กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
วันนี้ บริษัทดาว เคมิคอล (NYSE: DOW) แถลงว่า ดาว เคมิคอล ได้เพิ่มปริมาณการผลิต ENLIGHT โพลิโอเลฟินฟิล์ม สำหรับเซลล์แสงอาทิตย์ โดยเตรียมที่จะสร้างโรงงานใหม่ในพื้นที่มาบตาพุด และเมืองชกุ๊คเพาว์ ประเทศเยอรมนีในปีหน้า ซึ่งโรงงานทั้งสองแห่งจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตฟิล์มชนิดพิเศษที่ใช้เป็นวัสดุสำหรับผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ได้มากกว่าสามเท่า และช่วยสร้างศักยภาพของบริษัทในการส่งออกฟิล์มชนิดนี้ไปทั่วโลก
กลุ่มบริษัทดาวได้เปิดตัวเทคโนโลยี ENLIGHT โพลิโอเลฟินฟิล์มนี้ เมื่อเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมา นวัตกรรมโพลิโอเลฟินฟิล์มสำหรับผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์นี้จะช่วยให้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ผลิตได้มีความเสถียรและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และอาจช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเร่งกระบวนการทำงานให้รวดเร็วขึ้น ทำให้ผู้ผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย อีกทั้ง ENLIGHT โพลิโอเลฟินฟิล์มนี้ ยังได้รับการยอมรับจากยูแอล (Underwriters Laboratories) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ดำเนินการเพื่อรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และจัดทำมาตรฐานด้านความปลอดภัยอีกด้วย
“การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งที่บริษัท ดาว เชี่ยวชาญและกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันความต้องการระบบการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์นั้นเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และมีแนวโน้มที่จะเติบโตในระดับเดียวกันนี้ไปอีกหลายปี” นายบริดจ์ ซิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์พลาสติกเพื่อพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท ดาว เคมิคอล กล่าว
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน เช่น United Nations Environmental Program (UNEP), Bloomberg New Energy และ the Frankfurt School for Climate and Sustainable Energy Finance ออกรายงานร่วมกันว่าการลงทุนในพลังงานทดแทน ทั้งพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เป็นมูลค่าเกือบหนึ่งในสามของมูลค่ารวมทั่วโลก ประมาณ 211,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6.3 ล้านล้านบาท ในปี 2010 โดยการเติบโตที่เร็วที่สุดส่วนหนึ่งมาจากความต้องการแผงโซล่าเซลล์ขนาดเล็กที่ใช้บนหลังคาในแถบยุโรป เฉพาะในประเทศเยอรมนีประเทศเดียวก็มีอัตราการลงทุนด้านพลังงานทดแทนสูงขึ้นถึง 132 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจากรายงานของ UNEP พบว่าอัตราการใช้เซลล์แสงอาทิตย์นั้นเพิ่มสูงขึ้น ปัจจัยหนึ่งเนื่องด้วยการมีราคาที่สามารถแข่งขันได้กับแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเขตร้อนทั้งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาและกำลังพัฒนาทั่วโลก
ดาว มีผลิตภัณฑ์ ENLIGHT? ฟิล์มที่หลากหลาย และสามารถพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่แตกต่างของลูกค้าได้ โดย ENLIGHT? ฟิล์มของดาวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่าฟิล์มที่ใช้ในเซลล์แสงอาทิตย์ทั่วไป เช่น ฟิล์มชนิด Ethylenel Vinyl Acetate ทั้งในเรื่องความเสถียร สมรรถนะของการผลิตไฟฟ้า และหมาะสำหรับเซลล์แสงอาทิตย์ทั้งแบบคริสตัลไลน์ซิลิคอน (crystalline silicon (C-Si)) และแบบฟิล์มบาง (thin-film)
นายพอล เคอร์ติน ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีสำหรับฟิล์มชนิดพิเศษ กล่าวว่า “โรงงานใหม่นี้ได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีเดียวกันกับที่โรงงานที่ไฟนด์เลย์ รัฐโอไฮโอ ซึ่งได้เริ่มเดินเครื่องการผลิตไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา”
นายราฟ บริงค์แมน ประธานกลุ่มบริษัทดาวในเยอรมนี เปิดเผยว่า “โรงงานแห่งใหม่ในชกุ๊คเพาว์จะเป็นหนึ่งในโรงงานที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งในยุโรป ปัจจุบันเมืองชกุ๊คเพาว์เป็นแหล่งที่ตั้งของบริษัทผลิตเซลล์แสงอาทิตย์และผลิตส่วนประกอบในเซลล์แสงอาทิตย์แหล่งใหญ่ของเยอรมนี” นายราฟยังประเมินว่าเมื่อโรงงานผลิตฟิล์ม ENLIGHT? เริ่มเดินเครื่อง จะมีความต้องการตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นอีก 30-40 ตำแหน่ง
“โรงงานของดาวแห่งใหม่ในพื้นที่มาบตาพุด จะสร้างด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงานล่าสุด ที่ส่งเสริมแนวทางของดาวในการที่จะขยายการดำเนินงานในประเทศไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงานอีกกว่า 30 — 35 ตำแหน่ง ที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ดาว เคมิคอล ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยความได้เปรียบที่มีพื้นที่เป็นเมืองท่าติดทะเล” นายจิรศักดิ์ สิงห์มณีชัย ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทดาว เคมิคอล ประเทศไทย กล่าว
นายซิน กล่าวทิ้งท้ายว่า “ดาวได้อุทิศและทุ่มเทในการแสวงหาเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาพลังงานจากแสงอาทิตย์และนำพลังงานที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในหลากหลายแนวทาง เช่น ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ หลังคาพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับที่พักอาศัย นอกเหนือจาก ENLIGHT? ฟิล์มสำหรับการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แล้ว ดาวยังสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์แสงอาทิตย์ เช่น วัสดุประสาน ADCOTE? Solvent-based Adhesives, MOR-FREE? Solventless Laminating Adhesives, และระบบเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อที่อยู่อาศัย POWERHOUSE?”
ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท ดาว เคมิคอล
บริษัท ดาว เคมิคอล ผสานพลังของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ากับ “คน” (Human Element) มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อยกระดับวิถีชีวิตของมนุษยชาติให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง บริษัทเชื่อมโยงกระบวนการทางเคมีและนวัตกรรมเข้าด้วยกันภายใต้หลักของความยั่งยืน (Principles of sustainability) เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ท้าทายยิ่งของโลก เช่น อุปสงค์ของน้ำดื่ม การผลิตและอนุรักษ์พลังงาน และการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร บริษัทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่หลากหลายตั้งแต่ สารเคมีชนิดพิเศษ วัสดุที่ใช้เทคโลโนยีชั้นสูง วิทยาศาสตร์การเกษตร และธุรกิจพลาสติก โดยนำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์และวิธีการ (Products and solutions) อย่างกว้างขวางบนพื้นฐานเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าใน 160 ประเทศทั่วโลก และในธุรกิจที่เติบโตสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ น้ำ พลังงาน สารเคลือบ และเกษตรกรรม ในปี พ.ศ. 2553 บริษัทมียอดขายประมาณ 53,700 ล้านเหรียญสหรัฐ มีพนักงานจำนวน 50,000 คนทั่วโลก โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 5,000 รายการ ซึ่งผลิตจากโรงงาน 188 แห่ง ใน 35 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้คำว่า “บริษัท” หรือ “ดาว” หมายถึงบริษัท ดาว เคมิคอล และบริษัทในเครือ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dow.com