการลงทุนล่าสุด ซึ่งอยู่ที่เกือบ 300,000 ล้านบาท จึงทำให้บีโอไอมั่นใจได้ว่าการลงทุนของไทยปีนี้ จะเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 400,000 ล้านบาทได้ เนื่องจากแนวโน้มความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยยังมีการเติบโตไปจนถึงสิ้นปี 2554 ได้ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีซึ่ง บีโอไอ จะมีการจัดงานนิทรรศการใหญ่ บีโอไอแฟร์ 2011 ซึ่งจะยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพและสร้างความเชื่อมั่นในการเป็นฐานการลงทุนของไทยในระดับภูมิภาคได้ยิ่งขึ้น”นางอรรชกากล่าว นางอรรชกา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจการที่มีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 7 เดือน มีกระจายในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้กิจการที่นักลงทุนให้ความสนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง จำนวน 265 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 83,100 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มี 140 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 26,600 ล้านบาท รองมาเป็น กิจการบริการและสาธารณูปโภค จำนวน 222 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 61,500 ล้านบาท โครงการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 214 โครงการ ในขณะที่มูลค่าเงินลงทุนปรับลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน กิจการ เคมี กระดาษ และพลาสติก จำนวน 141 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 49,900 ล้านบาท จำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 93 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 16,200 ล้านบาท และ กิจการ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีจำนวน 146 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 46,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุน จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 111 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 13,600 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ