กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--กทม.
กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ องค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (DPI) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (UNESCAP) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยการท่องเที่ยวที่เอื้ออำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ 2550 (International Conference on Accessible Tourism : ICAT 2007) ระหว่างวันที่ 22 — 24 พ.ย.50 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความสำคัญของนักท่องเที่ยวในกลุ่มดังกล่าว
การจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยการท่องเที่ยวที่เอื้ออำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ 2550 หรือ ICAT 2007 ในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ซึ่งรูปแบบของการจัดประชุมแบ่งออกเป็นการบรรยายเชิงวิชาการและการแบ่งกลุ่มทำ Workshop ใน 2 วันแรก และในวันสุดท้ายกรุงเทพมหานครได้จัดโปรแกรมทัศนศึกษาสำหรับผู้เข้าร่วมประชุม โดยนำชมพระบรมมหาราชวัง สวนสามพราน และล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยาในพิธีปิดอีกด้วย
นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ปัจจุบันยังประสบปัญหาด้านการให้บริการการท่องเที่ยวที่ตอบสนองนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ไม่ดีนัก โดยในเรื่องดังกล่าวกรุงเทพมหานครมีนโยบายด้านคุณภาพชีวิตที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับทุกคน เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานครได้อย่างมีความสุขและเข้าถึงบริการสาธารณะต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายและทั่วถึง โดยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการกรุงเทพมหานครขึ้น มีคณะอนุกรรมการทำหน้าที่ดูแลในด้านต่างๆ เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา สุขภาพ สวัสดิการสังคมและส่งเสริมอาชีพคนพิการ โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญในการผลักดันให้อาคารต่างๆ จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานแก่คนพิการ เช่น จัดให้มีทางลาดสำหรับรถเข็นคนพิการ ห้องน้ำสำหรับคนพิการ รวมถึงการจัดทำป้ายแสดงสัญลักษณ์ของบริการต่างๆ เพื่อผู้พิการ
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังมอบนโยบายให้กับสำนักงานเขตทุกแห่ง จัดทำข้อมูลในการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ เพื่อเตรียมนำไปประกาศเป็นวาระกรุงเทพมหานครที่จะผลักดันให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญในการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อผู้พิการ ทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ ต่อไป โดยขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดทำโครงการ “ถนนคนสัมพันธ์” ด้วยการปรับปรุงทางเท้า ถนนราชดำริ เพื่อเป็นถนนคนพิการต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งถนนราชดำรินั้นก็ถือเป็นถนนสายท่องเที่ยวสายสำคัญอีกสายหนึ่ง เนื่องจากมีศูนย์การค้าและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งตั้งอยู่บนถนนสายนี้ และจะขยายไปสู่ถนนสายอื่นๆ เช่น ถนนเพลินจิต ถนนราชประสงค์ ถนนวิทยุ และสยามสแควร์ ต่อไปด้วย
การท่องเที่ยวที่เอื้ออำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุนั้น เป็นการให้ความสำคัญกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีข้อจำกัดทางกายภาพ อาทิ เด็ก คนพิการ คนสูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและคนพิการ ถือเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มในการเติบโตทางการตลาดอย่างมีศักยภาพ และมีบทบาทต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอนาคต ดังนั้น จึงควรเริ่มสร้างความตระหนักในความสำคัญของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้กับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ซึ่งการประชุมในครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดกระบวนการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นการรองรับการขยายตัวทางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยต่อไป